25 ก.ย. 2019 เวลา 13:44 • ไลฟ์สไตล์
#ASMRเล่าเรื่องผี
(เวอร์ชั่นเสียงกระซิบ)
Ep5 เรื่อง: โรงพยายาลสยอง วิญญาณยังคงอยู่
ปกติแล้วชอบไปรพ.เก่าๆ กันบ้างไหมคะ
ถ้าไม่ชอบไป เคยสงสัยรึเปล่าเพราะอะไรถึงได้ไม่ชอบ
อาจจะเป็นเพราะกลิ่นเก่าๆ จากตึกที่สร้างนานแล้ว
หรือเพราะกลิ่นยา ที่คละคลุ้งอัดแน่นกันอยู่ในรพ.รึเปล่า
👻 ฟังเสียงในรูปแบบวีดีโอเสียง ASMR คลิก 👇
👻 ดูเรื่องผีทั้งหมดแบบเสียงปกติคลิก 👇
👻 ดูแบบ ASMR เสียงกระซิบทั้งหมด 👇
กลิ่นชวนเวียนหัวที่น่าอึดอัด
แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลหลัก
ของชาว Full moon ที่เจอมาหรอกค่ะ
ลองฟังเรื่องเล่าจากบุรุษพยาบาลคนนี้ แล้วจะเข้าใจ
ตามพวกเรามาฟังกันเลย
จาก Full moon เรื่องเล่าคืนพระจันทร์เต็มดวง
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของ น้องบุรุษพยาบาลคนหนึ่ง ที่ชื่อ วิท
เขาเล่าว่า ก่อนนี้เขารถมอเตอร์ๆไซค์ล้มคว่ำกระทันหัน เพราะฝนตกหนัก มอเตอร์ไซค์ล้มแฉลบอย่างแรง ร่างเขาลอยไปกระแทกที่เสาข้างทาง เจ็บหนักถึงกับต้องเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเดือน
ด้วยความที่เป็นอุบัติเหตุฉุกเฉิน เขาจึงโดนส่งตัวไปรักษาที่ใกล้จุดเกิดเกตุที่สุด นั่นก็คือ รพ.เก่าๆแถวริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ตลอดเวลาเดือนเศษที่เขานอนพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนั้น
ในระหว่างความเป็นความตาย การรอดชีวิตของเขานั้นเรียกได้ว่าปาฎิหาร ทั้งหมอและนางพยาบาลก็ต่างตกใจที่รอดมาได้ เพราะสภาพตอนที่ถูกหามมาโรงพยาบาลนั้นสุดจะร่อแร่
เขารอดตายครั้งนั้นทำให้พบเหตุการณ์ต่างๆ
ที่ทำให้ความเชื่อเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล
เรื่องลึกลับที่เขาเคยคิดว่าไม่น่าจะมีอยู่จริง แต่แล้วมันก็เกิดขึ้น
จากวันนั้นที่เขานอนโคม่าอยู่หลายวัน
อยู่ก็ต้องผวาตกใจตื่นขึ้นมา
เมื่อรู้สึกว่ามีใครบางคนมานอนเบียดเขาอยู่บนเตียง
เขางุงงงและสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความที่ยังเมายาที่หมอฉีดให้
หรืออาจเพราะยังไม่ได้สติดี
เขามองเห็นชายผู้นั้นได้เพียงรางๆ
ชายผู้นั้นใส่เสื้อสีกากี ชุดเหมือนคนในเครื่องแบบ
อยู่ๆก็มานอนเบียดจะตกเตียง
เขาพยายามผลักชายคนนั้นเต็มแรง
แต่เพราะแรงไม่มีแค่ยกแขนก็แทบจะไม่ไหว
แต่เขาก็ไม่ยอม พยายามผลักชายเสื้อสีกากีสุดแรงเกิด
แต่ชายคนนั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยังนอนเบียดแย่งที่แบบหน้าด้านต่อไป
ชายคนนั้นไม่สนเลยด้วยซ้ำ ว่ากำลังเบียดคนที่กำลังนอนเจ็บอยู่
ไม่ว่าจะผลักไสทุบตีอย่างไร ชายในเครื่องแบบก็ไม่ยอมลุกไปนอนที่อื่น
จน วิท ทนไม่ไหว ก็ได้แต่มองหาหมอหาพยาบาลช่วยไล่นายคนนี้
แต่ก็ไม่เห็นใครเลยซักคน ตอนนี้คงดึกมากแล้ว นางพยาบาลน้อยลงมาก
คนไข้ในเตียงข้างๆก็กำลังหลับสนิทอย่างกับต้องมนต์
วิทได้แต่ถอนใจ ออกแรงผลักเขาอีกเขาอีกรอบ
ยื้อแรงกันไปมา ฝ่ายชายชุดเครื่องแบบก็ไม่มีทีท่าว่าจะไหวติง
ร่างอันใหญ่โตของเขาแทบจะบังตัว วิท มิดเตียงทั้งเตียง
ยิ่งนานก็รู้สึกยิ่งโดนเบียด พื้นที่เตียงหายไปกว่าครึ่ง
เขาทั้งโมโหและโกรธ ที่พยาบาลปล่อยให้ใครไม่รู้มานอนแย่งเตียงเขาได้อย่างไร ไม่เข้าใจว่า รพ.นี้เตียงไม่พอขนาดนั้นเลยหรือ
แต่โมโหแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ เขาหัวเสียจนรวบรวมกำลัง
ได้แต่ร้องตะโกนด่าไปว่า
"เฮ้ยยย!! เตียงนี่ไม่ว่างก็ยังมาเบียดอยู่ได้
ไม่เห็นจะป่วยสักหน่อย จะมีเบียดคนเจ็บทำไมวะ
ไปนอนที่อื่นซะไป๊"
สิ้นสุดเสียงด่าทอ แต่ชายคนนั้นก็ยังนอนนิ่งเฉยอยู่เช่นเดิม
วิทได้แต่ปลง แล้วคิดในใจ เอาวะทนไปอีกซัก ชม.
รอจนกว่าพยาบาลเวรมาเดินตรวจ
ณ ขณะนั้นเป็นเวลาดึกมาก แต่ดึกยังไงก็ต้องมีพยาบาลมาเดินตรวจ
แต่นี่รอนานแค่ไหน พยาบาลเวรก็ไม่เดินมาซักที
ไม่รู้หายหน้าไปไหนกันหมด
ทั้งๆที่เมื่อกี้ วิทก็ตะโกน ออกจะเสียงดัง
เขาเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง พยายามมองหาคนมาช่วยไล่ชายคนนี้ออกไป
พอหาคนช่วยไม่ได้ก็หันรีหันขวางกลับมาผลักเขาอีกรอบ
ทุบแล้วก็ตีก็แล้ว ชายในเครื่องแบบก็ยังนอนหลับตานิ่งเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอย่างนั้น
วิทได้แต่มองหน้าเขาโดยที่ยังโกรธจัด ตอนนี้ วิทพยายามเพ่งไปที่หน้าของชายผู้นั้น ซึ่งตาเขาค่อยๆปรับความชัดได้นิดหน่อย
วิท ถึงเพิ่งเห็นเต็มๆว่า หน้าตาของชายผู้นั้นเหลืองซีดมากๆ
วิทคิดในใจ เราทั้งเตะและผลักเขา ทั้งด่าทอจนเหนื่อย
เขาก็ยังนอนนิ่งไม่ไหวติงไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆ
คนอะไรนอนทนได้ขนาดนั้น
เมื่อ วิท พยายามไล่เขาทุกทางแล้วก็ไม่เห็นผล
จนต้องยอมแพ้ต่อการดื้อเงียบของชายชุดสีกากีนั้นไป
วิทเริ่ม หลับตาพักเพราะพิษไข้และความเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย
เขาตั้งใจไว้ว่าพรุ่งนี้จะบอกนายแพทย์เวรหรือนางพยาบาลให้จัดเตียงให้ใหม่ ถ้าพรุ่งนี้จะต้องมาทนนอนเบียดกับใครไม่รู้อีกเขาไม่ยอมแน่นอน ไม่มีทางที่จะนอนหลับลง ต้องขอย้ายรพ.ให้จงได้
แต่ด้วยความเคืองใจ และนอนไม่สบายตัว วิทจึงนอนไม่ค่อยหลับ
หลับๆตื่นๆตลอด จนบรรยากาศทุกอย่างเริ่มเงียบอีกครั้ง
วิทก็หลับไป
แต่เวลาผ่านไปไม่นานนัก เขาก็ต้องตกใจตื่นอีกครั้งเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ต้นแขนข้างซ้าย พอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นสาเหตุของความเจ็บแปลบ
จึงทำให้วิทยิ่งโมโหไปกันใหญ่
ชายคนที่นอนเบียด วิทจนทำให้วิทต้องนอนตะแคงข้างทั้งคืน
มิหน่ำซ้ำ ของมีคมที่แขนเสื้อแขนยาวของชายชุดกากี
มีวัตถุอย่างหนึ่งติดอยู่เป็นเครื่องหมายบอกยศ น่าจะนายสิบตำรวจโท
และวัตถุชิ้นนั้น ดันจิ้มเข้าที่แขนของ วิท จนเลือดไหลซิบซิบ
ทั้งโมโห เหนื่อย และอ่อนเพลีย ยังไม่ทันที่วิทจะโวยวายออกไป
ชายชุดเครื่องแบบนั้นยังคงหลับตา แล้วหัวเราะเสียงหัวเราะดังหึๆ
ถึงวิทจะยังมองไม่ชัด แต้ด้วยความที่นอนเบียดเตียงเดียวกัน
หน้าของชายผู้นั้นจึงอยู่ใกล้หน้า วิทมาก
ยิ่งชายเครื่องแบบ หัวเราะ และยิ้มมุมปากอยู่ตรงหน้า ยิ่งทำให้รู้สึกสยองยิ่งนัก
จากแค่ตอนแรกเสียงหัวเราะหึๆในลำคอ ต่อมาก็หัวเราะ
ดังขึ้นจนกลายเป็นเสียงฮ่าๆๆ
ขณะที่หัวเราะอยู่อย่างนั้นมุมปากข้างหนึ่งของเขาก็เริ่มมีน้ำไหลออกมา วิท เดาว่าน่าจะเป็นเลือด และมันก็เป็นเลือดจริงๆซะด้วย
เลือดสีแดงไหลออกจากที่มุมปาก เพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกทีจนไหลย้อยลงมาบนหมอน ซึมมาจะถึงข้างๆหูของวิท
เขาหัวเราะทั้งๆที่หลับตา ยิ่งหัวเราะหัวเราะเท่าไหร่
เลือดก็ไหลออกจากปากขึ้นมากขึ้นทุก หน้าซีดๆเหลืองที่เห็นก่อนนี้อยู่ๆหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นบูดเบี้ยว
เหมือนได้รับความเจ็บปวดอย่างสาหัส
เสียงหัวเราะจากที่หัวเราะเหมือนเยาะเย้ย
ก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงร้องครวงคราง จากเบาๆจนกลายเป็นเสียงร้องโหยหวน
เลือดสีแดงทะลักออกจากปากไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
จนหมอนหนุนแดงฉาดไปหมด กลิ่นคาวเลือดเหม็นคลุ้ง
จนเขาขนหัวลุกขยะแขยง วิท พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายขยับหนี
อยู่ๆชายผู้นั้นก็ลืมตาโพรง
และทันใดนั้นเองมือเย็นๆของชายชุดเครื่องแบบ
ก็คว้าข้อมือของ วิทเอาไว้
จะไปไหน?
เสียงแหบๆดังขึ้น
วิท รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ขนลุกพร้อมกันไปถึงหนังหัว
วิท พยายามตัวสะบัดมือหนี แต่ไม่หลุดพ้น
จะไปไหนเล่า?
นอนด้วยกันต่อสิ เตียงนี้นอนได้หลายคนจะหนีไปนอนเตียงอื่นทำไม
เสียงพูดดังออกมาจากปาก ของชายในเครื่องแบบสีกากี
ที่บัดนี้ชุดกลายเป็นสีแดงโชกด้วยเลือดซะแล้ว
นาทีนั้น วิท ตัวสั่นเป็นลูกนก เมื่อรู้ตัวว่าสิ่งที่เจอต้องไม่ใช่คน
เขาต้องเป็นผีหรือเป็นคนที่ตายคาเตียงนี้แน่ๆ
วิท พยายามดิ้นรนเอาตัวรอด
ในทันใดนั้นเอง เขาก็นึกถึงพระ จึงพยายามสวดมนต์ผิดบ้างถูกบ้าง
ด้วยความกลัว จึงสวดแบบตะกุกตะกัก เขารวบรวมสมาธิ พยายามสวดอาราธนา
หลวงพ่อทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้ารู้จักขอให้มาช่วยลูกด้วยเถิดท่าหลวงพ่อไม่ช่วยวันนี้ลูกต้องตายแน่ๆ
เขากลัวมากจนต้องหลับตาปี๋ พร้อมสวดมนต์วนไปเรื่อยๆ
เสียงครางเสียงกระอักไปด้วยเลือด ของชายผู้นั้นยังได้ยินอยู่ไม่ขาด
สาย
ที่ข้อมือของวิท ก็ยังสัมผัสกับมื้อเย็นๆ เหมือนเขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยวิทไปเลย
วิทพยายามตั้งใจสวดมนต์รัว
ชนิดจับต้นชนปลายไม่ถูก
เหงื่อออกท่วมตัวทั้งๆที่ข้างในหนาวสั้น
เสียงพัดลมดังหึ่งอยู่บนหัว ยิ่งหมุนก็ยิ่งหนาว
ทำให้หัวสมองตื้อมึนงงไปหมด
ระหว่างที่สวดไป วิทก็พยากยามทบทวนเหตุการณ์
ว่านี่เรื่องจริงใช่ไหม ไม่ได้ฝันเกินเหตุ
เรื่องมันดูจริงเกินกว่าเป็นความฝัน
ประสาททุกส่วนของเขารับรู้ว่ามันต้องเกิดขึ้นจริงแน่ๆ
แล้วแวปนึง วิท ก็นึกถึงบทแผ่เมตตา แผ่บุญกุศลขึ้นมา
วิทคิดขึ้นมาได้ ว่าชายผู้นี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่
วิญญาณของเขาคงวนเวียนอยู่ ณ ที่แห่งนี้
เขาแสดงตัวเป็นเจ้าของเตียงที่ วิท นอนอยู่แน่ๆ
เขาคงสิ้นใจตายบนเตียง และเราไม่ควรก้าวร้าวล่วงเกินเขาเลย
วิทจึง กล่าวคำขอขมาลาโทษ สวดแผ่เมตตา
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ
พอจบบทสวด วิท ก็ให้คำปฏิญาณว่าทันที
เมื่อเขาติดต่อกับคนทางบ้านได้
เขาจะให้คนที่บ้านทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้แน่นอน
เมื่อวิทพูดจบ และตั้งจิตอธิษฐานเสร็จแล้ว
เสียงทุกอย่างก็หายไป ห้องกลายเป็นเงียบสงบ
วิทค่อยๆลืมตาทั้งที่ยังกล้ากลัวๆ แต่ชายในเครื่องแบบก็หายไปแล้ว
ลมที่ชวนเวียนหัว ตอนนี้ก็กลายเป็นแค่ลมเย็นๆสบายๆ
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกเขาอีกครั้ง
เสียงเรียกดังแว่วมาจากเตียงข้างเคียง
วิท หันหน้าไปมอง ก็เห็นเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่กำลังมองสบตามา
พี่ฟื้นแล้วหรอ
ผมดีใจที่พื้นแล้ว ผมเห็นพี่นอนดิ้นขยับตัวทั้งคืน
ผมก็ไม่รู้ว่าจะช่วยพี่ยังไง
"อืมเหมือนเจอมาหนัก ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยเพลียมากเหลือเกิน"
เด็กน้อยเข้าใจอาการของเขา
เด็กน้อยพูดว่า
"พี่ไม่ต้องพูดหรอกฟังผมพูดคนเดียวก็พอ
พี่รู้ไหมว่าพี่สลบไปตั้ง 3 วันแหนะ"
"วันแรกหมอต้องให้ออกซิเจน สายงี้ระโยงระยางเต็มเตียงเลย
ผมนึกว่าพี่จะเสียแล้วเสียอีก"
เด็กน้อยก็ขอโทษเขาปิดปาก เมื่อรู้ว่าพูดถึงสิ่งที่ไม่ดีออกไป
แล้วก็หัวเราะ
"ผมเห็นว่าก่อนที่พี่จะมาที่เตียงนี้ เพิ่งมีคนตาย"
วิทคิดในใจ ถึงไม่มีใครบอก เขาก็รู้แล้วแหละว่ามีคนตาย
หนุ่มน้อยเล่าต่อ
เขาว่าแกเป็นมะเร็งในคอ กว่าแกจะตายแกร้องเอ็ดตะโรลั่นห้องร้องครวญครางทรมานอยู่หลายวันหลายคืน พอร้องโฮกทีนึงเลือดก็พุ่งออกมาจากปากทีนึง เฮ้ยเลือดกระอักเลอะเต็มเตียงเชียวนะพี่
คนอื่นเขาลือกันทั้งตึกว่าโชคดีไม่ต้องมานอนเตียงนี้
แต่พี่เป็นเคสฉุกเฉินไง เตียงเต็มพอดี แล้วพี่ก็สลบอยู่ด้วยฮ่าๆ
วิท เริ่มอยากจะหันหน้าหนี ทำหน้าไม่อยากฟัง แต่เด็กน้อยเตียงข้างๆก็ยังพูดต่อ
"พี่กลัวผีหรอ พี่ผมลืมบอกไปว่าคนที่ตายแล้วเป็นผู้ชาย"
วิท เริ่มไม่รอให้เขาพูดจบจน ก็พูดสวนขึ้นมาว่า
"ไม่ต้องบอกพี่ พี่เจอเขาแล้ว"
เขาเป็นตำรวจสิบตำรวจโทร่างใหญ่ใส่ชุดสีกากีใช่ไหม
เด็กหนุ่มอาปากค้าง ตกใจพร้อมกลืนน้ำลาย เฮือก
ตกใจที่พี่เขาพูดถูกอย่างกับตาเห็น แต่เด็กน้อยยังไม่ทันถามต่อ
น้องสาว วิท ก็เข้ามาเยี่ยมพอดี
น้องเห็นพี่ชายลืมตาพูดกับเด็กน้อยได้ก็ดีใจ
แทบจะทิ้งของเยี่ยมวิ่งเข้ามาทันที
เพราะก่อนนี้วิทอยู่ในสภาพโคม่า ไม่ได้สติอยู่หลายว้น
วิท จึงบอกน้องสาว
ขอให้พรุ่งนี้ช่วยหาของใส่บาตรถวายพระสักองค์นะน้อง
เสร็จแล้วก็กรวดน้ำอุทิศให้แก่วิญญาณของผู้ตายทุกคน
ที่ยังไม่ไปผุดไปเกิดด้วย ขอให้เขาเหล่านั้นไปสู่ที่ชอบที่ชอบเถอะ
วิท ย้ำกับน้องสาวอีกครั้ง อย่าลืมนะน้อง
จัดการให้พี่ให้ด้วย น้องสาวรับคำทั้งๆที่ก็ยังไม่รู้สาเหตุ
และเมื่อรู้แล้วก็ได้ปฏิบัติต่อการทุกๆวันเป็นการสม่ำเสมอจนตราบเท่าทุกวันนี้ ผ่านโรงพยาบาลนี้ทีไรก็อดใจคิดถึงเขาไม่ได้ แต่ไม่ได้รู้สึกกลัว และทุกครั้งที่มีโอกาส ก็จะแผ่ส่วนกุศลให้แก่นายสิบตำรวจโทผู้นั้นเสมอ
และวิทยังบอกกับพวกเราอีกว่า
เรื่องที่เขาเจอมาทำให้เขารู้ว่า
ความตายไม่ใช่แค่ดับสูญ
แต่แท้จริงมีแต่สังขารเท่านั้นที่แตกดับ
หากวิญญาณยังอยู่ยังเวียนว่ายอยู่ในโลกมนุษย์
เขาก็จะไม่จากไปไหนจนกว่าจะได้รับบุญกุศลที่เพียงพอ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา