25 มี.ค. 2020 เวลา 05:30 • ยานยนต์
Carman ยินดีนำเสนอ
EP7 : วิเคราะห์ Mitsubishi Mirage&Attrage เจาะลึกข้อดี-ข้อเสีย เก่าเกินไปที่จะซื้อไหม
เเบบสรุปสั้นกระชับ
+ตัวถังกะทัดรัดทั้งคู่ คล่องตัวกว่าคู่เเข่ง
+Attrage มีพื้นที่ภายในดีพอสมควร
+Attrage เบาะหลังมี headroom เยอะกว่า
+ประหยัดน้ำมันมากตาม Eco Car Phase2
+ให้ออพชั่นเเปลกๆมาด้วย
+ช่วงล่างเเละพวงมาลัยดีขึ้น
+มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกด้วย
+มีระบบ Active Safety ที่ใช้ได้
ข้อเสีย
-รถเบาโหวง
-ดีไซน์ภายนอกโบราณมาก
-ภายในเชยที่สุดที่ในกลุ่ม
-บางจุดลดต้นทุนน่าเกลียด
-เครื่องยนต์อืดกว่าชาวบ้าน
-เกียร์ CVT ไม่ดีพอ
-การขับขี่ไม่ได้เป๊ะมากขนาดนั้น
-เบาะหลัง Mirage ค่อนข้างเเคบ
-ถุงลมมีเเค่ 2 ใบ
-ราคาไม่ได้ถูกกว่าคู่เเข่งเท่าไหร่
เเละนั่นละครับ คือ การวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย Mitsubishi Mirage&Attrage เเบบสั้นกระชับรวดเร็วสำหรับท่านที่ต้องการความรวดเร็ว
คราวนี้สำหรับท่านที่ต้องการดูการวิเคราะห์เเละเจาะลึกข้อดี-ข้อเสียตามเเบบฉบับของ Carman เเล้วละก็ เลื่อนนิ้วลงไปอ่านด้านล่างเลยครับ
ความเดิมตอนที่เเล้ว
หลังจากที่เราได้เจาะลึก Honda City Gen5, Nissan Almera, Mazda2 Sedan&Hatchback, Toyota Yaris ATIV&Hatchback เเละ Suzuki Swift ไปเเล้ว ตามลำดับ
ใครยังไม่ได้อ่าน คลิกได้ที่นี่เลยครับ
คราวนี้เรามาดูรถเเบรนด์ที่ได้ชื่อว่ามียอดขายรวมติด Top4 มาได้หลายปีเเล้ว เป็นรองจาก Toyota-Izuzu-Honda ตามลำดับ
เดิมทีหลังจากเปิดตัว Mirage เเละ Attrage ไปในช่วงปี 2012-13 นั้น อาศัยจุดขาย
เรื่องความทันสมัย ออพชั่นเเละขนาดความกะทัดรัดคล่องตัวที่ในภาพรวมก็ต้องถือว่าขายได้ในระดับที่ค่อนข้างดี เเละมีการ Minorchange ไปเเล้วตอนปี 2015
มาตอนนี้เเม้ตัวรถจะค่อนข้างเก่า จริงๆตามอายุตลาดรถยนต์ทั่วไปต่อ 1 gen คือ ราวๆ 4-6 ปีเเล้วเเต่ก็ยังไม่ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่หรือ Model Change เเต่อย่างใด สาเหตุเนื่องจาก Mitsubishi มีการออกเเบบดีไซน์ด้านหน้า Advanced Dynamic Shield ที่นำมาใช้ตั้งเเต่ Pajero Sport ช่วงปี 2015 เเละรุ่นอื่นๆหลังจากนั้นเป็นต้นมา ทำให้ Mitsubishi จำเป็นต้องใช้ดีไซน์นี้กับรถทุกรุ่นในเจนนี้ เเต่ Mirage&Attrage ยังไม่เคยใช้เลย เเถมดีไซน์เเบบใหม่ยังออกเเบบไม่เสร็จเลย จึงจำเป็นต้องใช้ดีไซน์เเบบนี้ไปก่อน ยังไม่ได้ Model Change ดีไซน์ก็ต้องเป็นเเบบที่เห็นนี้ไปอีกราวๆ 2-3 ปีเลยละ
ล่าสุดเมื่อปลายปี 2019 ก็ปรับ Minorchange อีกรอบ ให้พอสู้กับชาวบ้านชาวช่องเขาได้บ้างอะนะครับ
ซึ่งราคาหลังเปิดตัวมีดังนี้ครับ
Mirage
รุ่น GLX MT 474,000
รุ่น GLX CVT 509,000
รุ่น GLS CVT 574,000
รุ่น GLS-Ltd CVT 619,000
Attrage
รุ่น GLX 5MT 494,000
รุ่น GLX CVT 536,000
รุ่น GLS CVT 579,000
รุ่น GLS-Ltd CVT 624,000
ซึ่งก็ถือว่าราคานี้ไม่ได้ถูกเลย เเละค่อนข้างจะเสียเปรียบคู่เเข่งอยู่พอสมควร เเต่ตัวรถจะยังพอมีคุณความดีหลงเหลืออยู่มากพอที่จะซื้อไหมนั้น เราไปดูข้อดี-ข้อเสียกันครับ
ข้อดี
-ทั้ง Attrage เเละ Mirage มีขนาดตัวถังที่เล็กกว่าคู่เเข่งเมื่อเทียบในรูปตัวถังเดียวกัน
Attrage | Almera | City
ความยาว 4305 4495 4553
ความกว้าง 1670 1740 1748
ความสูง 1515 1460 1467
ฐานล้อ 2550 2620 2589
Mirage | Mazda 2 | Yaris
ความยาว 3845 4065 4145
ความกว้าง 1665 1695 1730
ความสูง 1505 1495 1500
ฐานล้อ 2450 2570 2550
ทำให้การขับขี่ การมุดเลาะเลี้ยวใดๆต่างๆค่อนข้างที่จะง่ายดายกว่าคู่เเข่งในเมือง เหมาะกับผู้ใช้รถในเมืองมาก
-เเม้ขนาดจะเล็ก เเต่ในตัวของ Attrage นั้นออกเเบบพื้นที่ภายในมาได้ดีมาก เพราะให้ความรู้สึกกว้างโปร่งโล่ง เบาะหน้าก็ให้ความสบายได้ดีในระดับนึง เเละเบาะหลังนั้นมี legroom พอๆกับ Almera เลยทั้งๆที่ตัวรถสั้นกว่ามากๆ เบาะรองนั่งหนานุ่มรองรับส่วนขาได้โอเค รวมถึงยังมี headroom ที่ผมสามารถขยับหัวได้ คือ มีที่เหลือราวๆ 1-2 นิ้วในเเนวนอนเหนือศีรษะ ในบรรดา eco car sedan มีเพียง Attrage เเละ City เท่านั้นที่เบาะหลังผมนั่งเเล้วหัวไม่ติด เเถมยังมีเท้าเเขนเบาะหลังเหมือน City ด้วยซึ่งทำมาหนาเเละใช้งานได้ดี โดยภาพรวมเบาะหลังของ Attrage ถือว่าค่อนข้างน่าประทับใจครับ
-เเต่เดิมก็ประหยัดน้ำมันมากอยู่เเล้วตาม Eco Car Phase2 ฉะนั้นประหยัดน้ำมันสบายๆเหมือนคันอื่นๆครับ
-Mirage เเละ Attrage นี้มีออพชั่นเเปลกๆที่รถกลุ่มนี้เขาไม่ยักจะให้มา เช่น กระจกมองหลังตัดเเสงอัตโนมัติ เเม้จะเป็นเพียงอุปกรณ์เล็กน้อย เเต่ในรถราคาไม่เเพงจะไม่มีใครให้มาเลย ซึ่งคุณจะพบเห็นได้ในบรรดารถ C-Segment รุ่นท็อปๆขึ้นไปที่ราคาทะลุล้านทั้งนั้น, เป็นคันเดียวในกลุ่มที่มีระบบตัดกำลังชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็วเเละรุนเเรงเป็น Active Safety มาให้,มีเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วที่รองรับ Apple Carplay เเละ Andriod Auto พร้อมสวิตซ์ควบคุมระบบเครื่องเสียงพร้อมรับสาย-วางสายโทรศัพท์เเบบเต็มระบบทุกรุ่นย่อย ส่วนมากคันอื่นๆเขาจะมีในรุ่นท็อปๆกัน,ในรุ่น GLS-Ltd มีเบาะหนังมาให้ เเถมยังมี Criuse Control ด้วยในราคา 6 เเสนต้นๆ ซึ่งถือว่าดีครับ ให้ออพชั่นมาเยอะดี
-ในรุ่นก่อน Minorchange นั้นพวงมาลัยเเละช่วงล่างต้องบอกได้เลยว่า ใครชอบความตื่นเต้นเร้าใจนี่อาจจะชอบนะครับ 555 มันทั้งเบาโหวงหวิวๆในส่วนของช่วงล่าง รวมถึงพวงมาลัยที่ต้องคอยคัดซ้ายคัดขวา ไม่มีความไว้ใจได้เลยในการขับขี่ความเร็วเดินทาง เเต่มาในรุ่น Mionrchange นี้ต้องบอกว่าดีขึ้นครับ มีการปรับปรุงเซ็ตใหม่ให้มีความเฟิร์มมั่นใจมากขึ้น รวมทั้งพวงมาลัยที่ไม่ชวนหลอนประสาทเหมือนรุ่นก่อน Minorchange ทำให้การขับขี่ในความเร็วเดินทางนั้นทำได้สบายใจมากขึ้นครับ
-ยังคงมีตัวเลือกเกียร์ธรรมดามาให้คุณเลือก ซึ่งหายากมากในรถเก๋งสมัยนี้ มาในเกรด GLX (Attrage 494,000 เเละ Mirage 474,000) ใครต้องการความสนุกในการลากรอบด้วยตัวเองเเละบุคลิกเเบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ต้องซื้อเลยนะครับ เพราะในอนาคตรุ่นต่อๆไปก็คาดว่าน่าจะไม่มีอีกเเล้ว RARE ITEM เลยละ เพราะฉะนั้น ต้องจัดตอนนี้ครับ
-นอกจากจะมีระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนเเรงเเละรวดเร็วเเล้ว ยังมีระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมช่วยชะลอความเร็วในย่านความเร็วต่ำ ระบบ 2 ตัวนี้มันเหมาะมากๆกับคนที่ใช้ในเมืองครับ ซึ่งมีมาให้ตั้งเเต่รุ่น GLS ที่ราคาไม่ถึง 6 เเสนบาท อาจยังเทียบ Almera ไม่ได้เพราะรายนั้นเขามีรอบคันเลย เเต่ระบบ Active Safety เเบบนี้โอเคเเล้วครับ
ทีนี้เรามาดูข้อเสียกันบ้างดีกว่า
-ด้วยน้ำหนักรถนั้นถือว่าเบามากครับ มีน้ำหนักเเค่ 858-911 กก.เท่านั้น ซึ่งเบา
โหวงมากๆ ยิ่งถ้าคุณนำไปเทียบกับรถที่ใหญ่เเละนั่งสบายที่สุดอย่าง Honda City เเล้วนั้นเบากว่าราวๆ 200 กว่ากก.เลยทีเดียว ราวกับรถต่าง Segment กันเลย เเน่นอนครับน้ำหนักเเบบนี้ย่อมมีผลในการใช้ความเร็วสูงที่จะให้ความมั่นใจที่ลดลงเเม้ช่วงล่างจะดีขึ้น เเต่เมื่อมีกระเเสลมปะทะด้านข้าง รถจะเริ่มออกอาการหวิวๆเเละสร้างความตึงเครียดได้มากกว่ารถคันอื่นๆในกลุ่ม
-ในบรรดา Eco Car รุ่นหลักๆที่ขายตอนนี้ Mirage เเละ Attrage ดูเก่าเเละโบราณที่สุดเเล้วเนื่องจากเปิดตัวไปราวๆ6-7 ปี ขณะที่คู่เเข่งทุกค่ายอายุน้อยกว่านี้หมด ทำให้ความสดใหม่ของดีไซน์ภายนอก ตามชาวบ้านเขาไม่ทัน ใครสายทันสมัยชอบดีไซน์ล้ำๆ ตัวนี้ไม่ตอบโจทย์ครับ
-นอกจากภายนอกเเล้ว ภายในยิ่งโบราณเลยครับ คอลโซลหน้าเเละสวิตซ์อุปกรณ์รวมถึงตำเเหน่งการจัดวางนั้นออกเเนวเชยมากทั้งที่พักเเขนผู้ขับเเบบพับเก็บได้ที่ชวนให้นึกถึงที่เท้าเเขนของ City Gen2 รุ่นเเมลงสาบ(ปี02-07) พวงมาลัยที่ดีไซน์สุดจะเรียบธรรมดาเเละโบราณ รวมถึงมาตรวัดที่ดีไซน์สุดจะธรรมดา ดูจะโบราณมากกว่ามาตรวัดของ Honda City ที่คนชอบบ่นๆกันด้วยซ้ำ ทำให้รถดูราคาถูกไปเลย เทียบกับคู่เเข่งทุกวันนี้ เเพ้เขาหมดครับในเรื่องดีไซน์ภายใน
-วัสดุเเละการประกอบต่างๆของภายในห้องโดยสารนั้นดูค่อนข้างก๊องเเก๊งค์บอบบาง น้ำหนักดูเบาๆมากที่สุดเเล้วในกลุ่ม ทำให้รถดู
ถูกลงรวมทั้งยังคงมี Future Board โผล่มาที่ท้ายรถเหมือน Almera เเละ Yaris เลยเเถมสิ่งที่รับไม่ได้ คือ มือจับประตูภายนอกรถที่ยังคงใช้เเบบงัดขึ้นเหมือนรถยุคสมัยเมื่อ 20 ปีก่อน เเม้จะมีข้อดีในเเง่ความทนทานเเละการดูเเลรักษา เเต่ขอโทษครับนี่มัน 2020 ไม่ใช่ 2000 มือจับประตูควรเป็นเเบบดึงเข้าหาตัวได้เเล้ว จุดนี้ก็ลดต้นทุนน่าเกลียดเกิน เเละที่ต้องตำหนิเหมือนหลายคันก่อนหน้านี้ คือ อุปกรณ์ความปลอดภัยเเบบเบสิคที่ต้องมีทุกคัน เเม้จะมีเข็มขัดนิรภัยปรับสูง-ต่ำได้เเต่พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทางดันไม่มี ดันปรับได้เเค่ 2 ทิศทางเหมือน Yaris เลยที่เข็มขัดปรับได้เเต่พวงมาลัยดึงเข้า-ออกไม่ได้ ส่วนคุณ City กับ Almera ดึงพวงมาลัยเข้า-ออกได้เเต่ปรับเข็มขัดไม่ได้ เเทบทุกค่ายตัดเเบบนี้หมด
เยี่ยมครับ!!!เเบ่งกันว่าใครจะทำหน้าที่ตัดอะไรออก ให้มันได้เเบบนี้สิ เห้อออออออ
-เครื่องยนต์นั้นเป็นเเบบเบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบ ซึ่งอ่านสเปคเเล้วเป็นลมครับ 78 เเรงม้า เเรงบิด 100 นิวตันเมตร .... ครับ อย่าอ่านผิดนะครับ 100 นี่เเรงบิดนะครับ ไม่ใช่
เเรงม้า 555 เทียบกับคู่เเข่งส่วนมากอยู่ที่ราวๆ 90 เเรงม้า ส่วนพวกกลุ่มเทอร์โบไม่ต้องพูดถึงครับ เขาทะลุ 100 เเรงม้าเลย ซึ่งทำให้อัตราเร่งนั้นอืดอาดมาก ยังดีที่ด้วยน้ำหนักตัวรถเบาทำให้เร่งได้พอๆกับ Mazda2 เบนซิน เเต่เทคโนโลยีโดยรวมเก่าเเล้วครับ
-เกียร์ CVT จาก Jatco เหมือน Nissan เเละ Suzuki ยังคงมีอาการเย่อในความเร็วต่ำเเละสมองกลเกียร์ยังไม่ค่อยฉลาดนัก ตอบสนองได้ไม่ฉับไวฉลาดเหมือนกับ CVT ของ City เเละ Yaris ซึ่งทำเกียร์มาดีกว่ามาก
-เเม้ช่วงล่างเเละพวงมาลัยจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก ทว่าเมื่อเทียบกับคู่เเข่งเเล้วตอบยอมรับตามตรงว่าค่อนข้างจะรั้งท้ายที่สุดในกลุ่มเเล้ว เพราะคู่เเข่งเเทบทุกคันมีช่วงล่างเเละพวงมาลัยที่เป๊ะกว่านี้ นิ่งกว่านี้ ยิ่งความที่ตัวรถเบาด้วยรวมถึงมีความสูงมากกว่าคู่เเข่งทุกคันส่งผลให้ aerodynamic เเย่กว่าคันอื่น คือ ต้านลมกว่า เลยยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ
-เเม้เบาะหลัง Attrage จะทำได้ค่อนข้างดีมาก เเต่ใน Mirage นั้นโอเคครับมันมี headroom เยอะกว่า คือ ผมมีพื้นที่เหนือศีรษะราวๆเกือบ 1 กำปั้น ทว่ามุมองศาของเบาะนั้นชันกว่าตามสไตล์รถ hatchback มีเบาะรองนั่งที่สั้นกว่า Attrage ที่เท้าเเขนตรงกลางก็หายไป รวมทั้งมี legroom เเคบกว่ามากเนื่องจากระยะฐานล้อที่สั้นกว่า ทำให้เบาะหลังนั่ง Mirage นั่งไม่สบายเท่าที่ควร
-เเม้ระบบ Active Safety จะดี เเต่ถุงลมยังคงมีมาให้เเค่ 2 ใบซึ่งถือว่าน้อยไปสำหรับรถสมัยนี้ คู่เเข่งหลายค่ายมี 6-7 ใบเเล้ว
-ราคาไม่ได้ถูกกว่าคู่เเข่งเท่าไหร่ เช่น Attrage GLS-Ltd 624,000 ถูกกว่า Almera VL เเค่ 15,000 บาท สิ่งที่มีมากกว่า Almera คือ สิ่งกระจุกระจิกอย่างเบาะเเละพวงมาลัยหุ้มหนัง, ที่เท้าเเขนเบาะหลัง, Criuse Control, กระจกมองหลังตัดเเสงอัตโนมัติ, ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเเละระบบชะลอรถที่ความเร็วต่ำ เเต่สิ่งที่ Almera ดีกว่า คือ มีระบบกล้องรอบคัน, ระบบตรวจจับวัตถุรอบคัน, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบเตือนเมื่อรถถอยผ่าน, ถุงลม 6 ใบ, มาตรวัดพร้อมจอ TFT 7 นิ้ว ได้เครื่องยนต์,ช่วงล่าง,
พวงมาลัยดีกว่าคนละโลก เเถมตัวรถนั้นสดใหม่กว่ามาก ทำให้เสียเปรียบคู่เเข่งมากๆๆ
สรุป-"กัมมุนา วัตตติ โลโก" สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
รถรุ่นนี้เหมาะกับคนที่หลงรักดีไซน์ของมันจริงๆ ไม่ขับรถเร็ว เน้นขับในเมือง ชอบ
ออพชั่นเด่นๆที่มีมาให้ อยากจ่ายรถในราคาที่ถูก หรือแยากจะเล่นเกียร์ธรรมดา เเน่นอนครับ Mirage ตอบโจทย์คุณ เเละถ้าเป็น Attrage คุณจะได้พื้นที่ความสบายในห้องโดยสารน้องๆ Honda City เลยครับ
ในภาพรวมวันนี้ Mirage เเละ Atrrage นั้นยังคงมีจุดเด่นในเรื่องของความคล่องตัว พื้นที่ภายในกว้างขวาง(สำหรับ Attrage) มีของเล่นออพชั่นมาให้ค่อนข้างเยอะระดับนึงในราคาที่ไม่เเพง เเถมรุ่น Minorchange รอบนี้ปรับปรุงช่วงล่างเเละพวงมาลัยให้ดีขึ้นมากจนขับขี่ได้อย่างสบายใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"ในวันที่มันออกสู่ตลาดช่วงปี 2012 มันอาจเด่นเหมือนดาวรุ่ง เเต่มาวันนี้ด้วยอายุอานามที่มากเเล้ว รวมถึงมีคู่เเข่งรายใหม่เข้ามาท้าชิงที่พัฒนาตัวรถมาได้ดีขึ้นจนเเซงหน้าไปเเล้วในภาพรวม ใครเคยดู Cars3 ไหมครับ เหมือนกันครับ คือ ใน Cars1 Mcqueen เป็นดาวรุ่งพุ่งเเรงเเซงทุกโค้ง เเต่พอมา Cars3 ด้วยอายุอานามที่มากขึ้น เเละคู่เเข่งหน้าใหม่อย่าง JacksonStorm เเซงหน้าเขาไปเเล้ว ธรรมดาครับ ไม่มีสิ่งใดบนโลกนี้ยั่งยืนตลอดไป ทุกสิ่งมีเกิดย่อมมีดับ
เหมือนเเสงเทียนที่ค่อยๆอ่อนกำลังลงไปตามกาลเวลา สำหรับมนุษย์ก็มีเกิด เเก่ เจ็บ ตายขณะที่มีชีวิตอยู่ก็ควรคิดดี ทำดี พูดดี เพื่อสะสมบุญบารมี สิ่งที่ตามเราไปไม่ใช่เงินทอง เเต่เป็นบุญเเละบาปที่เราได้สร้างมา เราทำอะไรไว้เราก็จะได้รับผลของการกระทำ
รถยนต์นี้ก็เช่นกัน มีวันที่รุ่งพุ่งเเรงเเละเสื่อมถอยลงไปตามกาลเวลา Mirage เเละ Attrage ได้สร้างบุญด้วยการพยายามใส่ออพชั่นมาให้เยอะขึ้นรวมถึงพัฒนาระบบ
ช่วงล่างเเละพวงมาลัยให้ดีขึ้น เเต่ในส่วนอื่นๆนั้นก็อ่อนด้อยกว่าคู่เเข่งสมัยใหม่เป็นธรรมดา เเต่บุญเเละบาปในรุ่นนี้ จะส่งผลไปถึงรถรุ่นหน้าในเรื่องของภาพลักษณ์ตัวรถที่คนจะมอง จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด
เเม้ Mirage เเละ Attrage จะมีอายุอานามที่มากเเล้วรวมถึงมีหลายด้านที่ไม่ดีเท่าคู่เเข่ง เเต่ความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพเพศ หน้าตา คุณสมบัติ เงินทอง หรืออายุเลยว่าจะมากหรือน้อย เเต่มันอยู่ที่หัวใจของคน 2 คน หากคุณกับเขารู้สึกดีต่อกันเเบบมากกว่าเพื่อน ก็คบเขาได้ครับ โดยที่คุณไม่ต้องเเคร์ว่าคนอื่นจะมองคุณยังไง เรื่องเเบบนี้ต้องถามที่หัวใจของตัวคุณเอง❤❤❤
เเละทั้งหมดนั่นละครับ คือ การเจาะลึกข้อดี-ข้อเสีย Mitsubishi Mirage&Attrage
อย่าลืมนะครับ ถ้าชอบบทความเเบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดเเชร์ กดฟอลโลว์กันนะครับ
เเละอีกช่องทางการติดตามนึงสำหรับผู้อ่านย้อนหลัง คือทาง FB: Carman สามารถติดตามย้อนหลังจากเผยเเพร่ทาง Blockdit 2 วัน ไปกดไลค์กดติดตามกันได้นะครับ
ใครมีความรู้สึกยังไง, มีข้อเสนอเเนะสามารถคอมเม้นลงมาที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ
วันนี้ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ
เครดิตข้อมูลเเละรูปภาพ
ข่าวที่น่าสนใจ : SALES REPORT ภายในประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2563

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา