13 ก.ย. 2019 เวลา 12:50 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
หิน
ตกแต่งตู้ปลาและบ่อปลา
หินสำหรับการจัดแต่งตู้ปลาสวยงามจะมีมากมายหลายชนิดแล้วแต่คนจะคิด จะสรรหากันมาได้ แต่หินชนิดหลัก ๆ ที่ขายตามท้องตลาดโดยทั่วไป คือ หินแม่น้ำ หินลูกรัง หินบัวลอย หินส้ม หินเกล็ด หินกาบ หินชั้น หินทราย...ฯลฯ
หินแม่น้ำ
1. หินแม่น้ำ
หินที่ได้จากการดูดขึ้นมาตามแม่น้ำต่าง ๆ เช่น แม่น้ำโขง แม่น้ำเจ้าพระยา หรือริมแม่น้ำจังหวัดกาญจนบุรี ลักษณะหินแต่ละก้อนจะมีขนาด สี และลักษณะที่แตกต่างกันคละเคล้ากันไป สีส้มบ้าง น้ำตาลบ้าง ผิวหยาบบ้าง ผิวเรียบเนียนกลมมนบ้าง ซึ่งทางผู้ขายจะทำการแยกขนาด และสีออกมาเป็นเบอร์ต่าง ๆ เพื่อความสะดวกสำหรับลูกค้า ส่วนมากหินแม่น้ำจะสามารถนำมาใส่ตกแต่งกับตู้ปลาได้แทบทุกชนิด นิยมที่สุดตอนนี้คือ หินแม่น้ำสีน้ำตาล ซึ่งมักจะนำมาใส่ตู้ปลาหมอสีครอสบรีด ซึ่งช่วยให้ปลาขับสีได้ดีขึ้น
ส่วนหายากที่สุดคือ หินแม่น้ำสีแดงครับ เนื่องจากปริมาณน้อยแต่ความต้องการของตลาดค่อนข้างสูง หินลูกรัง ดูชื่อแล้วนึกถึงถนนในต่างจังหวัดครับ เห็นภาพตอนขับรถผ่านถนนลูกรังในวันที่อากาศร้อน และ ฝุ่นเหลืองฟุ้งไปทั่วได้เลยอ่ะ หินลูกรัง คือ หินที่ดูดมาขึ้นจากบ่อหิน บ่อทรายต่าง ๆ หินมีลักษณะ หยาบ ๆ ดูเป็นเหลี่ยม ๆ เป็นหินที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก และละเอียด ส่วนมากมีสีน้ำตาลแดง
หินบัวลอย
2. หินบัวลอย
ชื่อหินชนิดนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูใครหลาย ๆ คน จะคุ้นก็แต่ชื่อขนมบัวลอยไข่หวานซะมากกว่า แต่พอเห็นแล้วนึกออกทันทีว่า "หินบัวลอย" จะมีลักษณะเป็นก้อนหินสีขาว กลมมน ดูสวยงาม มองแล้วสบายตาดี เป็นหินที่ดูดขึ้นมาทำการคัดบ่อหิน บ่อทราย มักจะเห็นบ่อยในตู้ปลาที่ใช้เลี้ยงซุปเปอร์เรดซิน
หินส้ม
3. หินส้ม
หินแม่น้ำที่ผ่านการคัดแยกแล้ว โดยคัดเฉพาะก้อนที่มีลักษณะกลมมน ส่วนมากมักจะมีสีน้ำตาลส้มหรือสีส้ม หินส้มนี้ต้องใช้คนคัด คัดกันทีละก้อนต่อก้อนกันเลยแหละ เท่าที่รู้ค่าคัดหินส้มได้กระสอบละประมาณ 20 บาทต่อกระสอบ(เห็นคนคัดหินเลยแวะไปถามมา)
หินเกล็ด
4. หินเกล็ด
เป็นหินที่ได้จากภูเขา สีตามธรรมชาติจะมีเยอะแยะมากมายหลายสี ไม่ว่าจะเป็น สีแดง สีเหลือง สีส้ม สีชมพูอ่อน ๆ แต่เท่านั้นยังไม่พอทางผู้ผลิตได้นิยมทำการขยายผลต่อไปอีก โดยการนำมาย้อมสีสันต่าง ๆ สารพัดเฉดสี ช่วยทำให้ตู้ปลามีสีสันบาดตา บาดใจ มากยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกในปัจจุบัน มีทั้งชนิดเป็นสีเดียวหรือคละสี หินชนิดนี้คงคุ้นตากันดีอยู่แล้วสำหรับผู้เลี้ยงปลาสวยงามในปัจจุบัน
หินกาบ
5. หินกาบ
มีลักษณะแปลกตา คือเป็นแผ่น ๆ มีทั้งแผ่นเรียบและ แผ่นหยัก ๆ ใหญ่ ๆ คิดง่าย ๆ ตลก ๆ ก็คล้ายมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบดี ๆ นี้แหละ(หิวกันเลยทีเดียว) หินกาบก้อนจะกลม ๆ มน ๆ แบน ๆ เมื่อก่อนเห็นนิยมนำมาใช้จัดตู้ปลาโดยการวางซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จนเต็มตู้ไปหมด จะทำให้ดูสวยไปอีกแบบ ส่วนหินอีกแบบคือ ก้อนใหญ่ ๆ หยักไปหยักมา ลักษณะมีลวดลาย สวย สง่า หรูหรา น่าเกรงขาม แปลกตาดีกว่าแบบแรกที่กล่าวมา เหมาะสำหรับการจัดตู้ปลาที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ตามซอก ๆ ขอบหิน เหมาะจะเป็นที่ให้ปลาเล็กปลาน้อยหลบได้อย่างดีเลยทีเดียว
หินชั้น
6. หินชั้น
หินประดับอีกชนิด ที่ดูสวยแปลกตาดีอีกประเภท จะมีลักษณะเป็นก้อนหนา ๆ สีน้ำตาล ดูเหมือนซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ นำมาใช้แต่งตู้ปลา สามารถดูเป็นธรรมชาติ และสวยสะดุดตาได้อีกประเภทกันเลยทีเดียว
หินปะการัง
7. หินปะการัง
จริง ๆ แล้วหินปะการังไม่ใช่หิน แต่ขอเหมารวมไปเพื่อความเข้าใจที่ง่ายยิ่งขึ้น เพราะเป็นหินสารพัดประโยชน์ ที่มีราคาค่อนข้างสูงกว่าหินโดยทั่วไป ลักษณะสีขาว เป็นก้อนยาว ๆ รีและขอบมน มีรูพรุนอยู่ทั่วทั้งก้อน นอกจะใช้ประโยชน์ในการจัดแต่งตู้ปลาให้สวยงามแล้ว ยังมีความสามารถพิเศษอีกอย่างคือ เป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีของจุลินทรีย์ ที่ช่วยย่อยสลายของเสียในน้ำ ทำให้ช่วยลดสารพิษในน้ำได้เป็นอย่างดี มักใช้ในการปูพื้นตู้ หรือใส่ในช่องกรองเพื่อให้น้ำสะอาดอยู่ตลอดเวลา
จริง ๆ แล้วชนิดของหินและทรายที่ใช้ตกแต่งตู้ปลายังมีอีกเยอะแยะมากมายในปัจจุบัน ถ้าเอามาเขียนให้หมด หน้ากระดาษคงไม่พอ ส่วนข้อควรระวังในการเลือกซื้อหิน นอกจากต้องคำนึงถึงเรื่องความสวยงามแล้ว ยังต้องดูความเหมาะสมกับชนิดปลาที่เราเลี้ยงแต่ละชนิดกันด้วย เช่น ใช้หินกาบปูที่บริเวณพื้นตู้ ทำให้ดูสวยงามดีและดูสบายตา แต่ถ้าเราเลี้ยงปลาที่ต้องกินกุ้งเป็นอาหาร พอถึงเวลาให้อาหารกุ้งจะมุดเข้าซอกหินหมด ทำให้ปลาที่เราเลี้ยงยังไม่ทันได้กินอาหารเลย กุ้งก็สามารถหนีไปหมดซะแล้ว
และที่สำคัญกุ้งที่นี้ไปได้ดันไปตายตามซอกหิน ใต้หินบริเวณต่าง ๆ ส่งผลให้น้ำจะเน่าเสียเร็วขึ้นมากกว่าปกติ 5-10 เท่าเลยทีเดียว
คุณภาพหินแต่ละที่ แต่ละจังหวัดจะมีคุณภาพความแข็งแกร่งทนทานไม่เหมือนกัน เช่น หินบัวลอยหรือหินกาบ บางแห่งหินคุณภาพไม่ดี เมื่อต้องผ่านการขนส่งอย่างดุเดือดทุลักทุเล พอเปิดกระสอบออกมา แตกหักไม่มีชิ้นดี ก่อนซื้อลองขอเปิดกระสอบดูก่อนก็ได้เพื่อตรวจเช็คเพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนจะซื้อของ ถ้าเจอแตกหักเยอะจนเกินไปก็อย่าไปเอาเลย ขอเปลี่ยนหรือซื้อใหม่จะดีกว่า
ส่วนเรื่องการทำความสะอาดหิน บางคนจะแช่ด้วยเกลือ หรือด่างทับทิม แล้วจึงนำมาล้างหลาย ๆ น้ำจนสะอาด หากคุณใช้ด่างทับทิม ระวังอย่าแช่จนนานไป ไม่งั้นหินจะติดสีของด่างทับทิมทำให้สีเพี้ยนไปเลย(ส่วนใครที่ชอบสีเพี้ยน ๆ แปลกกว่าเดิมก็ไม่ว่ากันนะครับ) ยิ่งถ้าเป็นปะการัง แช่น้ำทิ้งข้ามคืนไว้ได้เลยครับ เพราะจะค่อนข้างจะขุ่นมากกกกกกกกก เมื่อล้างน้ำและทำความสะอาดเรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จ สำหรับหินใหม่ ๆ
หากคุณเทน้ำลงไปตรง ๆ ตะกอนของหินก็จะทำให้น้ำขุ่นอยู่ดี แต่ไม่ต้องตกใจไป ให้เราเปิดกรองทิ้งไว้ซักครึ่ง ชม. น้ำก็จะใสเหมือนเดิมหรือจะให้ง่ายกว่านั้น ตอนที่เทน้ำใส่ตู้ลงไป เอามือของคุณแหละครับ รองน้ำไว้ก่อนที่จะกระทบหิน เท่านี้น้ำก็จะไม่ขุ่นแล้ว ลองไปทำกันดูรับรองง่ายนิดเดียว
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำออนไลน์
fishway
Website : ...coming soon...
Youtube : ...coming soon...
Tiktok : ...coming soon...
Line VOOM : ...coming soon...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา