Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
KnowBox
•
ติดตาม
5 ต.ค. 2019 เวลา 13:10 • การศึกษา
คนกับเครื่องจักรและความจำกัดของเวลา(ประเด็นที่คนเงินเดือนน้อยไม่เข้าใจ)
ถ้ามีคนถามว่า "อะไรคือสิ่งที่คุณคิดว่าแพงที่สุด?"
หลายๆ คนก็จะเริ่มร่ายยาวถึงของหรูหราต่างๆ เท่าที่จะนึกได้จนมาจบที่ "เงิน"
มีคนตอบว่า "เงิน" แพงสุด!
"ไม่ใช่!" เงินเป็นตัววัดมูลค่าของสิ่งของ แล้วมันจะแพงอะไรกันเล่า! บ๊อง! หุหุ
แต่ถ้าเราไปถามคนรวยหรือคนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะตอบว่า "เวลา" เป็นสิ่งที่แพงที่สุด เพราะคุณใช้เงินซื้อไม่ได้ แต่แปลกที่คนส่วนใหญ่กลับปล่อยให้เวลาเสียไปอย่างไร้ค่า เพียงเพาะเขาไม่เคยคิดว่า "จะย่นระยะเวลาความสำเร็จได้อย่างไร?"
ภาพจาก pixabay
ใช่แล้วครับ! คนส่วนใหญ่มุ่งแต่เเข่งกันเรียน แข่งกันทำงาน แข่งกันกิน โดยลืมนึกว่า ข้อได้เปรียบที่จะทำให้เราชนะคนอื่น มันกลับเป็นเรื่องเส้นผมบังภูเขา
ผมเห็นเพื่อนหลายๆ คนบ่นกับผมว่า "ดูสิ เดี๋ยวนี้เด็กจบใหม่ไปทำงานกับบริษัทฝรั่ง มันได้เงินเดือนเยอะชิปเป๋ง! ไอ้เราทำงานอย่างหนัก แต่ได้เงินนิดเดียว"
สิ่งที่เพื่อนผมลืมคิดไปก็คือ "ทำไมเงินเดือนของเราไม่เพิ่ม ในขณะที่เด็กจบใหม่เงินเดือนขึ้นเอาๆ"
เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว ก็เพราะเพื่อนผมทำงานที่เครื่องจักรทำได้ รวมไปถึงพวกใช้แรงงาน Blue Collar Job ทุกรูปแบบที่จีนทำได้ และงาน White Collar ทุกอย่างที่อินเดียทำได้
ถูกแล้วคับ ประเด็นที่ผมพูดถึงคือ เทรนด์การ Outsource(การจ้างงานบางส่วนให้คนภายนอกทำ) งานของประเทศพัฒนาไปสู่ประเทศด้อยพัฒนา เพราะมันต้นทุนต่ำกว่า ถ้างานของคุณเป็นงานที่ Outsource ได้ ก็เท่ากับว่า คุณเตรียมตกงานได้เลย!(โอกาสที่จะได้เงินเดือนสูงๆ แทบไม่มี แถมโอกาสตกงานยังมากอีก)
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ "แล้วเราจะรู้ได้ไงว่างานที่เราทำเป็นงานที่ Outsource ได้หรือไม่ได้?" ประเด็นนี้ผมว่าสำคัญมาก เพราะบางคนเรียนมหาวิทยาลัยมา 4 ปีเต็ม เพียงเพื่อรู้ว่าความชำนาญของตนกำลังจะถูกส่งไปให้จีนกับอินเดียทำ
งานสำหรับอนาคตคืองานที่ Unique นั่นคือ มีความโดดเด่นที่ชัดเจน(งานที่คุณต้องเก่งอย่างแตกต่างจากคนทั่วไป แต่ผมว่ามันยากสำหรับคนส่วนใหญ่นะ)
ถ้าหากคุณไม่สามารถเก่งอย่างแตกต่างได้ ให้คุณกลับมาที่งานสัมผัสกับคน เช่น งานบริการที่ต้องอาศัยคนจริงๆ ยกตัวอย่าง ธนาคาร คงไม่มีใครอยากทำธุรกรรมกับหุ่นยนต์ เพราะสังคมไทย ความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ดังนั้นอย่างอุตสาหกรรมการเงิน ผมว่าคนที่เก่งด้านการบริการจะอยู่กับเราไปอีกนาน(ในอุตสาหกรรมการเงินในปัจจุบันมีการลงทุนกับเทคโนโลยีอย่างมาก งานบริการที่ใช้คนจะถูกปรับให้น้อยลง...ผู้เขียนบล็อค)
สรุปแล้วว่า อนาคตของงานที่มีรายได้สูงขึ้น มันต้องเป็นงานที่มีความเฉพาะตัว แบบที่เครื่องจักร หรือจีนและอินเดียทำแทนไม่ได้ นี่แหละคือสิ่งที่คุณต้องคิดก่อนที่จะลงเรียนด้วยซ้ำว่า "คุณมีโอกาสที่จะแตกต่างอย่างมีจุดเด่นหรือไม่?!"
แกะเพิ่ม
ผมเคยดูสารคดีชิ้นนึงพูดถึงว่า ถ้าเราใช้เทคโนโลยีเต็มที่ เอาหุ่นยนต์มาแทนคน จะทดแทนงานได้ถึง 75% ของโลก นั่นหมายความว่า ถ้า "จัดเต็มหุ่นยนต์" (ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นและอเมริกาทำได้สบายๆ) จะทำให้คนตกงานทั่วโลก! ดังนั้นในระยะสั้น งานที่เครื่องจักรแทนได้ ก็จะค่อยๆถูกทำลายแบบค่อยเป็นค่อยไป ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว อย่างงานอันตรายถูกแทนด้วยเครื่องจักร
อย่างในเมืองไทย เรื่องของการขึ้นค่าเเรงขั้นต่ำแบบก้าวกระโดดนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าของโรงงานต่างๆ จะเริ่มหาเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ใหม่ๆมาแทนแรงงานมากขึ้น
คำถามคือ แล้วทำอะไรดี?
เราต้องมองให้ไกลขึ้น มองให้ออกว่างานที่ต้องใช้คนทำ เช่น งานบริการก็น่าจะเป็นงานที่มีอยู่ต่อไป หรืองานที่ควบคุมเครื่องจักรที่ต้องอาศัยทักษะที่สูงขึ้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเราจะวิ่งไปทางไหน ตามความถนัดและความชอบ แต่ขอให้เน้นสิ่งที่อาศัยความรู้สึก เช่น งานบริการต่างๆ โดยเอาความต้องการของเราเป็นโจทย์ตั้ง แล้วเราจะเห็นโอกาสได้ไม่ยากครับ!
ขอขอบคุณหนังสือ แกะรอยหยักสมอง1: รู้แล้วรวย
ด้านล่างคือที่อยู่ของบล็อคผม คุณสามารถเข้าไปอ่านบทความได้ต่อเนื่อง ขอให้สนุกและหวังว่าคุณรับได้ประโยชน์ครับ
livestaybybird.blogspot.com
Live Stay
ผมชื่อ”เบิร์ด”นี่คือเรื่องราวของผมที่จะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่ผมมี
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
หนังสือ แกะรอยหยักสมอง 1 : รู้แล้วรวย
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย