3 เม.ย. 2020 เวลา 12:21 • บันเทิง
📮เรื่องสั้น | ความกังวลในฤดูร้อน Ep.1
" นาท มึงจะกลับบ้านไหมวะ "
" ขอเวลาสักพัก กูไม่รู้จะบอกที่บ้านยังไงว่า กูไม่มีงานทำแล้ว "
ชายหนุ่มร่างสันทัดในเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น ที่ร้านข้าวแกงริมถนนหน้าคอนโดกับทัศน์เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมห้องที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนกระทั่งทำงาน
" ถ้ากูกลับบ้าน มึงจ่ายค่าห้องไหวไหมวะ คนเดียวเนี่ย " นาทถาม
" ก็ถ้ามึงกลับบ้าน แล้วไม่คิดจะกลับมาอีก กูก็คงย้ายออกแหละวะ ไปหาที่พักถูกกว่านี้หน่อย หรืออาจจะหาใกล้ ๆ ที่ทำงานแบบไม่ต้องเสียค่าเดินทางเอา "
Pix from Unsplash
" แต่ห้องนี้ก็อยู่กันมาหลายปีแล้วนะเว้ย มึงไม่เสียดายหรอ "
" เสียดายห่าอะไรวะ เช่าเขาอยู่!!
ถ้าเป็นของเราเองก็ว่าไปอย่าง ตอนอยู่กันสองคน ช่วยกันออกคนละครึ่ง เดินทางไม่ไกลมากนัก กูก็โอเค แต่ถ้าต้องอยู่คนเดียว กูไปหาที่มันเหมาะกับเงินในกระเป๋ากูอยู่ก็พอแล้ว "
" เออ มึงนึ่คิดง่าย ๆ ดีเนอะ "
" แล้วมึงจะคิดให้ยากทำไมวะ!! ไม่ไหวก็ปล่อยมือ เหนื่อยก็พัก มีแรงก็เดินต่อ แค่นั้นไหมวะคนเรา
.
ถ้ามึงยังหางานใหม่ไม่ได้ .. กูว่ามึงกลับไปอยู่บ้านที่อ่างทองก่อนเหอะ ค่าครองชีพที่กรุงเทพ แค่ออกจากห้องก็เสียเงินแล้ว "
" กูไม่รู้ว่า กูจะไปทำอะไรที่บ้านเลยวะ
จังหวัดแม่งเล็กนิดเดียว จะค้าขายก็ไม่รู้จะขายอะไร แล้วกูจะบอกพ่อกับแม่ว่ายังไงเนี่ยแหละ อยู่ ๆ บริษัทเลิกกิจการเฉยเลย ตั้งตัวไม่ติดเลยกู "
" ฮัลโหล พ่อ ..
มีอะไรรึเปล่า ทุกทีไม่เคยเห็นโทร "
.
นาทรับโทรศัพท์อย่างแปลกใจ ทุกครั้งมักจะเป็นแม่ ที่คอยโทรถามเขาว่าเสาร์นี้จะกลับบ้านไหม ถึงไหนแล้ว จนกว่าเขาจะถึงบ้านนั่นแหละ พ่อผู้ไม่ค่อยได้ใช้มือถือเท่าไหร่นักแต่คราวนี้เป็นพ่อที่โทรมาหาเขาแทน
" กลับบ้านไหมละ ยังไงก็มาหาอะไรทำที่บ้านเราเอา "
.
คำพูดแค่นี้ของพ่อ ที่ไม่เคยได้ยินบ่อยนัก ทำเอาลูกผู้ชายอย่างเขาถึงกลับน้ำตาร่วง ก้อนแข็ง ๆ ในลำคอทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก พ่อคงรู้แล้วว่าเขาตกงาน คงจะเป็นแม่ที่บอกกับพ่ออีกต่อนึงหลังจากเขาโทรหาแม่และเล่าความจริงให้ฟังเมื่อคืน
" ครับ เดี๋ยวนาทกลับพรุ่งนี้สาย ๆ นะพ่อ "
.
ไม่มีเงินส่งให้ที่บ้านอย่างที่เคยทำทุกเดือนตั้งแต่ได้ทำงาน เงินเก็บที่พอมีอยู่ ร่อยหรอลงไปทุกวัน ๆ หลังจากการตะเวนสมัครงานที่ใหม่อยู่ 3-4 แห่ง ในสภาวะเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ ไม่มีที่ไหนเรียกเขาไปสัมภาษณ์เลย
Pix from Pinterest
บ้านสองชั้นที่ชั้นบนเป็นบ้านไม้เดิม ใต้ถุนเรือนเคยเป็นใต้ถุนสูงโล่ง ๆ ก่ออิฐโบกปูนกลายเป็นห้องใหญ่ ๆ ชั้นล่างไว้นั่งเล่น นอนเล่น โดยไม่ต้องขึ้น ๆ ลง ๆ บันไดระหว่างวันเหมือนแต่ก่อน
รอบ ๆ บ้าน มีแต่ท้องทุ่งนาของชาวบ้าน บ้านเขามีแค่เพียงพื้นที่ ๆ เป็นตัวบ้านและบริเวณรอบ ๆ ไม่กว้างขวางนักไว้ปลูกกล้วย และพืชผักสวนครัวไว้แค่พอเก็บกินในบ้านเท่านั้น
เสียงเจ้าตาลเห่าดัง และวิ่งสี่ขามารับเขาตั้งแต่เดินผ่านรั้วประตูหน้าบ้าน พ่อคงจะอยู่กับสวนผัก กับดงกล้วยหลังบ้าน และอยู่กับต้นไม้ใบหญ้าได้ทั้งวัน
.. เขาวางกระเป๋าก่อนที่จะไปเดินตามหาพ่อที่อยู่ที่ไหนสักแห่งทันทีเมื่อมาถึง
Pix from Pinterest
" พ่อ หวัดดี ทำอะไรอะ "
" ขุดหน่อกล้วย เพิ่งแตกหน่อใหม่ 2-3 ต้น เพิ่งมาถึงรึไง กินอะไรมารึยัง ในครัวมีกับข้าว แม่เขาทำไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว ไปกินข้าวก่อนไป "
" พ่อจะทำอะไรอีก รึเปล่า เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาช่วยนะ "
" ไม่ต้อง ๆ พอแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำใหม่ จะไปอาบน้ำสักหน่อย ร้อนมาก เมื่อกี้ไอ้ตาลออกไปรับไหมละ "
" รับ..พ่อ เห่ารับตั้งแต่นาทเดินเข้ามาแล้ว .."
" เอาข้าวของไปเก็บบนเรือนก่อน กินข้าวกินปลาซะ ของกินเยอะแยะ แม่แกทำไว้น่ะ "
เมื่อก่อนบ้านหลังนี้ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไปสำหรับครอบครัว 4 คนพ่อแม่ลูก ๆ เขาเป็นลูกชายคนเล็กและลูกชายคนเดียว
.
พี่สาวเขาเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด แยกบ้านออกไปตั้งแต่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง จะกลับมาหาพ่อกับแม่ เอากับข้าวมาส่งบ้าง หรือไม่ก็เจอพ่อกับแม่ที่โรงพยาบาลเวลาหมอนัดตามโรคที่ผู้สูงอายุเป็น ๆ กัน
.
โชคดีที่พี่สาวเป็นข้าราชการ อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ายูกค่ายา และการรักษาพยาบาลของพ่อกับแม่
คงจะมีแต่เขาที่ร่ำเรียนจบ ทำงานทำการแล้ว กลายมาเป็นภาระไม่มีงานและต้องมาอยู่บ้านเฉย ๆ นี่นะ
พ่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ..
ชุดอยู่บ้าน ชุดทำสวนของพ่อมักจะเหมือน ๆ กันหมด กางเกงขาสั้นที่ตัดขาให้สั้นลงจากกางเกงขายาวที่เก่าแล้ว ทั้งที่ของพ่อเองหรือจากที่คนอื่นให้มา พ่อก็ไม่เคยรังเกียจ
.
พ่อบอกว่า เสื้อผ้ายังดี ๆ อยู่เลย แค่เขาใส่ไม่ได้แล้วเอามาให้เราจะรังเกียจทำไม!
.. เสื้อยืดหลายตัวเป็นเสื้อมียี่ห้อทั้งนั้น บางตัวเป็นยี่ห้อแบตเตอรี่รถยนต์ บางตัวเป็นยี่ห้อลิโพ บางตัวก็ยี่ห้อกระทิงแดง ที่ได้รับแจก ๆ มา
กลิ่นแป้งเย็นตรางูหอมฟุ้ง หน้าร้อนเดือนเมษา อาบน้ำแล้วทาแป้งเย็นคงเป็นเรื่องปกติของบ้านเรา บ้านไม้ที่ไม่มีแอร์ และไม่คิดจะติดแอร์ ร้อนก็อาบน้ำให้บ่อยขึ้นแค่นั้น
" พ่อ ..
นาทส่งใบสมัครงานไปหลายที่แล้ว แต่ยังไม่ได้ "
.
เขาพูดเบา ๆ กับพ่อเมื่อพ่อมานั่งอยู่ที่ม้าหินหน้าห้องใต้ถุนเรือน
" ไม่เป็นไรหรอก
ยังไม่ได้ก็อยู่บ้านไปก่อน ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็หาอะไรทำที่อ่างทองบ้านเรานี่แหละ ไม่ต้องไปอยู่กรุงเทพก็ได้ ถ้าไม่เลือกงานก็ไม่อดตายหรอก!
.. พ่อเคยไม่มี แล้วเคยมี และก็ไม่มีอีก ชีวิตไม่เคยท้อ เลี้ยงลูกได้จนโต ก็ถือเป็นกำไรชีวิตแล้ว "
.
นาน ๆ พ่อจะคุยยาว ๆ สักที ปกติพูดน้อย และแม่มักจะพูดเก่ง พูดเยอะมากที่สุดในบ้าน และเขามักจะคุยกับแม่มากกว่าคุยกับพ่อ
" พ่อเคยขายไอติมถังมาก่อน เคยเป็นเด็กรถ เคยเป็นเถ้าแก่รถ และวันนี้เป็นคนสวนอยู่บ้าน พ่อก็ผ่านมันมาได้ทุกช่วงการขึ้นลงของชีวิตมาได้จนวันนี้ ... "
" นาทรู้ไหมว่า อะไรทำให้ชีวิตมันอยู่ได้ต่อ... เวลาที่เราพลาดหวัง หรือทำอะไรผิดพลาด "
พ่อนั่งสบาย ๆ หลังอิงเก้าอี้ม้าหิน แต่ไม่ได้พูดขึ้นมาลอย ๆ คำพูดของพ่อดูจริงจังและสบตาเขาทุกประโยคที่พูดขึ้นขัดกับท่าทางสบาย ๆ ที่เป็นอยู่ ..
.
โปรดติดตาม..
ตอนต่อไปวันศุกร์หน้านะคะ
...
รฉัตร วรรณกุล
03 เมษา' 2563
โฆษณา