17 พ.ย. 2019 เวลา 01:00 • ความคิดเห็น
หากคุณต้องเลือกระหว่าง ความฝันของคุณ
กับการทิ้งความฝัน เพื่อรักษาสิ่งๆหนึ่ง
คุณจะเลือกอะไร???
แอดมินเคยได้ฟัง อ.ชัชชาติ เล่าจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิต เมื่อสิ่งที่ต้องรักษาคือ "ลูก" แน่นอน อ.ยอมทิ้งความฝันตัวเอง แล้วพาลูกไปรักษาตัว ที่ต่างประเทศ
นั่นคือ บทเรียนสำคัญ ที่แอดมินได้เรียนรู้
คือ ก่อนที่เราจะเปลี่ยนคนอื่น หรือนำคนอื่นได้
เราต้อง "นำ" ตัวเราเองให้ได้ก่อน
เลือกทางเดิน ที่เราตัดสินใจดีแล้ว และลุยไปเลย...
"Lead your life, before lead others"
และในงานสัมมนา "Beat the future 2020-2025" ได้รับเกียรติ จากทาง อ.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (อดีตรัฐมนตรีผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี 😆) ขึ้นบรรยาย โดย อ.ชัชชาติ ก็ได้เปลี่ยนชื่อหัวข้อเล็กน้อย จาก "Beat" เป็น "Survive" the future
คือ ขั้นแรกยังไม่ต้องหวังเอาชนะระรานผู้อื่น เอาตัวรอดให้ได้ก่อน...ก็พอ
คือ การรู้เท่าทัน และ "อยู่รอด" ในยุคที่เปลี่ยนแปลงไวที่สุด อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
(หากใครเคยอ่านบทความจาก Wait but why จะเหมือนอารมณ์ เรากำลังยืนอยู่บนเส้นกราฟ exponential ที่ความชันกำลังไต่ขึ้น
Cr. wait but why
หากเรามองย้อนอดีตไป อาจบอกว่า มันไม่เปลี่ยนเร็วขนาดนั้นหรอก แต่บางทีอาจหารู้ไม่ว่า อนาคตวันข้างหน้า เราอาจตกกราฟไปแล้ว...ถ้าไม่รีบปรับตัว)
และนี่คือ 6 วิธี ที่เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรับมือ กับ การเปลี่ยนแปลงที่กำลังถาโถมเข้ามาในอนาคต (อันใกล้)
หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลย
หนึ่ง Focus on what you need
ข้อนี้ อ.ชัชชาติ ยกตัวอย่างหนังสือ เล่นกล้าม เรื่อง "Bigger Stronger Leaner" มีประโยคเด็ดคือ "Eat what you need, not what you want"
คือ ทานเฉพาะ สิ่งที่จำเป็น ไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากกิน
(ตัวอย่างนี้ สมเป็น อ.ชัชชาติจริงๆ
ซึ่งแอดต้องขอบอกว่า จริงๆ แล้วท่านไม่ได้เล่นเพื่อให้มีกล้าม แต่ท่านเล่นกล้ามเพื่อให้ควบคุมพลังของท่านให้ได้เท่านั้น...😆😆)
อีกตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลก และโดยเฉพาะประเทศไทย ที่กีฬาวิ่ง(มาราธอน) กำลังเป็นที่นิยมสุดๆ ก็คือ "เอลิอุด คิปโชเก้" ชายผู้ที่วิ่งมาราธอน ได้เร็วที่สุด เท่าที่มนุษยชาติ เคยมีมา...
กล่าวเอาไว้ว่า "คนที่มีวินัยเท่านั้น ถึงจะมีอิสระในชีวิต ถ้าคุณไม่มีวินัย คุณจะตกเป็นทาสของอารมณ์ และ Passion"
แอดมินขอเสริมบุคคลสำคัญอีกคน คือ นักลงทุนระดับตำนานอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่บอกว่า
"ถ้าคุณมัวแต่ซื้อของที่ไม่จำเป็น ในไม่ช้าคุณอาจจำเป็นต้องขายของที่คุณต้องใช้ก็ได้"
ซึ่งจริงๆ แล้วสิ่งที่เราต้องโฟกัสให้ดีที่สุด ก็คือ การใช้ "เวลา" ของตัวเราเอง เหมือนโถแก้ว หากใส่มัวแต่ใส่ทรายลงไป ก็คงไม่มีที่ว่างพอสำหรับหินก้อนใหญ่
Cr. Prioritize your life
สอง Stay Relevant
เริ่มด้วยตลกร้าย ป้ายบริษัทเฟสบุ๊ก รูปสัญลักษณ์ กดไลค์ อันโด่งดัง แต่ด้านหลังป้ายหินดังกล่าว มีโลโก้ของ บริษัท Sun Microsystem บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ ที่ปรับตัวไม่ทัน จนต้องปิดกิจการไป
Cr. Business Insider
มีไว้เพื่อเตือนพนักงานเฟสบุ๊กทุกครั้งที่เดินกลับบ้านว่า ซักวันอาจไม่มีที่ยืน (ถ้าไม่รู้จักปรับตัว)
โลกปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อายุไขเฉลี่ยบริษัทลดลง การเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจทำให้ "ชนชั้นกลาง" กลายเป็น ชนชั้นที่ไร้ค่า กลุ่มแรงงาน พนักงานบริษัท ที่เงินเดือนสูง คือเป้าหมายที่จะต้องถูกแทนที่ด้วย AI
การเรียนรู้ปัจจุบัน ต้องเป็นแบบตัว T คือ "รอบรู้" ในหลายสาขาวิชา และ "รู้ลึก" ในวิชาที่ตัวเองถนัดมากๆ
T-Shaped
ประเด็นนี้แอดมิน เสริมจากที่พูดคุยกับพี่ๆ ท่านอื่นคือ ปัจจุบัน ไอ้ที่บอกรอบรู้ อาจรู้แต่ผิวๆ ไม่ได้ ต้องรอบรู้ ลงไป "ลึก" ระดับหนึ่ง ไม่งั้น ก็คงเหมือนจำคำคนอื่นมาพูดไปเท่านั้น
และ อ.ชัชชาติ เน้นให้เริ่ม Collect Dots หาให้มาก เพื่ออนาคต จะได้สามารถเอา Dots (ความรู้/ทักษะ) ที่มีอยู่มาใช้
สาม Visualize the future
บางคนบอกไม่ใช่หมอดู จะรู้อนาคตได้อย่างไร แต่ อ.ชัชชาติ แนะนำว่า อนาคต จริงๆ แล้วมันอยู่ตรงหน้าเราแล้ว (The Future is here) แต่มันยังกระจายไม่ทั่วถึง
ให้เราลองพยายามมองดูเหตุการณ์ รอบๆตัวเรานี่แหล่ะ แล้ว "คิดให้มาก" ตัวอย่างเช่น งานเฮ้ย งานช้อปปิ้งวันคนโสด 11.11 ที่ผ่านมา ใครน่าจะเป็นผู้ชนะ
ดูจากผลประกอบการ Kerry บริษัทขนส่งโตเร็วมากๆ ถือว่า มาถูกจังหวะ จริงๆ แล้วต้องมองว่า สิ่งที่ Kerry กำลังดิสรัป คือ พวก อสังหาริมทรัพย์ พวกห้างค้าปลีก ต่างหาก เรานั่งกด Lazada Shopee อยู่ที่บ้านเพลินไปเลย
แต่ตรงเรื่องนี้แอดมินขอเสริมว่า Kerry ก็อย่าเพิ่งดีใจไป สงครามมันเพิ่งเริ่ม อนาคต logistics ก็อาจไม่ได้กำไรอะไรมากมาย เพราะคู่แข่งเข้ามาเยอะขนาดนี้ แถมกระเป๋าตังค์หนาซะด้วย
ส่วน Lazada Shopee ปัจจุบันยอมขาดทุนกระจาย เขาทำเพราะหวังอะไรบางอย่างในอนาคต..
ช้อปปี้ จะขาดทุนถึงเมื่อไหร่???
หากใครติดตาม เรย์ ดาลิโอ เขียนบทความบอกว่าเงินท่วมโลก ไม่รู้ทำอะไรดี ขนาดเงินกองทุนระยะยาว พวก pension ที่น่าจะรับความเสี่ยงได้ต่ำ ยังมาลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ (ผ่านกองทุน Venture Capital) ก็นี้แหล่ะ คือ โลกเรามันฟองสบู่ รอวันแตกเท่านั้นเอง
สี่ Find your strength
โลกอนาคต จะเป็นอย่างไร? ข้อนี้ อ.ชัชชาติ มองว่ายังไงคนก็ยังต้องกลับมาโลกออฟไลน์ คือยังต้องกินอาหาร (โมเลกุล) รู้อย่างนี้หากมองไทย สิ่งที่เราทำได้ก็ต้องทำโลกออฟไลน์ให้เข้มแข็ง!
ลองคิดภาพ หากเราเอาสิ่งดีๆ จากชุมชนที่เข้มแข็ง ไปจับมือกับเทคโนโลยีดิจิตอล จะเกิดอะไรขึ้น!!
ข้อนี้เป็นโอกาสของคนที่มองเห็นนะ
อีกข้อหนึ่งที่น่าคิดคือ มนุษย์ยังไงก็ยังต้องมีเรื่องอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ ลองดูเซียนโกะจีน นั่งแข่งกับ AI อยู่ๆ ระหว่างแข่งก็นั่งร้องไห้! (เค้าพยายามอย่างที่สุดเพื่อมวลมนุษยชาติแล้วมันสู้ไม่ได้จริงๆ)
ซึ่งข้อนี้ คนไทยเก่งมาก เรื่อง Hospitality ต้องดึงจุดแข็งออกมา จริงไปแล้วด้านเทคโนโลยีคนไทย ก็ไม่ธรรมดา เช่น หุ่นยนต์ เพื่อการเกษตรแม่นยำ เราก็มีนะ เช่น HG Robotics (ใครสนใจใช้บริการติดต่อแอดมินได้)
ห้า Trust
ข้อนี้ สั้นๆ แต่สำคัญสุดๆ
เกิดเป็นคนสำคัญที่สุด คือ "ความไว้ใจ" (Trust) รักษาเอาไว้ให้เท่าชีวิต
Trust
หก Empathy
ยิ่งเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว ความเหลื่อมล้ำก็เพิ่มสูงขึ้น โดยโอกาสจะไปอยู่กับคนที่เข้าถึง เทคโนโลยี
ยิ่งโลกเราไปนิยมการ "Selfi" คือ สนใจเรื่องตังเอง แต่เราได้หันมามองคนรอบตัวไหม อ.ชัชชาติ ยกตัวอย่าง โรงเรียนในสลัมคลองเตย ยังดีที่มีเห็นอกเห็นใจ ดูแลเด็กๆ
Empathy คือ "I feel how you feel" ไม่ใช่ Sympathy คือ "I know how you feel"
คือ แค่รู้มันคงไม่พอ มันไม่เหมือนกับ เข้าใจจิตใจของผู้อื่น
โดยรวมทั้ง 6 ข้อ ก็คือ
1. Focus on what you need - ต้องมีวินัย
2. Stay Relavant - อย่าตกยุค
3. Visualize the future - อนาคตอยู่ตรงหน้า
4. Find your strength - ใช้และเพิ่มจุดแข็ง
5. Trust - สร้างความเชื่อใจ
6. Empathy - เข้าใจจิตใจของผู้อื่น
ซึ่งช่วงถาม-ตอบ มีคำถามโดนใจ จริงๆ แล้วหลายคำถาม แต่คำถามหนึ่ง ที่ตรงประเด็นเรื่องนี้ ก็คือคำถามที่ว่า: ใน 6 ข้อนั้น อ.ชัชชาติ คิดว่า ข้อไหน "สำคัญที่สุด" ถ้าเลือกได้ข้อเดียว...
ซึ่ง อ.ชัชชาติ ก็ให้ความเห็นว่า คือเรื่อง ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือ "Empathy"  คือ มันเป็นมิติ ที่มองไปข้างนอกตัวเราเอง
(ก็คงเหมือนกับการที่อาจารย์ ยอมทิ้งความฝันของตัวเอง...)
แต่ก็อาจมีประเด็นโต้แย้งว่า เมื่อเห็นใจผู้อื่น หากมากเกินไป วินัยในตัวเอง จะหย่อนลงหรือไม่ อันนี้ อาจารย์บอกว่าต้องหาจุดสมดุลของแต่ละคน
ก็ถือว่าเป็นมุมมองดีๆ กับ 6 วิธีเอาตัวรอด กับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อย่างไรก็ตาม อ.ชัชชาติ เน้น ก่อนที่จะเริ่มบรรยายว่า ให้ดูข้อ "ศูนย์" ด้วย
ซึ่งก็คือ อย่าเพิ่งเชื่อสิ่งที่ อ.ชัชชาติ พูดทั้ง 6 ข้อนี้ ให้ลองไป "คิด" ดูด้วยตัวเองก่อน
สรุปคือ เคล็ดวิชา
"Lead your life, before lead others"
เราคงต้องตกผลึกความคิดตัวเอง ฟังเสียง "หัวใจ" ตัวเอง และ "ทดลอง" ทำดู...
เพราะเราไม่สามารถ "connect the dots" เมื่อมองไปข้างหน้าได้ เราไม่มีทางรู้ ว่าความรู้ หรือทักษะ ที่เราเรียนรู้อยู่ทุกวันจะได้ใช้ประโยชน์ในอนาคต หรือไม่
เราทำได้เพียงแค่ connect the dots "backwards" หรือมองย้อนหลังไป แล้วเชื่อมโยง ความรู้ และทักษะ ที่เราได้เรียนรู้มา เพื่อแก้ "ปัญหา" ที่เรากำลังเผชิญอยู่ หรือ เพื่อคว้า "โอกาส" ที่ลอยมาอยู่ตรงหน้าเรา
คงเหมือนดั่ง สุนทรพจน์ ของสตีฟ จอบส์ ที่ให้กับเหล่านักศึกษาในงานวันรับปริญญา ปี ค.ศ. 2005 หกปีก่อนที่สตีฟ จะจากโลกนี้ไป
ที่ว่า...
Don’t let the noise of others’ opinions drown out your own inner voice.
"อย่ายอมให้เสียงของคนอื่นๆ มากลบเสียงที่อยู่ภายในตัวของคุณ"
And most important, have the courage to follow your heart and intuition.
"ที่สำคัญที่สุดคือ คุณจะต้องมีความกล้าที่จะก้าว ไปตามที่หัวใจคุณปรารถนาและสัญชาตญาณของคุณจะพาไป"
They somehow already know what you truly want to become. Everything else is secondary.
"เพราะหัวใจและ สัญชาตญาณของคุณรู้ดีว่า คุณต้องการจะเป็นอะไร และเรื่องอื่นๆ ก็จะเป็นเรื่องรองลงไป..."
ท่านใดพลาดตอนที่ 1 อ่านได้ที่
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทีมจัดงาน
Intania Young Alumni (IYA) Forum 2019
ที่จัดงาน ดีๆ แบบนี้ มา ณ ที่นี้ด้วย 👍
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ
กดติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
และสำหรับผู้นำเข้าส่งออก เชิญเข้าร่วมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หาช่องทางนำเข้าส่งออก และข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก ได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา