Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ใจที่ตื่นรู้
•
ติดตาม
3 มี.ค. 2020 เวลา 12:59 • ไลฟ์สไตล์
ธรรมชาติเดิมแท้ของชีวิตนั้นปลอดโปร่ง โล่ง เบาสบาย และเป็นอิสระ แต่ต่อมาเมื่อชีวิตเริ่มมีวิวัฒนาการซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในทางกาย ทางใจ และทางสังคม ชีวิตที่แต่เดิมมีสภาพเบาสบายปลอดโปร่ง และเป็นอิสระนั้น ก็กลายเป็นก้อนหินแห่งอัตภาพที่เต็มไปด้วยความหนักอึ้ง ไร้อิสรภาพ กายก็หนัก ใจก็หนัก สถานภาพทางสังคมก็หนัก
ที่น่าเศร้าคือ คนจำนวนมากในโลกนี้ปล่อยให้กายใจ และสถานภาพทางสังคมอันหน่วงหนัก ซึ่งไม่ใช่สภาพเดิมแท้ของชีวิตนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยแทบไม่เคยคิดสลัดความหน่วงหนักนี้ให้พ้นไปจากชีวิตเลย จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตเดินทางมาถึง บางคนกลายเป็นคนแบกของหนักโดยไม่รู้ตัว แม้กระทั่งในยามที่ต้องลาจากโลกนี้ไปก็ยังคงแบกของหนักนั้นเอาไว้จนถึงขั้นนอนตาย " ต า ไ ม่ ห ลั บ "
ความหน่วงหนักของชีวิตนั้น เกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยสำคัญก็คือ การไม่เข้าใจคุณค่าของชีวิตนี้ว่าเป็นอย่างไร เมื่อไม่เข้าใจคุณค่าของการมีชีวิตว่าคืออะไร จึงใช้วันเวลาไปกับการพยายามสะสม " เ ป ลื อ ก ข อ ง ชี วิ ต " มากมายจนทั้งตัวเอง และคนที่เกี่ยวข้องต่างหนักอึ้ง และทุกข์ทรมานกับการแบกอันไม่รู้จบนั้น ทั้งยามหลับ และยามตื่น
เปลือกของชีวิตที่สำคัญที่สุด คนจำนวนมากพากันหลงไปแบกก็คือ "กิน กาม เกียรติ"
#กิน ก็คือ กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดตั้งแต่การกินขั้นพื้นฐาน คือ การกินอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย จนกระทั่งการกิน " เ งิ น " ซึ่งนับเป็นการกิน " อุ ป า ท า น " ที่เราสมมติกันว่าเป็นสิ่งที่น่าปรารถนาที่สุด เพราะเจ้าเงินนี้เองมันมีศักยภาพในการทำให้คนเราสามารถกินอะไรต่อมิอะไรได้อย่างอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ ทั้งกินโดยปาก กินโดยตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
เงินคือเครื่องมือที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อขยายศักยภาพในการกินทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้อย่างไม่ปรานีปราศรัย ทั้งการกินสิ่งที่เป็นรูปธรรม นามธรรม อารยธรรม และระบบคุณค่าทั้งหมดที่มนุษย์เพียรสร้างขึ้นอย่างยากลำบาก กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เงินนั้นกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าโดยไม่มีข้อยกเว้นแม้กระทั่งตัวมันเอง
มนุษย์ทั่วทั้งโลกได้ทุ่มเทเวลามหาศาลในแต่ละวัยของชีวิตเพียงเพื่อแสวงหาสิ่งที่จะนำมากิน ทั้ง ๆ ที่กระเพาะของมนุษย์นั้นเล็กนิดเดียว แต่พวกเขาได้ทุ่มเทเวลา และพลังทั้งหมดเพื่อการแสวงหาทรัพยากรมากักตุนไว้กินจนดูเสมือนหนึ่งว่า พวกเขาจะมีอายุยืนยาวไปตราบจนวันสิ้นโลก
เชื่อหรือไม่ว่า . . .
มนุษย์ที่มีเงินมากที่สุดในโลก
ก็มีอายุอยู่ใช้เงินในโลกนี้ได้ไม่กี่ปี
มนุษย์ที่มีบ้านแพง และหรูที่สุดในโลก
ก็ไม่ได้นอนหลับอย่างเป็นสุขทุกคืน
มนุษย์ที่มีรถหรู และแพงที่สุดในโลก
ก็ไม่ได้ขับขี่รถนั้นไปไกลจนถึงสุดขอบโลก
มนุษย์ที่มีทรัพย์สมบัติมากที่สุดในโลก
ก็ไม่เคยใช้ทรัพย์สมบัตินั้นครบหมดทุกชิ้น
เราแสวงหาสิ่งต่าง ๆ มากมายมากองไว้ตรงหน้าสูงเป็นภูเขาเลากา ทั้ง ๆ ที่ไม่มีปัญญาจะกินให้หมดได้ภายในชั่วชีวิตเดียว แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังคงแสวงหาต่อไป ต่อไปไม่จบไม่สิ้น แท้ที่จริงกิจกรรมที่เรียกว่าการกินของมนุษย์นั้นไม่ใช่ปัญหาในตัวมันเอง หากแต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ " ตั ณ ห า " ที่ล่อให้มนุษย์กลายเป็นนักบริโภคอย่างไม่รู้จบ โดยยืมเอาการกินเป็นเครื่องมือนั่นต่างหาก
พฤติกรรมการกิน ทั้งกินตามปกติ และการกินเชิงสัญญะที่เรียกว่า การกินอุปาทานหรือการกินคุณค่าต่าง ๆ ทั้งหมดนั้น ล้วนถูกบงการโดย " ตั ณ ห า " คือ ความโลภในใจคนเป็นสำคัญ ถ้าเราไม่รู้ความจริงว่า ตัณหาคือผู้ชักใยชีวิตของเราให้เข้าไปติดกับอยู่ในเขาวงกตของสิ่งที่เรียกว่า " เ ป ลื อ ก ข อ ง ชี วิ ต " เสียแล้ว เราก็ไม่ต่างอะไรกับแมงมุมที่ถักทอสายใยไว้ดักตัวเอง
#กาม คือ ความปรารถนาที่แสดงตัวออกมาเป็นความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ซึ่งเป็นการแสดงตัวอีกมิติหนึ่งของตัณหาเช่นเดียวกัน
กาม หมายถึง ความปรารถนาทางกาย และทางใจ แต่กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว กามเป็นเรื่องของความปรารถนาทางใจล้วน ๆ มากกว่า เพราะเมื่อเราเห็นสิ่งใดก็ตาม (ที่โลกสมมติกันว่าดีงาม มีค่า) ผ่านทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ทว่าหากเราไม่ " จิ น ต น า ก า ร " ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่ถือกันว่าดีงามมีค่านั้น ก็หามีความหมายแต่อย่างใดไม่
กามที่แท้ก็คือ ความคิดหรือจินตนาการนั่นเอง ชีวิตของเราล้วนตกเป็นทาสของกามที่ชื่อความคิดนี้ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามอัตราส่วนของรู้ทันหรือรู้ไม่ทันมายาการของกาม
#เกียรติ ก็คือ อวตารปางหนึ่งของตัณหาอย่างประณีต ซึ่งมีศัพท์เฉพาะเรียกว่า " ภ ว ตั ณ ห า " อันแปลว่า " ค ว า ม อ ย า ก เ ป็ น " หรือความอยากมี " ส ถ า น ภ า พ " อย่างใดอย่างหนึ่งในสังคมหรือในโลก
บรรดาความทุกข์ที่เกิดขึ้นจาก กิน กาม เกียรติ นั้น ความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากความอยากมีเกียรติ นับเป็นความทุกข์ที่กัดกินคนได้อย่างลึกซึ้งที่สุด และทำลายคนได้มากที่สุด เพราะความอยากมีเกียรติจะค่อย ๆ กัดกินคนที่อยากมีเกียรติอย่างแยบยล และมีการโปรยเหยื่อล่ออันโอชะตลอดเส้นทางของการอยากมีเกียรติเป็นระยะ ๆ กว่าคนที่อยากมีเกียรติจะรู้ตัวว่าสิ่งที่ตนพยายามแสวงหามาตลอด นั่นคือหลุมพรางของความทุกข์ บางครั้งก็สายเกินไป
ในสังคมไทยของเรานั้น ต้องยอมรับว่ามีคนที่กำลังทุกข์หนักหนาสาหัสจากกินกามเกียรติอยู่ทั่วไปทุกหัวระแหง แต่ไม่ว่าคนอื่นจะทุกข์เพราะกินกามเกียรติมากเพียงไร ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า คุณเป็นหนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้นหรือไม่
ถ้าใช่ ก็ควรถอนตัวเสียจากกินกามเกียรติ มาอยู่อย่างคนที่รู้จักกิน รู้จักกาม และรู้จักเกียรติอย่างผู้ที่ตื่นแล้วจะดีกว่า
แต่ถ้าไม่ใช่ ก็น่ายินดีเป็นที่สุด ที่คุณเกิดมาอยู่ในโลก แต่ไม่ติดอยู่ในตาข่ายของโลก เหมือนบัวเกิดแต่ตม ทว่าลอยพ้นตมขึ้นไปได้อย่างน่าชื่นชม
#เปลือกที่ต้องปล่อย
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ที่มา : หนังสือ "กลั่นทุกข์ให้เป็นสุข" Suffering | ว.วชิรเมธี
บันทึก
6
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
กลั่นทุกข์ให้เป็นสุข (Suffering) | ว.วชิรเมธี 🌻
6
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย