28 ต.ค. 2019 เวลา 13:55
Ep.02 บรรลุสู่ความสำเร็จ ด้วยการ โฟกัส
สิ่งแตกต่างระหว่าง คนสำเร็จ กับคนล้มเหลว ข้อ 2 คือ การโฟกัส (Focus)
การ Focus คือ การเล็งให้ตรงเป้า การล็อคเป้าหมาย เลือกเฉพาะสิ่งที่ใช่ ตัดสิ่งที่ไม่ทิ้ง ช่วยเพิ่มเวลา ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การจะเป็นคนสำเร็จล้วนต้องกำหนดเป้าหมายในสิ่งที่เรามุ่งหวังเอาไว้ แต่หากเป้าหมายมีหลายอย่างมากเกินไป อาจทำให้พลังการทุ่มเทเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นๆ ลดน้อยลง เช่น คนหนึ่งคนใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง อยากเป็นนักเขียน อยากเป็นนักธุรกิจ อยากเป็นหมอ อยากเป็น... อยากมี... ฯลฯ มากมายเต็มไปหมด ซึ่งก็ไม่ได้ผิด เพราะไม่ได้มีข้อห้ามอะไร ทุกคนล้วนมีสิทธิคิด มีสิทธิฝัน ด้วยกันทั้งนั้น
ก่อนอื่นขอยกตัวอย่างไอดอลผม Steve Jobs ที่เป็นสุดยอด CEO ของ APPLE
จากเรื่องราวที่ Jobs เล่าไว้ในหนังสือ Steve Jobs by Walter Isaacson ว่าเขาเคยถูกไล่ออกจากบริษัทตัวเอง แล้วถูกเรียกกลับมาบริหารบริษัท อีกครั้งในภาวะตกต่ำของบริษัท...
Steve Jobs พลิกฟื้นบริษัท Apple ด้วยการยุบ ยุบ และยกเลิกทุกผลิตภัณฑ์และ ตัดทุกสิ่งที่ “ไม่ใช่ สำหรับบริษัท APPLE” ทิ้งออกไปเกือบหมด จนเหลือเพียงแค่ 3 ผลิตภัณฑ์ เพื่อ “เน้นกับสิ่งที่ใช่สำหรับบริษัท APPLE” เพื่อให้พลังที่มีทั้งหมด ทุ่มเทลงไปที่ผลิตภัณฑ์หลัก คือ iMac, iPod และ iPhone
นั่นคือตัวอย่างของการ Focus ทิศทาง พุ่งเป้าและทุ่มเทพลังทั้งหมด ทั้งเงินทุน มันสมองของพนักงาน ภาพลักษณ์ ทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งนั่นทำให้ APPLE สามารถพ้นวิกฤตและคงความยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้
ชีวิตของเราก็ไม่แตกต่างกัน มีหลายสิ่งหลายอย่างมากมายเต็มไปหมด ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา แต่หากเราต้องทำในทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาทั้งหมด ก็คงมากเกินไป เพราะชีวิตเรามีทั้งเรื่องที่มีสาระ และไร้สาระเต็มไปหมด
ซึ่งบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องทำ เราก็ยังเสียเวลาไปทำ (ทำไปเพื่ออะไร? อาจลองตั้งคำถามกับตัวเองดูนะครับ) บางทีการนั่งดูซีรีย์ทั้งวันจบไปหลายซีรีย์ก็สนุกดี งานที่เราอยากจะทำก็มี แต่ทิ้งไว้ก่อน บทสรุปของเรื่องนี้ก็คือ รักสนุก ทุกข์ทันที งานก็ไม่เสร็จไงครับ เราก็มาเร่งปั่นงานกันก่อนส่งทุกทีไป แถมนี่อาจเป็นวงเวียนกรรมวน แบบไม่รู้จบ ซึ่งก็คงเหมือนกับชีวิตใครอีกหลายๆ คน
ถ้าเช่นนั้น เราควรจะทำเช่นไร เราจะแก้ปัญหานี้ อย่างไรต่อไปดี จากเรื่องของ Steve Jobs ที่เล่าเมื่อกี้ ...ใช่ครับ วิธีที่คนสำเร็จต้องทำก็คือ ‘การโฟกัส’ ในสิ่งที่ใช่ และ’ตัด’ สิ่งไม่จำเป็น ที่รกรุงรังทิ้งไปเสีย เหลือไว้เพียงสิ่งที่สำคัญเท่านั้น
===========================
แต่ก็มีวิธีการมีหลากหลายที่ใช้แก้ไขปัญหาคล้ายๆกัน เช่น กฎของไอเซนฮาวร์ (The Eisenhower Principle) ที่เป็นตาราง Matrix แบ่งเป็นงานเป็น 4 กลุ่ม ตามลำดับความสำคัญและความเร่งด่วน คือ 1)งานสำคัญและด่วน 2) งานสำคัญและไม่ด่วน 3) งานไม่สำคัญแต่เร่งด่วน และ 4) งานไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน
ซึ่งเมื่อใส่งานในช่องตารางเสร็จ นึกออกใช่ไม๊ครับ คำถามคือ เราควรจะโฟกัสไปที่ไหนบ้าง ผมแนะนำให้โฟกัสไปที่งานสำคัญ แล้วแยกเป็น 2 กลุ่มครับว่า เร่งด่วน หรือไม่เร่ง แค่นั้นก็พอครับ
แต่หากตอนนี้ มีงานที่ไม่สำคัญ เราทำได้หลายวิธีครับ ให้คนอื่นช่วยทำแทน มอบหมายงานไป หรือจะไม่สนใจตัดมันทิ้งไปเลย
หากพลังงาน หรือเวลาเหลือ งานสำคัญสำเร็จเรียบร้อยดี ค่อยกลับมาโฟกัสที่งานไม่สำคัญทีหลังก็ได้
ที่สำคัญ เราต้องอย่าลืมเป้าหมายหลักของเราครับ
ซึ่งก็ไม่ต่างกับการไปวิ่งออกกำลังกาย เราคงอยากติดน้ำไปกินสักขวด เอาโทรศัพท์ติดไปสักเครื่อง เอาไว้ฟังเพลงเพลินๆ ติดกระเป๋าสตางค์สักหน่อยจะได้ซื้อของ ฯลฯ ทั้งที่จริงเป้าหมายเรา คือ ไปวิ่ง จากที่จะเร็ว ก็จะยิ่งช้าลง … จริงแล้ว สิ่งสำคัญสำหรับการออกวิ่ง คือ ชุดวิ่งกับรองเท้า 1 คู่ เพียงเท่านี้ เราก็จะวิ่งได้เร็วกว่าเดิม …
ดังนั้น การโฟกัส Focus หรือ Minimal หรือ Less is more ไม่ว่าจะคำไหน อาจดูเป็นเรื่องเดียวกัน ขอเพียงเรากำหนดเป้าหมายที่เราจะเดินไปให้ “ชัดเจน” แน่วแน่ เราก็จะมีเวลาชีวิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ยิ่งช่วยเพิ่มเวลาของการเดินทางสู่ความสำเร็จให้กับตัวเราได้เร็วยิ่งขึ้นครับ
ขอเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคนครับ
=====================

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา