21 มี.ค. 2020 เวลา 10:31 • ข่าว
FOCUS : สหรัฐฯ ส่งทูตไปยังซาอุดิอาระเบีย เพื่อร้องขอให้ลดกำลังการผลิตน้ำมัน
2
ทรัมป์วางแผนที่จะส่งทูตผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านพลังงานไปยังซาอุดิอาระเบีย เพื่อขอความร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมันโลกเอาไว้ รัฐบาลของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า "สหรัฐฯ กำลังพยายามทำข้อตกลงกับราคาน้ำมันที่ตกต่ำลงไปอย่างมาก ซึ่งทำให้ Texas ต้องลดการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 50 ปี"
*** หมายเหตุ : สำหรับใครที่อยากมองเห็นภาพรวมของเหตุการณ์นี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าทำไมสหรัฐฯ ถึงต้องเดือดร้อนจากสงครามที่ดูเหมือนจะเป็นของซาอุฯ และรัสเซีย กรุณาอ่านบทความนี้ก่อนครับ https://www.blockdit.com/articles/5e65f6063dda560c96671e3a ***
2
ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกได้ลดลงกว่าครึ่งนึงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากซาอุฯ และรัสเซียเริ่มสงครามราคา เสริมกับการระบาดของ Coronavirus ทำให้ภาค Demand ทั่วโลกพังทลายลง
ซาอุฯ และรัสเซียกำลังอยู่ในสมรภูมิของสงคราม (กับสหรัฐฯ) เพื่อแย่งชิงอำนาจในส่วนแบ่งตลาดน้ำมันโลก หลังจากข้อตกลง 3 ปีของพวกเขาในการควบคุมปริมาณการผลิตพังทลายลงในเดือนนี้
ซาอุฯ ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการผลิตเป็นประวัติการณ์ 12.3 ล้านบาร์เรล/วัน (และมีแนวโน้มว่าจะไปถึง 13 ล้านบาร์เรล/วัน) รวมถึงมีการเช่าเหมาลำเรือบรรทุกน้ำมันจำนวนมากเพื่อขนส่งน้ำมันไปยังทั่วโลก ผลักดันให้ราคาน้ำมันททรุดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ทำให้ปัจจุบันน้ำมันดิบสหรัฐ (Crude Oil WTI) ซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ 23 ดอลลาร์/บาร์เรล
รัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่าการที่ซาอุฯ และรัสเซีย ทำให้น้ำมันท่วมโลก ในช่วงวิกฤติที่เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลกเช่นนี้ จะเป็นเหตุให้เกิดการล่มสลายของเศรษฐกิจโลก
ข้อสังเกต : จะเห็นได้ว่าตอนนี้หลาย ๆ คนทั่วโลกออกมายอมรับอย่างเป็นนัย ๆ แล้วว่าวิกฤตครั้งนี้มันจะส่งผลกระทบที่รุนแรงกว่าเดิมตามมา ผมอ่านข่าวภาษาอังกฤษมีแต่คำว่า Global, World เต็มไปหมด ซึ่งหากจะตีความว่า "วิกฤตนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วโลก" ก็เป็นเรื่องที่ไม่เกินความเป็นจริงไปเลยแม้แต่น้อย
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ จะถูกส่งไปยังเมือง Riyadh เป็นเวลาอย่างน้อยหลายเดือน เพื่อทำงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานที่ประจำอยู่ที่ซาอุฯ ก่อนหน้านี้แล้ว (เจ้าหน้าที่อาวุโสที่ว่านี้ สหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยตัวว่าเป็นใคร)
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์กล่าวว่า ซาอุฯ เป็นผู้นำที่มั่นคงในตลาดน้ำมันโลกมานานหลายทศวรรษ และผู้ที่เป็นตัวแทนด้านพลังงานของโลกคงจะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ กลับสู่เส้นทางแห่งความมั่นคงได้
World Maker วิเคราะห์ : ข้อความข้างบนเหมือนจะเป็นการพูดบีบซาอุฯ ในทำนองที่เป็นการพูดเคลมไว้ก่อนว่า "ถ้าเศรษฐกิจโลกมันเจ๊ง ก็เป็นเพราะนายนั่นแหละ" ซึ่งประเด็นคือซาอุฯ เองก็คงรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว และตั้งใจจะทำลายราคา เพื่อโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Shale Oil ซึ่งก่อ "หนี้" เอาไว้สูงมาก
และอีกประเด็นหนึ่งที่อยากให้จำไว้ก็คือ สิ่งเดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกเจ๊งได้ ก็คือการล่มสลายของ PetroDollar ซึ่งต้นเหตุของหายนะครั้งนี้มาจากอเมริกายกเลิก Gold Standard และพิมพ์เงินเปลือยโป๊มาเกือบ 50 ปี ไม่ใช่จะล่มสลายจากการที่ซาอุฯ และรัสเซีย พึ่งจะมาเพิ่มการผลิตน้ำมันในช่วงเดือนที่ผ่านมา
สงครามราคาน้ำมันครั้งนี้ ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ซึ่งบางรายต้องเริ่มบังคับให้พนักงานลาพักร้อนโดยไม่รับเงินเดือน และลดกำลังผลิตลงอย่างมาก
Ryan Sitton คณะกรรมาธิการของ Texas Railroad Commission ซึ่งเป็นองค์กรที่ควบคุมอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าชในรัฐ Texas กล่าวว่า "ความหวังอย่างเดียวของอุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐฯ ก็คือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถเจรจากับซาอุฯ และรัสเซียเพื่อโน้มน้าวใจพวกเขาให้ลดกำลังการผลิตได้สำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ Texas กำลังจะทำในขณะนี้"
Sitton ได้โพสท์ข้อความผ่าน Twitter ของเขาว่าได้มีการพูดคุยกับ Mohammad Barkindo เลขาธิการของกลุ่ม OPEC ถึงเรื่องข้อตกลงในระดับนานาชาติ ในการลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันเอาไว้
นอกจากนี้ Barkindo ยังได้เชิญ Sitton เข้าร่วมงานประชุมของ OPEC ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกาบางกลุ่มตั้งข้อสงสัยว่า Texas ควรเข้ามาแทรกแซงตลาดหรือไม่ ? โดยก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตน้ำมันต่าง ๆ ของสหรัฐได้ต่อต้านการเคลื่อนไหวดังกล่าวมาอย่างยาวนาน และสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมก็ไม่เชื่อมั่นใน Texas เช่นกัน
"มุมมองของเราเรียบง่าย ผลงานของพวกเขาไม่ดี และพวกเขาก็ได้รับการพิสูจน์ว่าไม่มีประสิทธิภาพและเป็นอันตราย ไม่มีเหตุผลที่จะพยายามเลียนแบบ OPEC ในช่วงเวลานี้" Frank Macchiarola รองประธานอาวุโสฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการกำกับดูแลของ American Petroleum Institute กล่าว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรม Shale Oil ของสหรัฐฯ ใช้นวัตกรรมที่เรียกว่า Hydraulic Fracturing หรือ Fracking ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ สูงขึ้นถึงระดับเกือบ 13 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก ตั้งแต่ปี 2559
รัสเซียที่ก่อนหน้านี้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องร่วมกับ OPEC ในการลดกำลังการผลิต เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมัน แต่ต่อมาสหรัฐฯ ได้ทำการคว่ำบาตร Rosneft บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้ากับเวเนซุเอลา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการคว่ำบาตรต่ออิหร่านและเวเนซุเอลาที่จะยังดำเนินต่อไป ซึ่งทั้งสองเป็นสมาชิกของ OPEC และจากการที่รัสเซียมีส่วนร่วมในการตลาดน้ำมันเวเนซุเอลามากขึ้น พวกเขาก็จะถูกคว่ำบาตรมากขึ้นเช่นกัน
ข้อสังเกต : ทำไมสหรัฐฯ ง้อซาอุฯ แต่จะคว่ำบาตรรัสเซีย ?
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา