28 ก.ย. 2019 เวลา 09:08 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เรามาต่อกันในปัญหาใหญ่ที่เราได้ยินกันมานานแม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐยังว่าเป็นเรื่องโกหก นั้คือเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของโลก " Climate change"
2. Climate change เป็นเรื่องปรกติของความแปรปรวนของอากาศเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ^^ แต่ที่น่าสนใจคือในประวัติศาสตร์โลกสถาพอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นวงรอบ( Glacial cycle) โดยในช่วง 650,000 ปีหลังมีการเปลี่ยนมาแล้วทั้งหมด 7 รอบ (คงมีคนถามว่ารู้ได้ยังมั่วข้อมูลมาแน่ๆเลย ^^) โดยอากาศของโลกถูกบันทึกไว้ในชั้นของน้ำแข็งที่ขั๋วโลกทำให้เราทราบถึงองค์ประกอบต่างๆของอากาศในช่วงเวลานั้นของโลกได้ โดยเป็นการเกิดยุคน้ำแข็งสลับกับยุคไม่แข็ง ^^ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับปริมาณคาร์บอนไดออกไซค์ในอากาศที่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน( global worming)นั้นละ (รูปที่ 1)
รูปที่ 1 ช่วงของการเกิดยุคน้ำเแข็งตลอด 650,000 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าการเกิดยุคน้ำแข็งครั้งใหญ่เกิดมาแล้วประมาณห้าถึงหกครั้ง ในช่วง 3000 ล้านปีที่ผ่านมา Cr. : https://en.m.wikipedia.org/wiki/Climate_state
แล้วมันเกี่ยวกันยังไงละ?
ดังนั้นเรามาพูดถึงสภาวะโลกร้อนกันก่อน สาเหตุหลักเกิดจากปรากฎการเรือนกระจกซึ่งเกิดจากก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซค์และมีเทน ซึ่งจะส่งผลให้ความร้อนที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ถึงโลกไม่สามารถสะท้อนกลับออกสู่อวกาศได้ ทำให้คุณหภูมิบนผิวโลกสูงขึ้น โดยใช้ค่าเฉลี่ยอุณภูมิในช่วงปี 1750-1800 เป็นค่าเริ่มต้น (เนื่องจากเป็นยุคเริ่มปฎิวัติอุตสาหกรรม)
พบว่าในปัจจุบันอุณภูมิอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 1 องศาเซลเซียส(รูปที่ 2) ซึ่งจากราฟเราจะเห็นการแผ่รังสีจากด้วอาทิตย์ (เส้นเหลือง) มีค่าค่อนข้างคงที่ขึ้นบ้างลงบ้าง แต่ถ้าเราเปรียบเทียบกับอุณหภูมิที่ผิวโลก(เส้นสีแดง) พบว่าใช่ช่วงหลังอุณหภูมิผิวโลกสูงจึ้นอย่างเห็นได้ชัด แปลว่าดวงอาทิตย์ไม่ได้ร้อนขึ้นโลกต่างหากที่ร้อนมากขึ้น
รูปที่ 2 แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง การแผ่รังสี กับอุณภูมิพื้นผิวโลก ในแต่ละปี Cr. : https://climate.nasa.gov/effects/
ซึ่งผลจากสภาวะโลกร้อนมีอะไรบ้างละ?
1.ฤดูร้อนที่ยาวนานขึ้น : ก็เป็นผลที่เกิดขึ้นโดยตรงเนื่องจากการเก็บกักความร้อนทำให้ความร้อนอยู่ในโลกนานขึ้นทำให้ฤดูหนาวมาช้าลง
2. ฤดูฝนที่เปลี่ยนไป เนื่องจากความร้อนที่สูงขึ้นก็ส่งผลให้รน้ำทะเลระเหยมากขึ้นทำให้ฝนตกไม่ตรงตามฤดูอีกทั้งพายุฝนที่ได้มีความรุ่นแรงเพิ่มขึ้นเนื่องจากพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากความร้อน
3. คลื่นความร้อน
4. การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล โดยระดับนำทะเลปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 8 นิ้วเมื่อเปรียบกับที่ 1880 และค่าว่าจะเกิน 12 นิ้วก่อนปี 2100 ซึ่งเป็นผลมาจากการหายไปของน้ำแข็งที่ขั๋วโลก (โดยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 ชาวไอซ์แลนค์(Iceland นะครับไม่ใช่ Ireland) เพิ่งจะไว้อาลัยแก่ธารน้ำแข็งสุดท้ายที่หายไปอยู่เลย T T)
รูปที่ 3 แสดงการไหลของกระแสน้ำอุ่น น้ำเย็นในมหาสุทรต่างๆ Cr. http://www.chemtrack.org/EnvForKids/content.asp?ID=185
แล้วโลกร้อนเกี่ยวอะไรกับยุคน้ำแข็ง?
เพราะงั้นต้องเข้าใจก่อนว่าการเกิดฤดูหนาวร้อนของโลก กระแสน้ำอุ่นน้ำเย็นมีส่วนทั้งในเรื่องของลม และอุณภูมิบนบริเวณนั้นๆ (รูปที่ 3) แต่เนื่องจากการละลายของน้ำแข็งขั๋วโลกนี่ละทำให้น้ำทะเลจืดลงเพราะน้ำแข็งขั๋วโลกเป็นน้ำจืด ทำให้มีผลกระทบต่อกระแสน้ำอุ่นไม่สามารถขึ้นไปทางตอนเหนือเนื่องจากการดันลงมาของน้ำที่มีความเข้มข้นเกลือต่างกัน ส่งผลต่อส่วนที่อยู่เขตหนาวโดยตรงทำให้หนาวขึ้นกว่าเดิมในฤดูหนาว (ซึ่งจะเห็นรายงานอากาศเกี่ยวกับพายุหิมะที่ยาวนานและรุนแรงในช่วงที่ผ่านมาในประเทศเขตอบอุ่นถึงหนาว) ซึ่งถ้าการดันนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องและยาวนานพออาจส่งผลให้เกิดการก่อตัวของน้ำแข็งใหม่อีกรอบส่งผลต่อการสะท้อนแสง และอาจก่อให้เกิดยุคน้ำแข็งอีกครั้ง
แต่ก็ฟันธงลงไปไม่ได้ว่าจะเกิดเป็นแค่ทฤษฎี ซึ่งอาจจะเกิดในช่วงชีวิตเราหรือไม่แต่ที่แน่จากรายงานของ National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) รายงานว่าเราเลยจุดวกกลับแล้วแม้ว่าเราจะหยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเดี๋ยวนี้ก็ตาม ยังไงสิ่งที่กล่าวมาจะต้องเกิดแน่นอนขึ้นอยู่กับว่าวันใด
ขอจบตอนที่ 2 ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ ตอนที่ 3 ผมจะมาพูดถึงสิ่งสุดท้ายที่มนุษย์ได้ทำแล้วส่งผลโดยตรงต่อสิ่งมีชีวิตนั้นคือการทำลายป่า มันจะส่งผลอะไรบ้าง ขอบคุณครับ ^^
อ้างอิง
IPCC Fifth Assessment Report, 2014 United States Global Change Research Program, "Global Climate Change Impacts in the United States," Cambridge University Press, 2009
Naomi Oreskes, "The Scientific Consensus on Climate Change," Science 3 December 2004: Vol. 306 no. 5702 p. 1686 DOI: 10.1126/science.1103618
Mike Lockwood, “Solar Change and Climate: an update in the light of the current exceptional solar minimum,” Proceedings of the Royal Society A, 2 December 2009, doi 10.1098/rspa.2009.0519;
Judith Lean, “Cycles and trends in solar irradiance and climate,” Wiley Interdisciplinary Reviews: Climate Change, vol. 1, January/February 2010, 111-122.
IPCC 2007, Summary for Policymakers, in Climate Change 2007: Impacts, Adaptation and Vulnerability. Contribution of Working Group II to the Fourth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change, Cambridge University Press, Cambridge, UK, p. 17.
IPCC, 2013: Summary for Policymakers. In: Climate Change 2013: The Physical Science Basis. Contribution of Working Group I to the Fifth Assessment Report of the Intergovernmental Panel on Climate Change[Stocker, T.F., D. Qin, G.-K. Plattner, M. Tignor, S.K. Allen, J. Boschung, A. Nauels, Y. Xia, V. Bex and P.M. Midgley (eds.)]. Cambridge University Press, Cambridge, United Kingdom and New York, NY, USA.
Pearce, Fred. "Faltering currents trigger freeze fear." New Scientist. Dec. 3 - Dec. 9, 2005, Volume 188, Issue 2528, pgs. 6-7.
NOAA. "New Study Shows Climate Change Largely Irreversible." Jan. 26, 2009. http://www.noaanews.noaa.gov/stories2009/20090126_climate.html
โฆษณา