27 ต.ค. 2019 เวลา 03:58
🎯.เรื่องสั้นขนาดยาว ชุดนทีแห่งชีวิต
🖌อิยะกับความหมายที่หายไป🍃ภาคที่1
📌ตอนที่3....น้องจ๋ากระเป๋าลาก่อน
ความที่ไปเที่ยวทุกครั้งจะตัวมีพ่อคอยดูแล แต่มาครั้งนี้หาได้เหมือนคราวก่อนไม่
อิน้องก็เป็นคนเงอะงะ ลืมนี่นั่น
อิตัวพ่อก็เจ้าระเบียบละเอียดถี่ถ้วน...เกิ้น
เพิ่งรู้ความสำคัญของว่าที่สามีก็คราวนี้แหละ....ฮัดชิ่ว....🤧🍃
ศรีว่าแล้ว แพ้อากาศทันทีที่อากาศเปลี่ยนลืมยา...ลืมยา...ฮัดเช่ยอีกครั้งคราวนี้มีน้ำมูกย้อยมาด้วย ทุกครั้งนายแพทย์ชลธีร์นามสกุลเรียบร้อย จะเตรียมมา เพราะรู้ว่าหญิงสาวแพ้อากาศง่าย🍂
ใครนะรึ ก็ว่าที่สามีฉันไง ชื่อเล่นฮีคือ หมอซก แต่ไม่ซกมกนะเจ้าคะ แต่เป็นซกเล็ก แซ่บ..อิอิ ....
หญิงสาวแอบเขินความคิดตัวเอง🍃
เอาไงเอากัน ทนเอา หญิงสาวบ่นในใจ เธอรีบจ้ำอ้าวลงไปชั้นล่างของสนามบินคันไซ ชั้นล่างของอาคาร1หรือเรียกว่าเทอร์มินอล1 เป็นที่จอดรถบัสไปยังสถานที่ต่างๆหนึ่งในนั้นคือทาคามัสสึเกาะชิโกกุ ซึ่ง อยู่ห่างจากสนามบินคันไซในเมืองโอซาก้าประมาณ5ชม.โดยรถบัส🍂
แล้วต่อรถไฟไปลงสถานีรถไฟ
อะวะอิเคดะ..... เพื่อจองทัวร์นำเที่ยว มีเวลาน้อยต้องอาศัยทัวร์หญิงสาวคิดเบ็ดเสร็จจากที่ แปลนคร่าวๆเมื่อเช้าที่สนามบิน🍃
เริ่มออกเดินทาง08.40น. ถึงสถานีทากามัสสึใกล้เที่ยง เมื่อรถบัสเทียบชานชลาหญิงสาวเข้าไปถามพลขับว่าจะมีรถบัสกลับตอนไหนบ้าง......พลขับมองหน้าแล้วยิ้มโบกมือหวอยๆนัยว่าให้ไปถามเอาข้างหน้า คงฟังภาษาปะกิตไม่ออกหรือเราพูดไม่รู้เรื่อง ลงรถด้วยความงงงง🌱
ยังไม่ทันตั้งตัวรถก็แล่นออกไป ...วั้ยตัยแร้ววว......กระเป๋า..ตรูลืมกระเป๋า 😳..😱 หญิงร่างบางใส่เกียร์หมาวิ่ง ตามรถโดยสาร ปากก็ร้อง กระเป๋า..!! กระเป๋า ..!! คนมองกันให้ควัก🍂
วิ่งจนลืมอาย ช่างมันเถอะชีวิตตรู พาสปอร์ตตรู เอเวอรี่ติงจิงเกอร์เบลอยู่ในนั้นหมด โชคดีที่รถบัสชะลอตัวเนื่องจากติดสัญญานไฟเลี้ยว หญิงสาววิ่งไปเคาะประตูพลขับ🍃
"_พี่คะ..มายแบ็ก มายแบ๊ก.. โอเพ่นดอร์
เปิดดอร์ร์ร์ ...เอ้ยเปิดประตูทีค่ะ _"
หญิงสาวระล่ำะลั่กพูดผิดพูดถูก กว่าจะได้มา ซึ่งกระเป๋า...ทำเอาหมดแรงอยากนั่งกลางถนนซะตรงนั้น😵
หญิงสาวหิ้วกระเป๋าอย่างทุลักทุเล เข้าสถานีรถไฟ อั้ยหยา...ด้วยความที่เป็นชานเมืองใช้บัตรแทนเงินสดไม่ได้ เวรเลย ฉันเพิ่งซื้อบัตรไป10000 เยนเมื่อเช้าที่สนามบิน แลกตังค์เยนมาน้อยด้วย หญิงสาวบ่น 🍃
จริงแล้วการเดินทางไม่ค่อยยาก แต่ยากเมื่อเปิดกูเกิ้ลแมป แล้วก็แอบงงๆ เดินวนพักหนึ่งเพราะป้ายเวลาไม่ตรง รวมถึงแผนที่ตามป้ายในสถานีก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่น🍂
ถ้ามัว งมก็คงไปไม่ถึง หญิงสาวรี่เข้าไปถามนายสถานี ได้ความว่าจะต้องต่อรถไฟ2ต่อ แนะนำให้ไปซื้อตั๋วห้องด้านข้าง สิริรวมแล้วต้องจ่ายค่าตั๋ว2000กว่าเยน....มั้งงง อิฉันลืมตัวเลขเจ้าค่ะ ความจำช่วงสั้นแต่รักอิฉันยาวเป็นลูกหมาเลยค่ะ555🍃
ขบวนรถไฟ ณ.ชานชราที่9 นำพาหญิงสาวไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วย ป่า ต้นไม้ และคันนา มีต้นพลับตามรายทาง ชานเมืองมันดีอย่างนี้นี้เอง หมอซกก็เคยชวนมาแต่เราชอบเดินในเมือง ช้อปปิ้งเป็นของหวานและที่สำคัญอีตาหมอเป็นคนจ่าย หุหุ🍃
เมื่อถึงสถานีมารุเกมิ...หญิงสาวต่อรถไฟอีกขบวนเพื่อไปยังสถานีอะวะคะวากุชิ.....เพื่อติดต่อทัวร์ สอบถามจากนายสถานีได้ความว่าต้องเดินเท้าต่อประมาณ200เมตรจึงจะถึงสถานีรถบัสเพื่อซื้อทัวร์🍃
กว่าจะถึงที่นี่ได้หญิงสาวร่างบางลากกระเป๋าใบใหญ่ พ้มเผ้ารุงรัง รวบไว้อย่างหลวมๆ เดินกระเซอะกระเซิงข้างถนนอย่างน่าสังเวช....จะขนมาทำไมเยอะฟร่ะ!! หญิงสาวบ่นอุบ😅
หลังจากการจัดการเรื่องทัวร์ก็ต้องย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟอีกครั้งเพื่อต่อไปยังสถานีอะวะไอคิดะ🍃
โชคดีไม่ต้องรอนาน รถไฟมาพอดี หญิงสาวลากกระเป๋าใบเขื่องเพื่อหาที่นั่ง แต่เจ้ากรรมกระเป๋าใบใหญ่เกินทนแรงศูนย์ถ่วงไม่ไหว เมื่อรถกระชากตัว พาร่างอันบอบบางล้มคะมำจ้ำเบ้า ที่ตักชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้าม
อร้ายย!!ตาเถร...หญิงสาวเงยหน้า😳🍂
ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มสะดุ้งจากภวังค์หลับ มองหน้าหญิงสาวด้วยความงง หญิงสาวหลบสายตา ปากก็พูดซอรี่ เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจหยิบหูฟังใส่แล้วหลับต่อ ...🍃
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเขา
เด็กหนุ่มผู้เป็นที่มาของ
" ความหมายที่หายไป"😊
ติดตามตอนต่อไป...ในวันดีๆที่ทำให้หัวใจฟินเฟร่อนะขอรับ..จุ๊บ!จุ๊บ!😘😁
โฆษณา