การแปลข่าวการรักษาโรคโควิท 19 ด้วยแนวทางการรักษาแบบผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนสามัญที่ประเทศจีน มีส่วนเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้มากยิ่งขึ้น (แปลบางส่วน)
สำนักข่าวซินฮว๋า (อ้างอิงจากสำนักข่าวจิงจี้ชันเข่า)
วันที่ 26/2/2020 เวลา 10:34:56
ผู้แปล : อมร ทองสุก
นับแต่โรคโควิท 19 ระบาดเป็นต้นมา มีหน่วยงานที่ตั้งใจปฏิบัติตาม "นโยบายผสมผสานการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนสามัญ" ในการต่อสู้กับโรคระบาดของส่วนกลาง และทำการก่อตั้งระบบ “การทำงานที่เป็นเอกภาพ” “ทำงานสนับสนุนกันและกัน” “ผสานการอยู่เวรออกตรวจทั้งสองแผนการรักษา” ก็ได้เกิดประสิทธิภาพการรักษาที่เกิดจากการผสานข้อดีด้าน "การรักษาตามอาการ" และ "การประคับประคองอาการ" ของการแพทย์แผนสามัญ เข้ากับข้อดีของการแพทย์แผนจีนที่ "ป้องกันก่อนเกิดโรค" และ "พลิกแพลงรักษาตามอาการ" แล้ว ก็ทำให้เกิดประสิทธิภาพการรักษาที่ดีเยี่ยม กลุ่มผู้ป่วยที่รวมถึงผู้ป่วยอาการหนัก ต่างหายดีและทยอยออกจากโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ จึงถือว่าเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทั่วประเทศที่จะต่อสู้กับภัยโรคระบาดในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี
แต่ทว่า การรักษาแบบการแพทย์แผนจีน ได้เข้าร่วมอยู่ในขบวนการรักษาโรคระบาดนี้ได้อย่างไร? การแพทย์แผนจีนและแผนสามัญได้ผสานข้อดีและสนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกันอย่างไร? และทำอย่างไรจึงจะยกระดับการทำงานของสองแผนการรักษาในแนวหน้า? การรักษาตามแนวทางการแพทย์แผนจีนได้มีส่วนช่วยเหลือสยบช่วงเวลาวิกฤตในแต่ละพื้นที่อย่างไร? ทั้งหมดนี้ ผู้สื่อข่าวได้แยกย้ายไปทำการสัมภาษณ์ที่แนวหน้าของการระบาดทั้งหมด 15 มณฑล ประกอบด้วยมณฑลปักกิ่ง หูเป่ย กันซู่ หนิงเซี่ย เหอเป่ย ซันซี ก่วงซี เจ้อเจียง เหอหนัน เหลียวหนิง ยูนาน เทียนจิน อันฮุย กวางตุ้ง และสั่นซี
เห็นผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล ได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจต่อแนวทางการรักษาโรคโควิท 19 ตามแนวทางdkiผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนสามัญ
จนถึงเวลา 09:00 น ของวันที่ 25 เดือนกุมภาพันธ์ สถิติผู้ป่วยที่รักษาหายจากโรคปอดอักเสบมีมากถึง 25,078 ราย หลายวันมานี้มีแต่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆ พื้นที่ต่างใช้วิธีการรักษาแบบผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนสามัญ ที่เมืองอู่ฮั่น นับว่าได้ใช้แนวทางการรักษาแบบการแพทย์แผนจีนที่ครอบคลุมทั้งระดับผู้ป่วยที่ยืนยันอาการ ผู้ป่วยที่ต้องสงสัย และผู้ป่วยที่รอสังเกตการณ์ ทำให้ผู้คนได้เห็นความหวังในการรักษาโรคปอดอักเสบให้หายขาดด้วยแนวทางผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนสามัญมากยิ่งขึ้น
มีจำนวนผู้ป่วยหายขาดที่ออกจากโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่ยืนยันว่าโรคโควิท 19 สามารถรักษาให้หายขาดได้ ไม่นานนี้ ที่เมืองอู่ฮั่นเริ่มมีข่าวเกี่ยวกับการใช้แนวทางการรักษาแบบผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนสามัญรักษาโรคปอดอักเสบจนหายขาดมากขึ้นเรื่อยๆ ในวันที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ โรงพยาบาลจินอิ๋นถันแห่งเมืองอู่ฮั่น มีผู้ป่วย 8 รายที่รักษาจนหายขาดด้วยแนวทางผสมผสานฯ วันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ โรงพยาบาลที่มณฑลหูเป่ย มีผู้ป่วย 23 รายที่หายขาดภายในวันเดียวด้วยแนวทางการรักษาแบบผสมผสานฯ วันที่ 24 เดือนกุมภาพันธ์ มณฑลหูเป่ย มียอดผู้ป่วยสะสม 64 รายที่รักษาหายขาดตามแนวทางการรักษาแบบผสมผสานฯ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ มณฑลหูเป่ย มียอดผู้ป่วยสะสม 158 รายที่รักษาหายขาดตามแนวทางการรักษาแบบผสมผสานฯ...
จางป๋อหลี่ อธิการมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนแห่งเทียนจินระบุว่า “จากกรณีการรักษาทางคลินิกในเขตพื้นที่อู่ฮั่น แสดงให้เห็นว่า การรักษาตามแนวทางผสมผสานฯ มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิท 19 ได้อย่างดีเยี่ยม” จางป๋อหลี่ยังระบุอีกว่า “เมื่อได้เปรียบเทียบตัวเลขจากผู้ป่วย 34 ราย ที่อยู่ภายใต้ทีมการรักษาแบบผสมผสานฯ ที่เขานำทีม กับผู้ป่วย 18 รายที่รักษาด้วยแนวทางการรักษาด้วยแผนสามัญอย่างเดียว เมื่อได้ทบทวนตัวเลขการวัดค่าต่างๆ แล้วจะพบว่า การรักษาแบบองค์รวมจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าการรักษาด้วยยาแผนสามัญเพียงอย่างเดียว หากดูจากอัตราการรักษาหายแล้วจะพบว่า การรักษาตามแนวทางผสมสานมีอัตราการหาย (ดีขึ้น) ที่ 94% ส่วนแผนสามัญอย่างเดียวมีอัตราการหายที่ 61% เมื่อดูจากอัตราการทรุดลงของอาการ (แย่ลง) แล้วก็จะพบว่า การรักษาตามแนวทางการผสมผสานจะอยู่ที่ 6% แต่หากเป็นแนวทางแผนสามัญอย่างเดียวจะอยู่ที่ 33%
หลิวชิงเฉวียน ซึ่งเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนแห่งปักกิ่ง และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลันของการแพทย์แผนจีน ระบุว่า “จำนวนผู้ป่วยที่ออกจากโรงพยาบาล หมายถึงประสิทธิภาพการรักษาหายในทางคลินิก และเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า วิธีการรักษาของการแพทย์แผนจีน มีส่วนสนับสนุนการแพทย์แผนสามัญในการรักษาโรคโควิท 19 ให้หายขาดได้ ภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่มียารักษาที่จะสามารถฆ่าไวรัสปอดอักเสบนี้ได้ เราก็ทำการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการรักษาตามแนวทางการแพทย์แผนจีน และใช้มาตรการการรักษาแบบผสมผสานระหว่างสองแผนการรักษา ก็ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพการรักษาในทางคลินิกว่า แนวทางนี้สามารถรักษาโรคปอดอักเสบได้”
ในการป้องกันภาวะการระบาดของโรค ที่มณฑลกันซู่และหนิงเซี่ย มีอัตราการรักษาผู้ป่วยจนหายขาดสูงกว่า 40% ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ หลิวเหวยจง ผู้อำนวยการคณะกรรมการสาธารณสุขประจำมณฑลกันซู่เห็นว่า ทั้งหมดนี้ได้อธิบายประสิทธิภาพการรักษาตามแนวทางการรักษาแบบผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนสามัญแล้ว
อาการป่วยของผู้ป่วยมีการทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่าการรักษาตามแนวทางผสมผสานฯ มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม เมืองเป่าติ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอัตราการรักษาผู้ป่วยหายมากที่สุดแห่งหนึ่งของมณฑลเหอเป่ย คุณหนิวเจี้ยนห่าย หัวหน้าหน่วยแพทย์ชำนาญการด้านโรคโควิท 19 ของการแพทย์แผนจีนแห่งเมืองเป่าติ้ง ได้ระบุว่า “นับตั้งแต่มีเคสการรักษาผู้ป่วยที่ยืนยันอาการเคสแรกจนหายขาด เขาก็มีส่วนร่วมในขบวนการรักษาเสมอมา ด้วยประสบการณ์การรักษาทางคลินิกกว่าเดือนครึ่งที่ผ่านมา ทั้งแพทย์และผู้ป่วยต่างสัมผัสได้ว่า ยาสมุนไพรของการแพทย์แผนจีน มีประสิทธิภาพการรักษาที่ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทน ทั้งในส่วนของการปรับสมดุลร่างกาย เสริมความสามารถในการต้านทานโรค เยียวยารักษาอาการ และการย่นระยะเวลาการรักษา”
คุณหลี่แห่งมณฑลกวางสี เป็นผู้ป่วยรายแรกที่หายจากอาการโรคปอดอักเสบ เมื่อตอนที่คุณหลี่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ก็ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสและยาของแพทย์แผนจีน หลี่เจี้ยนเผิง รองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลประชาชนที่สามแห่งเมืองอู๋โจว ผู้ซึ่งเป็นผู้ทำการรักษาโรคโควิท 19 ได้กล่าวว่า “ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการรักษาผู้ป่วยหายของเราก็คือ จะต้องทำการรักษาด้วยแนวทางผสานการรบระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนสามัญอย่างเร็วที่สุด” เลี่ยวผินหู่ ผู้อำนวยการคณะกรรมการสาธารณสุขและสุขภาพแห่งมณฑลกวางสีกล่าวว่า “หลังจากได้มีผู้เชี่ยวชาญได้ทำการวิเคราะห์ผลของผู้ป่วยที่หายขาดในเบื้องต้น พบว่า การผสมผสานการรักษาระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนสามัญ มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้สูงขึ้น”
นายแพทย์หวังจวินเฟยจากโรงพยาบาลการแพทย์แผนจีนแห่งมณฑลกวางตุ้ง เจ้าเค่อหมิง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสาขาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนแห่งมณฑลเหลียวหนิง ฉีเซี่ยงหยง รองผู้อำนวยการแผนกโรคปอดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนแห่งมณฑลยูนาน ทั้งสามท่านต่างเป็นนายแพทย์ที่กำลังทำการรักษาต่อสู้กับโรคระบาดในแนวหน้าที่มณฑลหูเป่ย ได้รับการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากผู้สื่อข่าวของเรา ต่างระบุว่า “เมื่อดูจากสถานการณ์การรักษาในแนวหน้า หากการแพทย์แผนจีนยิ่งเข้าสู่การรักษาได้ยิ่งเร็วเท่าไหร่ และผสมผสานกับการแพทย์แผนสามัญได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็จะเกิดประสิทธิภาพการรักษาที่ดีมากๆ” ทั้งหมดนี้ เมื่อได้เห็นผู่ป่วยเริ่มมีอาการปลอดภัยหรือออกจากโรงพยาบาล ก็ได้ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในการใช้แนวทางการรักษาแบบผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนสามัญมากยิ่งขึ้นอย่างมากมาย
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
