5 ก.พ. 2020 เวลา 10:21 • การศึกษา
6 วิธีสร้าง “Passive Income” ทำเงินให้คุณได้แม้ยามหลับ
1
การสร้างกระแสรายได้ให้มีกระแสเงินสดเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ เป็นความฝันหนึ่งของคนรุ่นใหม่ ใครๆก็อยากได้มีรายได้หลายทาง เพื่อที่จะให้มี “Passive Income” เข้ามาทุกเดือน หรือไม่ต้องไปลงมือลงแรงทุกวันเพื่อให้มีรายได้ แต่ลงแรงแค่ช่วงแรกๆ แล้วสร้างรายได้ประจำให้กับเรากลับมาได้ เปรียบเสมือนมีเครื่องจักรสร้างเงิน เพื่อไปสร้างรายได้ให้กับเราต่อไป วันนี้เรามี 5 วิธีที่ช่วยสร้าง รายได้แบบ Passive ที่เป็นที่นิยมให้ลองนำไปเลือกใช้กัน
.
.
1.การปล่อยให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
5
อสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่เราทุกคนจับต้องได้ ทุกคนอยากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ อยากมีบ้านหรืออยากมีคอนโดไว้พักอาศัย และหากเป็นเจ้าของจำนวนมากเกินกว่าที่ไว้เพื่ออยู่อาศัย ส่วนที่เหลือก็สามารถนำไปต่อยอดสร้างกระแสเงินสดเข้ามาทุกเดือนได้
4
อสังหาริมทรัพย์ที่นิยมปล่อยเช่ากันมากที่สุดในยุคสมัยนี้ ได้แก่ คอนโดฯ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม มีทั้งการปล่อยเช่าเป็นรายเดือน และปล่อยให้เช่าระยะยาว หรือบางคนมีที่ดินอยู่ก็ปล่อยให้ธุรกิจเช่าระยะยาวได้เช่นกัน
การเลือกอสังหาฯเพื่ออยู่อาศัยหรือปล่อยเช่า หัวใจสำคัญอยู่ที่ทำเล (Location) ติดรถไฟฟ้า ติดห้างสรรพสินค้า ติดสำนักงานออฟฟิศ หรือสถานที่สำคัญต่างๆ รวมไปถึงเรื่องของแบรนด์เจ้าของโครงการ หากเป็นแบรนด์ขนาดใหญ่ก็มีโอกาสที่จะซื้อง่ายขายคล่องกว่า และน่าจะมีทีมงานบริหารโครงการนิติบุคคลที่ดีและน่าเชื่อถือกว่าผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯขนาดเล็ก
1
เราลองมายกตัวอย่างให้เห็นภาพกันหน่อย เช่น ถ้าเราอยากมี Passive Income เดือนละ 1 หมื่นบาท จากอสังหาฯ เราต้องปล่อยเช่าคอนโดฯ จำนวน 1 ห้อง (แต่ก็ต้องอย่าลืมหักค่าใช้จ่าย ต้นทุนต่อเดือนที่เราเป็นเจ้าของต้องจ่ายไป พวก ภาระดอกเบี้ย ค่าส่วนกลาง และอื่นๆ) แต่เราก็ต้องคำนึงไว้เสมอว่า การลงทุนคอนโด หรืออสังหาฯ ต้องใช้เงินทุนเยอะ มีสภาพคล่องต่ำ และในระยะยาวอาจได้ค่าเช่าลดลง ตามอายุการใช้งานของห้องและอาคาร
.
.
2.การซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise)
3
ธุรกิจแฟรนไชส์ มีอยู่มากมายบนโลก หันไปทางไหนก็เจอ เช่น แมคโดนัลด์, KFC, ร้านสะดวกซื้อ 7-11, ร้านกาแฟอเมซอน เป็นต้น โดยหลักการของคนที่อยากสร้างกระแสเงินสดจากธุรกิจประเภทนี้ คือ การซื้อระบบธุรกิจ ดังนั้นธุรกิจแฟรนไซส์ จึงเหมาะกับคนที่ต้องการทำธุรกิจ แต่ไม่อยากเสี่ยงเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่ต้องเหนื่อยที่จะไปสร้างแบรนด์ใหม่ วางระบบธุรกิจ เพราะการทำตลาดใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยสำหรับคนที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ แต่ยังไงก็ตามถึงแม้ระบบธุรกิจแฟรนไชส์จะดี แต่ในเรื่องของกำไรอาจจะไม่ค่อยสูงมากนัก เพราะต้องลงทุนซื้อสิทธิ์และบางแบรนด์ก็ต้องแบ่งกำไรให้กับมาสเตอร์แฟรนไชส์อีกด้วย
.
.
3.การทำลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา
1
ลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นความสามารถเฉพาะบุคคล ที่ใช้มันสมองในการคิดค้นขึ้นมา เช่น การแต่งเพลง การเขียนหนังสือ การวิจัยคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และไปจดสิทธิบัตรเอาไว้ เมื่อมีคนที่ต้องการใช้สิ่งที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาก็ต้องมาขอกับเจ้าของสิทธิบัตร
การทำคลิป VDO ลงใน YouTube และมียอดวิวถึงจำนวนหนึ่ง ทาง YouTube ก็จะจ่ายส่วนแบ่งของโฆษณามาให้กับเจ้าของคลิปนั้น การเขียนหนังสือ ก็มีหลายเล่มที่ได้รับการแปลไปทั่วโลก บางเล่มก็ได้ต่อยอดทำมาเป็นภาพยนตร์ ยิ่งสร้างรายได้ให้กับเจ้าของผลงานไปได้ตลอด ก็ถือเป็นอีกช่องทางในสร้างกระแสเงินสดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี ข้อที่ต้องเฝ้าระวัง คือ การปลอมแปลงหรือลอกเลียนผลงานของเจ้าของ ก็สามารถทำได้ไม่ยากในยุคแห่งโลกดิจิทัล
.
.
4.การสร้างแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตมาร์เก็ตติ้ง (Internet Marketing)
1
ธุรกิจใหม่ที่มาแรง แซงทางโค้งในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Google, Facebook, YouTube ต่างก็เป็นแพลตฟอร์มด้านอินเทอร์เน็ตมาร์เก็ตติ้งที่มีผู้ใช้บริการมากมายทั่วโลก โดยที่พวกนี้ไม่จำเป็นต้องคิด ผลิตเนื้อหาขึ้นมาเอง เพียงแต่ทำ Web หรือ Application ให้เข้าถึงผู้คน น่าดึงดูดและน่าสนใจ แต่เบื้องหลังเว็บเหล่านี้ ต้องมีการวางระบบบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมในการเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าหรือใช้บริการ เมื่อเราทำได้ดีแล้วก็จะมีสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกับเรามาติดต่อขอลงโฆษณาเช่าพื้นที่ จึงถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้าง Passive Income ในยุคนี้ได้
.
.
5.การลงทุนในหุ้น
3
หุ้น เป็นเครื่องมือทางการลงทุนที่ถือได้ว่าเป็นเป็นที่นิยมระดับต้นๆของโลก แล้วจากอดีตที่ผ่านมาหลายสิบปี หุ้นถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงที่สุดในระยะยาว (หากไม่นับการซื้อขายเก็งกำไรซึ่งต้องใช้ความสามารถของนักเทรดสูงมาก) และยังมีสภาพคล่องสูงด้วย การลงทุนในหุ้นมีอยู่หลายรูปแบบหลายสไตล์ แต่การสร้าง รายได้แบบ Passive จากหุ้น ทางที่เหมาะสมที่สุด และไม่ต้องไปทำอะไรมากมายให้เหนื่อยมากนัก แบบซื้อขายรายวัน หรือเทรดเดอร์ คือ การสร้างปันผลจากหุ้น
4
ลองคิดง่ายๆว่า ถ้าเราอยากมีเงินปันผลใช้เดือนละ 5,000 บาท หรือปีหนึ่ง ประมาณ 60,000 บาท เราจะต้องมีเงินต้นอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท แล้วเลือกหุ้นพื้นฐานดี จ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอที่ประมาณ 6% เราจึงจะมี Passive Income จากตามเป้าหมายที่เราต้องการได้
1
หรือถ้าใครต้องการมากกว่านั้น ก็จะต้องสร้างฐานทุนให้ใหญ่ขึ้น หรือ มีเงินปันผลที่สูงขึ้น แต่อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องความเสี่ยงจากการลงทุนด้วยเช่นกัน หุ้นบางตัวถึงแม้จะมีปันผลสูง แต่ก็มีความเสี่ยงความผันผวนของราคาหุ้นได้ หรือบางตัวเป็นประเภท กอง REITs แบบที่มีสิทธิการเช่า ก็มีวันหมดอายุของกองได้เช่นกัน
.
.
6.ลงทุนในกองทุน
กองทุน เป็นอีกเครื่องมือที่เหมาะสำหรับ คนที่ไม่มีเวลาหรือไม่มีความรู้ในการพิจารณาในการลงทุนหรือซื้อขายด้วยตัวเอง เพราะมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดูแลการลงทุนให้ หน้าที่เราเพียงแค่ใส่เงินไว้ในกองทุน และรอดูผลประกอบการของผู้จัดการกองทุน
อัตราผลตอบแทนของกองทุนนั้น โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่อาจมองว่า ได้น้อยกว่าหุ้น แต่ในปัจจุบันก็มีกองทุนไม่น้อยในโลกที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงเทียบเท่าหรือมากกว่าหุ้นเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นกองทุนที่ลงทุนในอะไร หรือหุ้นตัวไหน รวมทั้งขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้จัดการกองทุนแต่ละที่ด้วย และในด้านความเสี่ยง แม้ว่าโดยทั่วไปคนส่วนใหญ่อาจมองว่า กองทุนมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น แต่บ่อยครั้งเราก็พบเห็นกองทุนที่ขาดทุนได้เช่นกัน ดังนั้นการเลือกกองทุนให้ถูกกอง ก็อีกเรื่องที่ต้องคำนึงถึง
2
ปัจจุบันมีกองทุนต่างประเทศที่ถือว่าความเสี่ยงต่ำมาก แต่อัตราผลตอบแทนสูงมากกว่าหุ้นมากๆ และได้รับการเชื่อถือและกล่าวถึงโดยเว็บไซต์ข่าวสารด้านการลงทุนระดับโลกอย่าง Investing.com (อ้างอิง https://m.investing.com/analysis/sterling-at-a-36month-high-soars-to-135-200492355 ) นั่นคือกองทุนที่อยู่ภายใต้ Bridge Project ซึ่งกำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมการลงทุนในตลาดเงินของโลก ที่มี 1 ในผู้ก่อตั้งเป็นคนไทย คือคุณ Suttipong Sukkasem เป็นอีก 1 กองทุนที่ต้องจับตามองมากๆ
6
เนื่องจากเป็นการทำกำไรในตลาดเงิน โดยใช้ความเสี่ยงต่ำมาก แต่จากสถิติกลับสามารถทำกำไรได้สูงมากเมื่อเทียบกับกองทุนหรือหุ้นทั่วไปในไทย
(สนใจการลงทุนใน Bridge Project ติดต่อ
https://www.facebook.com/gneuz คุณภูวดล ลายสนิท)
1
ทั้งหมด 6 วิธีที่กล่าวมา เป็นรูปแบบวิธีการสร้างกระแสเงินให้เข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้เท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายรูปแบบที่สามารถสร้างกระแสเงินสด หรือ รายได้แบบ Passive ขึ้นมาได้
2
เราอาจลองพลิกมุมมองคิดดู ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างนอกเหนือจากงานที่เราทำอยู่ บางคนก็เริ่มจากการควบคู่กับงานประจำ จนวันหนึ่งสามารถสร้างรายได้หรือกระแสเงินสดเข้ามาได้อย่างสม่ำเสมอจนมีรายรับมากกว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัว (Passive Income > Lifestyle Expense) ถึงวันนั้นเราก็จะสามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินขึ้นมาได้ด้วยน้ำมือของเราเอง
1
ขอบคุณบทความดีๆส่วนหนึ่งจาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา