31 ต.ค. 2019 เวลา 10:59 • สุขภาพ
Gabapentinoids : สถานการณ์การสั่งใช้ที่มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้แบบ "Off label"
ในสหรัฐอเมริกาช่วงระหว่างปีค.ศ. 2005 ถึง 2015 หรือในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานั้น เราพบว่ามีการสั่งใช้ยาในกลุ่ม Gabapentinoids มากขึ้น (ยาที่เป็นพระเอกในกลุ่มนี้มี 2 ตัว คือ Gabapentin และ Pregabalin)
ยา 2 ตัวนี้มีโครงสร้างที่แตกต่างกันแต่มีเป้าหมายการออกฤทธิ์อยู่ที่เดียวกันนั่นคือ Voltage-gated calcium channel ที่สมอง (เหมือนเราจะพูดถึง calcium channel บ่อยเหมือนกันช่วงนี้ 🤣)
ดังนั้นข้อบ่งใช้ของยากลุ่มนี้คือรักษาอาการชัก หรือเป็นยากันชักนั่นเอง นี่คือเหตุการณ์ในช่วงแรกๆที่ยาถูกยอมรับให้มีการใช้ ระยะต่อมาก็ยอมรับให้ใช้ในการรักษาอาการปวดที่เกิดจากระบบประสาทหรืออาการปวดปลายประสาทนั่นเอง
ตำแหน่งที่ยา Gabapentin/Pregabalin ไปออกฤทธิ์
แต่ปัจจุบันพบถึง 95% ที่มีการสั่งใช้แบบนอกข้อบ่งใช้ “Off label” เราพบว่ามีการนำยากลุ่มนี้มาใช้รักษาอาการปวดในคนไข้มะเร็ง
จริงๆยากลุ่มนี้ถูกนำมาใช้รักษาอาการปวดอื่นๆเช่น Migrain หรือ Fibromyalgia ได้เหมือนกัน แต่การใช้รักษาอาการปวดในคนไข้มะเร็ง ต้องยอมรับเลยว่าข้อมูลเรื่องกลไกการออกฤทธิ์ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่แน่ชัด
“Cancer is a disease of aging” ประโยคนี้แปลว่า “มะเร็งเป็นโรคของคนแก่” แต่ที่น่าประหลาดใจ ปัจจุบันเราพบมะเร็งในคนอายุ 14-44 ปี ดังนั้นมะเร็งไม่ใช่โรคของคนแก่อีกต่อไปแล้ว และคนกลุ่มนี้แหละที่เราพบว่ามีการสั่งใช้ยาในกลุ่ม Gabapentinoids เยอะที่สุด ซึ่งสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากยาเคมีบำบัดที่เหนี่ยวนำให้เกิด nerve pain หรืออาการปวดทางระบบประสาท
ขอบคุณภาพจาก (1)
มาดูข้อมูลการสั่งใช้ยาบ้างที่ว่าเพิ่มขึ้นนั้นเพิ่มมากน้อยแค่ไหน
หากดูเปอร์เซนต์การสั่งใช้ในปี 2005 อยู่ที่ 2.34% แต่พอปี 2015 เพิ่มขึ้นเป็น 5.60% หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าใน 10 ปีเลยทีเดียว ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่มีการใช้ยานั้นปี 2005 อยู่ที่ 1.19 ล้านคน พอมาปี 2015 เพิ่มขึ้นเป็น 3.52 ล้านคน
เมื่อพิจารณจากกราฟข้างล่างนี้ก็จะเห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
แนวโน้มการใช้ยา Gabapentin และ Pregabalin จะเห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทุกๆปี (ขอบคุณภาพจาก (2))
เรามีความกังวลอะไรในตัวเลขที่เพิ่มขึ้นแบบนี้
สิ่งที่เรากังวลคือกลไกการควบคุมความปวดในผู้ป่วยมะเร็งยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมอีกมาก นอกจากนี้เรายังประเมินความเสี่ยงของยาในกลุ่มนี้น้อยเกินไป คิดว่าไม่เป็นอันตรายมาก แต่อย่าลืมประเด็นเรื่องการติดยาและอันตรกิริยาระหว่าง Gabapentinoids กับ Opioids ด้วยล่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา