8 ม.ค. 2020 เวลา 12:54 • ความคิดเห็น
ทำไมคนเราต้องฆ่ากัน 🤔 อยู่กันอย่างสงบไม่ได้หรือ ?
ประเด็นร้อนแรงที่ใครหลายคนติดตามอยู่ขณะนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องราวของสหรัฐอเมริกาและอิหร่านที่กำลังก่อสงครามกัน จนหลายคนวิตกกังวลว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่
บทความนี้ผมจะชวนพวกเรามาวิเคราะห์กันถึงแก่น (core) ของการทะเลาะเบาะแว้งว่า ทำไมต้องทะเลาะกัน ทำไมต้องแก่งแย่งกัน ทำไมต้องเข่นฆ่ากัน พวกเราพอจะรู้ไหมครับว่าอะไรเป็นสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
เราจะถามใครดีถึงเรื่องนี้ 🤔 คงเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจากพระพุทธเจ้าครับ เราไปถามพระองค์กัน
เชื่อไหมครับว่าการทะเลาะกัน ทำสงครามกันไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้นนะครับ
เทวดา อสูร นาค สัตว์เดรัจฉาน ทะเลาะกัน ทำสงครามกัน เข่นฆ่ากันเป็นเรื่องปกติครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
มีเครื่องผูกมัดครับที่ทำให้เราอยู่กันดี ๆ อย่างสงบสุขไม่เป็น
พระพุทธเจ้าตรัสเครื่องผูกมัดนั้นว่ามี 2 อย่าง คือ
1️⃣ ความอิจฉา (เห็นเขาได้ดีแล้วไม่พอใจ อยากจะมีหรืออยากจะเป็นอย่างเขาบ้าง)
2️⃣ ความตระหนี่ (ความหวง ไม่ยอมให้สิ่งใดแก่ใครไปง่าย ๆ)
2 ตัวนี้แหละครับ ตัวดีเลยที่ทำให้เกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้น
แล้วอยู่ ๆ ความอิจฉาและความตระหนี่จะเกิดขึ้นมาเองลอย ๆ เลยไหม ไม่ครับ มีเหตุอีกเช่นกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดความอิจฉาและความตระหนี่คือ “สิ่งอันเป็นที่รักและสิ่งอันไม่เป็นที่รัก”
เรารักสิ่งใดความตระหนี่ ความหวงในสิ่งนั้นจะตามมา เราไม่ชอบสิ่งใด พอสิ่งนั้นได้ดี ความรู้สึกอิจฉา ไม่พอใจจะตามมา วนเวียนอยู่อย่างนี้
นี่คือจุดชนวนของการทะเลาะที่ถือเป็นแก่น (core) เลยครับ จนพัฒนาไปเป็นสงครามในที่สุด
เวลาอ่านเรื่องราวสงครามของระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่านลองตอบคำถามนี้ดูครับ
อะไรคือสิ่งอันเป็นที่รักและสิ่งอันไม่เป็นที่รักของทั้ง 2 ประเทศ เขาทั้งสองนั้นอิจฉาหรือตระหนี่อะไรกันอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ไม่แปลกเลยครับที่จะทะเลาะหรือเข่นฆ่ากัน
ดังนั้นถ้าความอิจฉาและความตระหนี่ไม่มี เรื่องนี้จบครับ
จบจริงหรือ ?
เอ๊ะยังไง 😂
ลองกลับไปย้อนอ่านข้างบนดูอีกทีครับ ความอิจฉาและตระหนี่เกิดจากอะไร ?
🌟🌟 สิ่งอันเป็นที่รักและสิ่งอันไม่เป็นที่รัก🌟🌟
นี่ไงครับ หากตัวการยังอยู่ ยังมีความพอใจใน 2 สิ่งนี้อยู่ เดี๋ยวอิจฉาและตระหนี่จะตามมาแน่นอนครับ
พระพุทธเจ้าจึงสอนให้เราถอนความพอใจออกจากสิ่งอันเป็นที่รักและสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ถ้าถอนไม่ได้ เดี๋ยวการทะเลาะกันก็ตามมาครับ (เพราะอิจฉาและตระหนี่จะตามมา)
ถามว่า ถอนความพอใจยากไหม ตอบได้ชัดเจนเลยว่า ไม่ง่ายครับ 😊
หากใครจะพูดถึงศาสนาแห่งความรัก ผมยกให้พระพุทธศาสนาครับ เราลองไปดูศีลข้อที่ 1 ในศีล 5 ดูสิครับ ศีลข้อที่ 1 ว่าอย่างไร
หลายคนท่องได้ตั้งแต่เด็ก “ข้อ 1 ไม่ฆ่าสัตว์” มันสั้นไปจนไม่เข้าใจความหมายและการนำไปใช้ จนลืมไปว่ามนุษย์ก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง
เนื้อความเต็ม ๆ ของศีลข้อนี้มีดังนี้ครับ
“เธอนั้น ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต (การฆ่า) วางท่อนไม้และศาสตราเสียแล้ว มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่”
ดู keyword ดี ๆ นะครับ มีคำว่า “ละ” “เว้นขาด” นั่นคือเราจะไม่ทำเลยนะครับ ไม่ทำเด็ดขาด ไม่ฆ่าเด็ดขาด !!
วางท่อนไม้และอาวุธหมด แต่ตอนนี้ที่เห็นสหรัฐอเมริกากับอิหร่านกำลังจะจับอาวุธสู้กัน 😰
ถ้าคนทั้งโลก ย้ำทั้งโลก มีศีลข้อนี้ ผมขอแค่ข้อเดียวครับ พวกเราคิดว่าการทำร้าย การฆ่า หรือสงครามจะเกิดขึ้นมาได้ไหมครับ
มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย ...
และก็เป็นไปไม่ได้อีกแหละครับที่คนทั้งโลกจะมีศีลข้อนี้ 😰
หวังว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย
จงมีสติอยู่กับปัจจุบันนั้นดีที่สุดครับ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แค่นั้น 😊 สงครามมีมานานแล้ว และจะมีต่อไป ไร้ที่สิ้นสุด ตราบใดที่มนุษย์ยังตัดตัวต้นเหตุที่ผมกล่าวไปไม่ได้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา