4 เม.ย. 2020 เวลา 02:00 • การศึกษา
ส้มกิ๊กกลายเป็นส้มจื่อ
มีอยู่คราวหนึ่ง กษัตริย์แคว้นฉีได้ส่งอัครเสนาบดี นามว่า “เอี้ยนอิง” ไปเยือนแคว้นฉู่ กษัตริย์แคว้นฉู่ได้ยินกิตติศัพท์ของเอี้ยนอิงว่าเป็นผู้มีปฏิภาณเฉียบแหลมและมีวาทะคมคายมาก จึงคิดหาโอกาสแกล้งให้เอี้ยนอิงได้รับความอับอายสักครั้งหนึ่ง
กษัตริย์แคว้นฉู่จึงสั่งให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเอี้ยนอิงอย่างใหญ่โต และเรียนเชิญทูตจากประเทศต่าง ๆ รวมทั้งขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนมากเข้าร่วมงานด้วย
ในขณะที่ทุกคนกำลังดื่มกินและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั่นเอง ราชองครักษ์ก็ได้นำตัวโจรผู้หนึ่งเข้ามาในท้องพระโรง เมื่อกษัตริย์แคว้นฉู่เห็นโจรผู้นั้นก็แกล้งทำเป็นประหลาดใจ ตรัสถามด้วยเสียงอันดังว่า “เจ้านักโทษคนนี้ไปทำผิดอะไรมา”
ราชองครักษ์จึงกราบทูลว่า “เป็นโจรลักปล้นเพิ่งจับได้เมื่อครู่นี้เองพระเจ้าข้า”
กษัตริย์แคว้นฉู่จึงตรัสถามอีกว่า “แล้วมันเป็นคนที่ไหน”
ราชองค์รักษ์กราบทูลว่า “เป็นคนแคว้นฉีพระเจ้าข้า”
“คนแคว้นฉี” กษัตริย์แคว้นฉู่ทวนคำทำท่าทางเหมือนไม่อยากเชื่อแล้วทรงนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตรัสถามเอี้ยนอิง ว่า “ท่านเอี้ยนอิง ประเทศของท่านคงจะมีโจรลักปล้นอย่างนี้มากสินะ”
เอี้ยนอิงลุกขึ้นยืนโค้งคำนับกษัตริย์แคว้นฉู่ แล้วกราบทูลอย่างนอบน้อมว่า
“พระองค์คงจะเคยได้ยินมาบ้างว่า มีต้นส้มกิ๊กต้นหนึ่งเจริญเติบโตอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำไหว ทุก ๆ ปีจะให้ผลส้มกิ๊กซึ่งมีรสชาติหวานอร่อย แต่ถ้าย้ายไปปลูกทางเหนือของแม่น้ำไหวแล้ว จะกลับออกผลเป็นส้มจื่อซึ่งทั้งขมทั้งฝาด ลักษณะภายนอกของส้มทั้งสองชนิดนี้แม้ดูคล้ายกัน แต่รสชาติกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง นี่เป็นเพราะดิน น้ำและสิ่งแวดล้อมของ ต้นไม้โดยแท้”
กษัตริย์แคว้นฉู่ไม่ค่อยเข้าใจวัตถุประสงค์ในการกล่าว ยกตัวอย่างเรื่องต้นส้มกิ๊กของเอี้ยนอิงเท่าใดนัก แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
เอี้ยนอิงจึงกราบทูลต่อไปว่า “แคว้นฉีของพวกข้าพระองค์ไม่มีโจรลักปล้น การที่คนผู้นี้กลายเป็นโจรลักปล้น เป็นเรื่องที่ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้มาอยู่แคว้นฉู่แล้ว คงเป็นเพราะเขาได้รับอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อม สังคมของประเทศพระองค์แน่ ๆ เลยพระเจ้าข้า”
“พวกเจ้านำเจ้าโจรนี้ออกไปเดี๋ยวนี้” กษัตริย์แคว้นฉู่ตรัสสั่งราชองครักษ์ พระองค์ตั้งใจจะกลั่นแกล้งให้เอี้ยนอิงได้อับอาย แต่ลงท้ายกลับทำให้ตัวเองกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสียเอง
ท่านทั้งหลาย...
ไหวพริบ ปฏิภาณ และปัญญาสามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะปัญญาเปรียบเสมือนอาวุธ ช่วยปกป้องคุ้มครองและนำชัยชนะมาให้ อีกทั้งยังถือเป็นทรัพย์สินอันมีค่าอีกด้วย ผู้มีปัญญา ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็จะองอาจ มีสง่าราศี หมู่คณะก็สง่างาม และเป็นที่เกรงขามเสมอ การกลั่นแกล้งไม่ก่อให้เกิดผลดีอันใด ได้เพียงความรู้สึกสะใจและมักจะให้โทษแก่ผู้ก่อเหตุเท่านั้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา