Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Saran Yim
•
ติดตาม
5 ส.ค. 2019 เวลา 02:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ว่าด้วย HP, BHP และ PS
ม้าเยอรมันมันแรงกว่าม้าญี่ปุ่นนะเว้ย
คนเล่นรถทั้งหลายต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รถยนต์ที่แรงม้าเท่ากัน ถ้าเป็นรถจากเยอรมัน มันจะมีพละกำลังมากกว่ารถจากฝั่งญี่ปุ่น
ขอบอกว่า เรื่องนี้ไม่มโนนะ
หลังจาก James Watt ประกาศมาตรฐาน 1 แรงม้า เท่ากับ 33,000 ft-lbs/min ไว้เมื่อปี 1783
โดยในยุคนั้น ค่าแรงม้าที่วัดจากเครื่องจักร เป็นการวัดเทียบผลลัพธ์ของเครื่องจักร กับผลลัพธ์การทำงานของม้า ไม่ได้มีการวัดประสิทธิภาพของเครื่องจักรตรงๆ
แต่มีการบันทึกไว้ว่า ความพยายามที่จะวัดประสิทธิภาพของเครื่องจักรนั้นมีมาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดย George Graham ได้สร้างเครื่องมือสำหรับวัดความสามารถของเครื่องจักร และตั้งชื่อว่า Dynamo meter หรือเรียกสั้นๆ ว่า ไดโนนั่นละ หลักการทำงานของมันก็คือ เอาเพลาของเครื่องจักร ต่อเข้ากับเพลาของไดโน ซึ่งเพลานี้จะไปปั่นใบพัดที่อยู่ด้านในตัวเครื่องซึ่งเติมน้ำไว้จนเต็มเครื่อง เมื่อใบพัดหมุน มันก็ทำให้น้ำเกิดการเคลื่อนที่ไปดึงให้โครงด้านนอกของตัวไดโนหมุนไปด้วย ในการวัดค่า ก็จะเอาตุ้มถ่วง มาถ่วงไว้ จนกว่าโครงด้านนอกของไดโนจะหยุดนิ่ง ก็จะสามารถบอกได้ว่า เครื่องจักรเครื่องนั้น มีแรงบิดเท่าไหร่
ไดโนในยุคแรกนั้น สามารถวัดค่าแรงบิดออกมา แต่มันไม่ได้สะท้อนถึงความสามารถในการทำงานของเครื่องจักรได้ ยกตัวอย่าง เครื่องจักรเครื่องที่ 1 มีแรงบิดสูงมาก แต่ทำงานที่รอบเครื่องต่ำมาก เทียบกับเครื่องจักรอีกเครื่อง ที่มีแรงบิดแค่ครึ่งเดียว แต่รอบการทำงานสูงกว่าเป็นสองเท่า
ยกตัวอย่างให้ง่ายอีกนิด เครื่องจักรสองเครื่อง ยกของขึ้นไปบนที่สูง 10 เมตร เครื่องที่หนึ่งแรงบิดเยอะ สามารถยกของได้หนักถึง 500 กิโลกรัม ขึ้นไปได้ใน 1 นาที เครื่องที่สอง มีแรงบิดน้อยกว่า สามารถยกของได้เพียง 250 กิโลกรัม แต่รอบการทำงานที่สูงกว่า ทำให้ใช้เวลาเพียงแค่ 30 วินาที ผลสุดท้ายใน 1 นาที เครื่องจักรทั้งคู่จะสามารถยกของหนัก 500 กิโลกรัมขึ้นที่สูง 10 เมตร ในเวลา 1 นาทีเท่ากัน แสดงว่าเครื่องจักรเครื่องไหนดีกว่ากัน???
ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดการคำนวนหากำลังของเครื่อง โดยคำนวนจากแรงบิดที่วัดได้จากไดโน ตามสมการ กำลัง เท่ากับ ทอร์ค คูณด้วยความเร็วเชิงมุม ในมาตราเมทตริก กำลังมีหน่วยเป็น วัตต์
*สมการในรูป มาจาก wikipedia นะครับ
เมื่อทำการคำนวนหากำลังของเครื่องออกมาได้แล้ว เราก็สามารถเอาเครื่องจักรสองเครื่องออกมาเทียบกันได้แล้วละ
สามร้อยปีหลังจากมีการสร้างไดโน และการพยายามหางทางโฆษณาเครื่องจักรของวัตต์ ก็มาสู่ยุครถยนต์ครองเมือง ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 Society of Automotive Engineers (SAE) ก็ได้ประกาศมาตรฐานการวัดแรงม้าสำหรับรถยนต์ขึ้นมา
ตั้งแต่ปี 1972 ผู้ผลิตรถยนต์ก็เริ่มโฆษณาจำนวนแรงม้าของเครื่องยนต์ โดยแรงม้าที่โฆษณานั้น เรียกว่า Brake Horse Powe หรือที่คุ้นเคยกันก็เป็นตัวย่อ BHP
BHP จะเป็นการวัดแรงม้าของเครื่องโดยตรง ไม่ผ่านระบบส่งกำลัง เอาง่ายๆ ก็ถคือ ถอดระบบเกียร์ออก แล้วก็เอาไดโน่ยัดเข้าไปแทน แล้วก็ทำการวัดแรงม้าเลย
ไอ้เจ้า BHP เนี๊ยะ ทาง SAE ก็กำหนดวิธีการวัดไว้ 2 รูปแบบ รูปแบบแรกเรียกว่า Gross SAE Powe
วิธีนี้ จะวัดแรงม้าที่เครื่องยนต์ผลิตได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยถอดอุปกรณ์ต่อพ่วงทุกอย่างออกไป ไม่มีคอมแอร์ ไม่มีไดชาร์จ ไม่มีปััมพาวเวอร์ ไม่มีพัดลม ไม่มีปั้มน้ำหล่อเย็น เรียกง่ายๆ คือ เอาเครื่องเพียวๆ มาวัดไดโน
รูปแบบที่สอง เรียกว่า Net SAE Power วิธีนี้จะวัดโดยให้มีส่วนประกอบที่ครบถ้วนเหมือนกับในรถที่ขาย มีคอมแอร์ ไดชาร์จ ปั้มพาวเวอร์ พัดลมหม้อน้ำ และ...
แน่นอนว่า อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ มันก็จะต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มาขับ ทำให้แรงม้าแบบ NET SAE POWER มีค่าน้อยกว่าแบบ Gross แต่ประเด็นก็คือ มันดันเรียกว่า BHP ทั้งคู่นะซิ
SAE เป็นองค์กรของอเมริกา ยุคนั้นอเมริกา กับเยอรมัน ก็ไม่ค่อยจะยอมกันเรื่องความเป็นเจ้าเทคโนโลยีซะด้วย เยอรมันบอกว่า เฮ้ย กติกาที่พวกเอ็งออกแบบมายังวัดค่าได้ไม่เท่ากันเลย แล้วมันก็ขี้โกงลูกค้าด้วย เพราะว่าตอนเอาเครื่องมาทดสอบนะ มันไม่ได้ใช้อุปกรณ์เหมือนในรถที่ขายจริงๆ ทุกชิ้นนี่หว่า ค่ายรถหัวหมอ ก็ทำท่อสูตรพิเศษ ที่สามารถสร้างแรงม้าได้เยอะ แต่ใส่ในรถจริงๆ ไม่ได้ ระบบหล่อเย็นก็ไม่มี แรงม้ามันก็เยอะเกินความเป็นจริงไปเยอะซิ ไม่เอาแบบนี้ไม่ดี เยอรมันไม่เอาด้วยละ
เยอรมันเลยกำหนดมาตรฐานแรงม้าอีกตัวขึ้นมา เรียกว่า PS เป็นภาษาเยอรมันคำว่า Pferdestärke ซึ่งก็แปลว่าแรงม้านั่นละ โดย PS จะอิงไปที่ SAE NET POWER แต่มีข้อแม้ว่า การวัดค่านั้นจะต้องทำในรถที่จะขายจริงๆ เท่านั้น คือว่าจะต้องมีและใช้อุปกรณ์ทุกอย่างแบบในรถที่จะขายจริงๆตั้งแต่ หม้อน้ำ ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง พาวเวอร์ ไดชาร์จ ท่อไอเสียก็เงียบๆ หม้อพักครบๆ
พูดง่ายๆคือเอารถทั้งคันมาเลย ยกเกียร์ออก เอาไดโน่ใส่แทน แล้ววัดเลย แรงม้า PS ก็จะวัดได้น้อยกว่าค่ามาตรฐานของ SAE อยู่นิดหน่อย
นี่ละทำไมม้าเยอรมันถึงแรงกว่าม้ายี่ปุ่น มันมีที่มาที่ไปแบบนีแหละ
แต่ก็ไม่ต้องซีเรียสอะไรมากแล้วนะครับ เพราะว่า SAE ก็ไม่ยอมเสียหน้านานนักหรอก จนปี 2005 SAE กำหนดมาตรฐานการวัดแรงม้า BHP ใหม่ คราวนี้แกมาแบบครบมากๆ พี่แกกำหนดถึงระดับน้ำมันเครื่องในอ่างน้ำมันเครื่องเลยทีเดียว ในมาตรฐานใหม่ ได้กำหนดชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง กล่อง ECU ก็ห้ามใช้รุ่นจูนพิเศษ ต้องเป็นกล่องสำหรับขายจริงๆ มันก็ส่งผลให้ รถรุ่นใหใ่ๆ แรงม้าเยอรมัน กับม้ายี่ปุ่นไม่ต่างกันแล้วครับ
3 บันทึก
20
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เจาะลึกไดโน
3
20
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย