ตายในหน้าที่ หมอผู้เสียสละชีวิต nCoV 2019 และ SARS 2003
เมื่อวานนี้ นพ.เหลียง อูตง (Liang wudong) แพทย์หูคอจมูกที่เพิ่งเกษียณอายุไปเมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว ได้เสียชีวิตจากโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 อู่ฮั่น หลังจากได้เป็นแพทย์แนวหน้าในการช่วยเหลือผู้ป่วยในเมืองอู่ฮั่น
เชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เริ่มระบาดมาจากตลาดขายอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่นเมื่อช่วงส่งท้ายปี 2019 ได้แพร่ระบาดอย่างหนักในหลายเมืองของประเทศจีนและได้แพร่กระจายไปหลายทวีป
เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดครั้งนี้และเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทางการจีนต้องระดมแพทย์และพยาบาลกว่า 1,200 คนเข้าสู่พื้นที่
ความตึงเครียดของบุคลากรทางการแพทย์สะท้อนออกมาในโซเชียลมีเดีย ไม่น่าแปลกใจที่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จะอยู่ในภาวะกดดัน ทั้งจำนวนผู้ป่วยที่ต้องดูแล ความวุ่นวายโกลาหลของสถานการณ์ ความกลัวและความกังวลต่อการติดเชื้อจากผู้ป่วย แพทย์ที่ป่วยถึงกับเสียชีวิตจึงสามารถทำให้บุคลากรที่ทำหน้าที่อยู่เสียขวัญได้
สำนักข่าว The Guardian
นายแพทย์เหลียง มีอายุ 62 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้เสียชีวิตจากเชื้อร้ายนี้ส่วนใหญ่มีอายุมากและมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคไต โรคถุงลมโป่งพอง เช่นเดียวกับนายแพทย์เหลียง
นายแพทย์เหลียงได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอู่ฮั่นด้วยอาการแน่นหน้าอก จากผลตรวจเลือดและเอกซเรย์ปอดพบว่าเป็นโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เขาถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น นับตั้งแต่เริ่มมีอาการใช้เวลาเพียง 9 วัน
ในอดีตเมื่อราวปี 2002 ถึง 2003 เมื่อครั้งที่ SARS ระบาดหนักในกวางตง ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ นายแพทย์คาร์โล เออร์บานี (Carlo Urbani) แพทย์และนักจุลชีววิทยาชาวอิตาเลียนที่กำลังทำงานกับองค์การอนามัยโลกได้ถูกเรียกตัวไปสอบสวนเชื้อไวรัสปอดบวมปริศนาในประเทศเวียดนาม
ช่วงกุมภาพันธ์ ปี 2003 นายแพทย์เออร์บานีได้ถูกเรียกไปโรงพยาบาลฝรั่งเศสแห่งฮานอยเพื่อตรวจคนไข้นักธุรกิจชาวอเมริกันที่ได้ล้มป่วยลงจากเชื้อที่แพทย์ที่นั่นสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่
เขารู้ทันทีว่าโรคนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคธรรมดาเพราะจากผู้ติดเชื้อทั้งหมดมีบุคลากรในโรงพยาบาลติดเชื้อกว่าครึ่ง เชื้อนี้ต้องเป็นเชื้อใหม่ที่อันตรายและติดต่อได้ง่ายมาก เขาได้ทำการติดต่อกับ WHO ให้เริ่มการตอบสนองต่อโรคระบาดนี้ทันที
เขายังได้โน้มน้าวกระทรวงสุขภาพของเวียดนามให้แยกและคัดกรองนักท่องเที่ยวที่สงสัยเพื่อชะลอการระบาด
วันที่ 11 มีนาคม เขาบินจากฮานอยมาร่วมงานประชุมที่กรุงเทพมหานคร เขาเริ่มรู้สึกมีไข้ขณะที่อยู่บนเครื่องบิน เขารู้ทันทีว่าน่าจะติดเชื้อแล้วแน่ๆ ทันทีที่ลงจากเครื่องบิน เขาบอกเพื่อนให้นำรถพยาบาลมารับทันที
ปอดของเขาแย่ลงในเวลาต่อมาจนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ นายแพทย์เออบานีได้ขอให้บาทหลวงเจิมศีลสุดท้ายให้กับเขาก่อนที่นายแพทย์เออบานีจะสิ้นใจในวันที่ 29 มีนาคม ปี 2003 สิริรวมอายุได้ 46 ปี
นายแพทย์คาร์โล เออบานีได้เข้าร่วมแพทย์ไร้พรมแดน (Medicins Sans Frontieres หรือ Doctors without borders) เคยทำงานในกัมพูชาเกี่ยวกับโรคพยาธิใบไม้ในตับและช่วยต่อรองราคายาเอดส์ มาลาเรีย และวัณโรคเพื่อให้คนยากจนเข้าถึงได้ เขาเป็นตัวแทนคนหนึ่งในการรับรางวัลโนเบลจากการดำเนินงานเพื่อสาธารณสุขของแพทย์ไร้พรมแดน
Carlo Urbani from nejm.org
มีเรื่องเล่าว่าขณะที่เขาอยู่ในห้องแยกในโรงพยาบาล ภรรยาที่กำลังเศร้าโศกเสียใจได้คุยกับเขาผ่านอินเตอร์คอมได้ต่อว่าเขาที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อลูกๆในการเสี่ยงชีวิตกับโรคระบาดเหล่านี้ นายแพทย์เออบานี่ได้ตอบกลับไปว่า "ถ้าผมไม่สามารถทำงานในสถานการณ์แบบนี้ได้ ผมจะมาอยู่ที่นี่ไปเพื่ออะไร จะให้ตอบอีเมล์ ไปงานเลี้ยงหรือให้ผมทำงานเอกสารกระนั้นหรือ"
เขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร เพื่อจดจำการเสียสละของท่าน ปัจจุบันชื่อของนายแพทย์คาร์โล เออร์บานี่เป็นชื่อของห้องแยกผู้ป่วยในโรงพยาบาลบำราศนราดูร และเมื่อเดือนมิถุนายน 2003 องค์กรเออบานีอินเตอร์เนชั่นแนลได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อจัดการโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ถ้าไม่ได้ความกล้าหาญและความรับผิดชอบของนายแพทย์เออร์บานี่ เชื้อซาร์สอาจแพร่ระบาดในประเทศไทยและอาจมีผู้เสียชีวิตมากมาย
ในฮ่องกง กว่าหนึ่งในสี่ของผู้ป่วยโรคซาร์สเป็นบุคลากรทางการแพทย์
การระบาดครั้งนั้นมีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางแพทย์เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสซาร์สทั้งสิ้น 33 คน
สำหรับ nCoV 2019 อู่ฮั่น ข้อมูลล่าสุดพบบุคลากรการแพทย์ติดเชื้อ 14 คน
อ้างอิง
- 82
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
