8 เม.ย. 2020 เวลา 13:30 • ยานยนต์
Carman ยินดีนำเสนอ
EP11: วิเคราะห์ Mitsubishi Pajero Sport เจาะลึกข้อดี-ข้อเสีย หรือ Fortuner ที่เเปลงร่างเป็นผู้หญิง?
เเบบสรุปสั้นกระชับ
ข้อดี
+เครื่องยนต์มีเเรงปลายดี
+มีเบาะคู่หน้าที่สบายที่สุดในกลุ่ม
+มีการปรับปรุงวัสดุภายในเเล้ว
+ดีไซน์โดยรวมค่อนข้างลงตัว
+ออพชั่นมาเเน่นมากๆทั้งในเเง่ความสบายเเละความปลอดภัยในราคาที่คุ้มค่า
+ช่วงล่างนิ่มสบายมากๆ
+พวงมาลัยน้ำหนักเบา คล่องตัว
+มีระบบขับสี่เเบบ Super Select 4WD II
ข้อเสีย
-เเรงต้นของเครื่องยนต์ไม่ดี
-เบาะนั่งเเถวสองยังทำได้ไม่ค่อยดี
-เบาะนั่งเเถวสามยังสู้ Fortuner ไม่ได้
-ช่วงล่างในความเร็วสูงด้อยกว่าคู่เเข่ง
-กินน้ำมันกว่า Fortuner 2.8
-ถุงลมนิรภัย 7 ใบมีเฉพาะรุ่นท็อป
-อุปกรณ์บางตัวถูกถอดออกอย่างงงๆ
เเละนั่นละครับ คือ การวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย Mitsubishi Pajero Sport เเบบสั้นกระชับรวดเร็วสำหรับท่านที่ต้องการความรวดเร็ว
คราวนี้สำหรับท่านที่ต้องการดูการวิเคราะห์เเละเจาะลึกข้อดี-ข้อเสียตามเเบบฉบับของ Carman เเล้วละก็ เลื่อนนิ้วลงไปอ่านด้านล่างเลยครับ
ความเดิมตอนที่เเล้ว
หลังจากที่เราได้อธิบายความต่างระหว่าง SUV กับ PPV ไปเเล้ว ใครยังไม่ได้อ่าน เชิญได้ที่นี่เลยครับ
วันนี้กลับมาเจอคุณผู้อ่านทุกท่านในช่วงค่ำคืนหลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จก็เข้ามาอ่านมาทักทายกันในค่ำคืนของกลางสัปดาห์เเบบนี้นะครับ
เป็นโอกาสอันดีที่เราจะพูดถึง PPV รุ่นที่น่าสนใจเเละขายดีเป็นเบอร์ 2 ของ PPV
นั่นคือ Mitsubishi Pajero Sport นั่นเองครับ
หลังจากการเปิดตัว Pajero Sport ให้หลัง เจ้าตลาดอย่าง Toyota Fortuner เพียงไม่กี่วันช่วงปลายปี 2015 นั้นก็ได้ทำปรากฏการณ์ยอดจองถล่มทลาย ด้วยความคุ้มค่าของตัวรถ เเถมตอนนั้นเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตในช่วงปี 2016 เป็นต้นมา รวมถึงมีโปรโมชั่นรุ่นท็อปราคา 1,399,000 ก็เลยทำให้ช่วงเเรกนั้นยอดขายเเละกระเเสตอบรับเเซง Toyot Fortuner ขึ้นมาเป็นอันดับ 1
เเต่เมื่อผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน ก็เริ่มมีปัญหาของตัวรถโผล่ออกมาในเรื่องของพวงมาลัยสั่น เเล้วไม่ได้รับการเเก้ไขจากศูนย์บริการ ก็กลายเป็นกระเเสด้านลบออกมา จนทำให้ Fortuner กลับมาเป็นอันดับ 1 เหมือนเดิม เเละครองยาวๆเลยทีนี้จนปัจจุบัน
ทว่า Mitsubishi Pajero Sport ก็ยังคงยึดอันดับ 2 ได้อย่างเหนียวเเน่นมาตลอดเกือบ 5 ปีเเล้ว เเละเมื่อปลายปีที่เเล้วได้มีการปรับออพชั่นใหม่เพื่อให้รถสดใหม่มากขึ้น
ราคาหลังเปิดตัวล่าสุดมีดังนี้ครับ
รุ่น GT 2WD 1,299,000
รุ่น GT-Premium 2WD 1,469,000
รุ่น GT-Premium 4WD 1,599,000
เราไปดูกันดีกว่าครับว่า Pajero Sport คันนี้มีข้อดี-ข้อเสียอะไรกันบ้าง
ข้อดี
-เครื่องยนต์ 2.4 MIVEC 181 เเรงม้า 430 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ Auto 8 speed ตัวนี้นะครับ ให้การตอบสนองในรอบปลายที่ดีมาก คือ เมื่อคุณผ่าน 2,000 รอบต่อนาทีไปเเล้ว เทอร์โบมาเนี่ย เเรงดึงมันดีมาก อยู่ในระดับหัวเเถวของ PPV เลย การขับขี่ในการเดินทางไกลจะมีอัตราเร่งที่ดีมาก การกดคันเร่งเต็ม เเละช่วงรอบปลายจะมีพละกำลังเหลือเฟือดีมาก ดีกว่า Fortuner 2.8 เพราะรายนั้นปลายเขาจะเหี่ยวนะครับ ยิ่งความที่มันเป็นเกียร์ 8 speed เนี่ย เวลามันเปลี่ยนเกียร์เนี่ยรอบมันก็ไม่ตกมากเท่าเกียร์ 6 speed ของ Fortuner ฉะนั้นการใช้ความเร็ว 100-130 km/h ของคันนี้สบายมาก
-เบาะนั่งคู่หน้านั้นมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ทั้งส่วนของพนักพิงหลังเเละตัวเบาะรองนั่ง รองรับส่วนของขาเเละหลังได้สบายพอดีมาก หนานุ่มกำลังดีในส่วนของเนื้อหนังเเละฟองน้ำ รวมถึงพนักพิงศีรษะก็นุ่มสบายไม่ดันหัวเลย ไม่เเข็งเหมือน Fortuner ทำให้ภาพรวมเป็นรถ PPV ที่มีเบาะคู่หน้าที่สบายที่สุด เเถมเบาะยังปรับคู่หน้าด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางเหมือนกับ Fortuner ด้วยนะครับ ทำให้การปรับตำเเหน่งเบาะทำได้ค่อนข้างละเอียดเเละเข้ากับสรีระของเราได้ดีขึ้น
-รุ่นก่อน Minorchange นั้นคอลโซลกลางจะดันเข่าค่อนข้างมาก ทำให้มันเบียดมากเเละเเหกขาไม่ได้ เเต่รุ่น Minorchange มีการเพิ่มวัสดุบุนุ่มตรงบริเวณขอบด้านข้างคอลโซลกลางมาเเล้ว ทำให้สบายเข่ามากขึ้น เเละทำให้วัสดุภายในรถในภาพรวมสมราคามากขึ้นกว่ารุ่นก่อน Minorchange
-โอ้โห ข้อนี้ถือว่าเป็น hilight เลยคืออุปกรณ์ความสะดวกสบายที่มาตั้งเเต่รุ่น GT 2WD คุณได้ระบบเปิด-ปิดเเละปรับความสูงไฟหน้าอัตโนมัติ, ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, เเป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift, ระบบปรับอากาศเเบบเเยกซ้าย-ขวา Dual Zone, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 8 นิ้วรองรับ Apple Carplay เเละ Andriod Auto, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ทั้งหมดนี้ในราคาเเค่ 1,299,000 ไม่มีค่ายไหนให้คุณได้มากในราคาเพดานเเค่ 1.3 ล้านครับ
เเต่ถ้าหากคุณขยับไปรุ่น GT-Premium 2WD ออพชั่นยิ่งเต็มจนล้นเข้าไปอีก สิ่งที่คุณได้เพิ่ม ได้เเก่ ฝาท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าเเบบ Hands Free, เบาะนั่งคนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, มาตรวัดพร้อมหน้าจอ LCD 8 นิ้ว, ระบบ Nanoe, ระบบนำทาง, จอทีวี 12.1 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบสั่งงานตัวรถผ่านเเอพ Mitsubishi Remote CONTROL โอ้มากมายก่ายกองยาวเป็นหางว่าวในราคาเเค่ 1,469,000 ซึ่งออพชั่นใกล้เคียงกับรุ่น GT-Premium 4WD ที่ราคา 1,599,000 ถ้าเทียบออพชั่นตรงรุ่นกับ Fortuner 2.8 2WD นั้น Fortuner จืดสนิทเเถมเเพงกว่ามากๆด้วย คือ 1,603,000 บาท
-นอกเหนือจากอุปกรณ์ความสะดวกสบายเเล้ว ระบบความปลอดภัยเขามาเต็ม ในรุ่นเริ่มต้น GT 2WD พวกระบบตัวช่วยพื้นฐานอย่าง ABS/EBD/BA/ESP/HSA/ESS เเบบเบสิคนั้นมีมาให้อยู่เเล้วในรถสมัยนี้ รวมถึงมีเซนเซอร์หลังด้วย เเต่ขนาดรุ่นล่างสุดยังให้กล้องมองรอบคัน Multi View Monitor มาให้ตั้งเเต่ 1,299,000 ถือว่าดีมากๆครับ
ทีนี้ถ้าคุณขยับเป็นรุ่น GT-Premium 2WD
เขาเล่นประเคนข้าวของมาเกินหน้าเกินตาคู่เเข่งในราคาเเค่นี้ไปมากๆ
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go ที่ความเร็วต่ำ
-ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว FCM
-ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง UMS
-ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา BSM
-ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลนระยะไกล LCA Lane Change Assist
-ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA Rear Cross Traffic Alert
-เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า
เขามีระบบเหล่านี้ตั้งเเต่รุ่นกลาง
Fortuner 2.8 2WD เเพงกว่านี้เเสนกว่าบาทเเต่ไม่มีเเม้เเต่ระบบเดียวที่กล่าวมาข้างต้นนี้เลย หรือถ่าคุณอยากได้ออพชั่นมากกว่านี้ก็ต้องไปเล่น Ford Everest 2.0 Turbo Titanium+ 2WD 1,599,000 ซึ่งคุณก็จะไม่ได้สมรรถนะเครื่องที่เเรงเท่าตัวนี้
-อันนี้เป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคล เเต่ภาพรวมดีไซน์คันนี้ค่อนข้างจะดูถูกจริตกับลูกค้าชาวไทยอยู่พอสมควรไม่ว่าจะเป็นภายนอก-ภายใน เพราะมันมีความสปอร์ตเเละมีกลิ่นอายของความเป็นรถเก๋งพอสมควร เรียกคะเเนนความน่าซื้อได้ค่อนข้างมาก ไม่เหมือนบางค่ายที่มาที่หลังเเต่หน้าตา PPV นี่เหมือนกระบะเลยจนยอดขายไม่ดี
-ช่วงล่างโดยรวมนั้นถูกเซ็ตมาในลักษณะคล้ายรถเก๋งมากที่สุดในกลุ่ม ซับเเรงสะเทือนได้ดีมาก นุ่มขึ้นกว่า Pajero Sport รุ่นเก่า เเละนุ่มกว่าคู่เเข่งคันอื่นมากๆทุกคัน ยิ่งเทียบกับ Fortuner นั้นรายนั้นช่วงล่างนี่เด้งๆเเข็งๆชนิดที่บางท่านอาจเกิดอาการเมารถเอาได้ ในภาพรวมเหมือนเน้นเอาใจกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวเเละรักความสบาย ใครลงจากรถเก๋งมาขับคันนี้ น่าจะชอบ
-พวงมาลัยนั้นเเม้จะไม่ได้ผ่อนเเรงด้วยไฟฟ้าเเต่ถือว่าเซ็ตน้ำหนักมาค่อนข้างจะเอาใจคุณผู้หญิง คือ น้ำหนักเบา คล่องตัวดี เเต่กลับกันในความเร็วสูงยังกลับให้ความมั่นใจได้ค่อนข้างดี ไม่เบาโหวงเหวงเกินไปหรือเพิ่มความตึงเครียดในการเดินทางไกล ถือว่าดีครับ
-เขาเคลมว่าในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเเบบ Part Time ที่เหนือกว่าของค่ายอื่นๆ โดยเรียกว่า Super Select 4WD II โดยมีโหมดดังนี้
ขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H)
-ขับขี่บนสภาพถนนปกติ
ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H)
-ขับขี่บนสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็ว
ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4HLC)
-ขับขี่เส้นทางทุรกันดารแต่ยังใช้ความเร็วได้
ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4LLC)
-ขับขี่เส้นทางทุรกันดารมาก มีโคลน เนินสลับ ลาดชันมาก
ซึ่งผมมองว่าจุดที่ต่างจากค่ายอื่นๆ คือ ในทางทุรกันดานยังคงใช้ความเร็วได้ในโหมด 4HLC ที่ค่ายอื่นไม่มีโหมดนี้ ค่ายอื่นจะมีเเค่ 3 โหมด ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มความสามารถเเละความหลากหลายในการลุยได้มากขึ้น
ทีนี้เรามาดูข้อเสียกันบ้างดีกว่า
-จากที่เครื่องยนต์ 2.4 ตัวนี้มีเเรงปลายค่อนข้างดี เเต่เมื่อเทียบกับเครื่อง 2.8 ของ Fortuner นั้นเสียเปรียบเขาอย่างมากในเรื่องของเเรงรอบต้นเเละกลาง เพราะรายนั้นเครื่องเขา ตัว Turbo ติดบูสต์ไวกว่า เเละมีเเรงบิดช่วงกลางที่ดีกว่า ทำให้การใช้ในเมือง หรือการใช้งานเเบบกดครึ่งคันเร่งนั้นจะรู้สึกเหมือน Fortuner มันพุ่งกว่า เเต่ Pajero Sport นั้นจะอืด ดังนั้น ควรเเก้ไขในเรื่องของเเรงรอบต้นเเละกลางให้ดีกว่านี้
-เเม้เบาะคู่หน้าจะนั่งสบายที่สุด เเต่กลายเป็นเบาะเเถวสองยังนั่งไม่ค่อยสบาย ค่อนข้างรั้งท้ายกลุ่ม หากเทียบกับ Fortuner นั้นเบาะรองนั่งเขายาวกว่าเเละมีมุมเงยที่รองรับขาได้มากกว่า เเละที่เท้าเเขนของ Pajero Sport นั้นทำมาสั้นมาก เท้าเเขนได้ไม่สบายนัก รวมถึงตัวเบาะเเถวสองปรับเอนได้เเต่ไม่สามารถเลื่อนหน้า-หลังเพื่อเพิ่ม legroom ได้ ซึ่ง Fortuner สามารถเลื่อนเบาะเเถวสองได้
-นอกจากเบาะเเถวสองนั้น เบาะเเถวสามก็ยังนั่งไม่ค่อยสบายเมื่อเทียบกับ Fortuner เพราะขนาดความกว้างของเบาะนั้นทำมาเล็กกว่ามาก เเละการที่เบาะเเถวสองไม่สามารถเลื่อนหน้าได้เยอะเท่า Fortuner ก็ทำให้ legroom ด้อยกว่าเล็กน้อย รวมถึงเบาะเเถวสามก็ปรับเอนเหมือน Fortuner ไม่ได้ เหมาะกับเด็กตัวเล็กๆเท่านั้น เเต่ภาพรวมเบาะเเถวสามก็ยังดีกว่า Ford Everest
-เเม้ช่วงล่างในความเร็วเดินทางปกติจะนุ่มสบายดีมาก เเต่ในการใช้ความเร็วสูงเกิน 130 km/h นั้นทำได้ไม่ดีเอาเสียเลย ไม่มีความมั่นใจเท่าที่ควร สู้รุ่นเก่าไม่ได้ เเละด้อยกว่าคู่เเข่งในตลาดเกือบทุกคัน รวมถึงไม่ได้เด่นกว่า Fortuner หรือ Izuzu MUX
-เเม้จะใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ซึ่งเล็กกว่า Fortuner เเละ Izuzu MUX สองรายนี้เขาใช้เครื่อง 2.8 เเละ 3.0 เเถมใช้เกียร์ Auto 6 speed ทั้งคู่ เเต่กลายเป็นว่า Pajero Sport ที่ใช้เครื่องเล็กกว่าเเถมได้เกียร์ Auto 8 speed ด้วยเนี่ย กลับกลายเป็นว่ากินน้ำมันมากกว่าซะอย่างงั้น ละก็ถ้าเทียบกับคันอื่นในกลุ่มก็ถือว่าค่อนข้างรั้งท้ายเรื่องอัตราการสิ้นเปลือง หรืออาจเป็นเพราะเเรงต้นไม่ดีจึงต้องกระทืบเต็ม อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เเต่รุ่นต่อไปควรประหยัดกว่านี้
-เเม้เขาจะให้ออพชั่นโดยรวมมาเเน่นมาก ทว่าสิ่งที่ชวนให้สงสัยมาก คือ ทำไมในรุ่น GT, GT-Premium นั้นถึงมีถุงลมนิรภัยเเค่ 2 ใบ คือ คุณอุตสาห์อัดระบบความปลอดภัยทั้งหลายมาท่วมคัน เเต่ในราคา 1.299 ล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 1.469 ล้านในรุ่น Premium ก็ยังมีถุงลมเเค่ 2 ใบ ในยุคนี้รถหลายคันที่ราคา 5-6 เเสนยังมีถุงลมนิรภัยขั้นต่ำ 3-4 ใบเลย บางคันมีครบ 6-7 ใบเลย มันควรจะเป็นมาตรฐานได้เเล้วในพ.ศ.นี้ เเต่เขาดันกั๊กไว้เฉพาะรุ่น 4WD เหมือนทำนองว่าอยากจะขายตัวขับสี่นั่นเอง ถ้าหากคุณใส่ถุงลม 7 ใบทุกรุ่นเเล้วขึ้นราคาสัก 20,000 ผมว่ายังโอเคเลยครับ ไม่มีใครว่าหรอกครับ
-นอกจากนี้ รุ่นนี้ดันไม่มียางอะไหล่ ซึ่งไม่เเน่ใจว่าเป็นเพราะกลัว CO2 ไม่ผ่านเกณฑ์หรืออย่างไรไม่ทราบถึงมีเเค่ชุดซ่อมยางเหมือน Eco Car หลายค่าย(ยกเว้น Honda City) ในเมืองไทยนั้น ยิ่งเป็นรถ PPV เนี่ย ผมมองว่ายางอะไหล่ค่อนข้างจำเป็นหากไปลุยเเล้วเกิดยางมีปัญหาขึ้นมา ควรมีมาให้ด้วย เเละที่ตลกที่สุด คือ เข็มขัดคู่หน้าเเบบดึง
กลับเเละผ่อนเเรงอัตโนมัติซึ่งมันน่าจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอยู่เเล้วในรถสมัยนี้ เเต่กลายเป็นว่ารุ่น 2WD กลับมีเฉพาะฝั่งคนขับ ต้องเป็นรุ่น 4WD ถึงจะมีฝั่งคนนั่งด้วย เอาอีกเเล้ว สงสัยเขาคงอยากขายตัวขับสี่อีกเเล้ว เเต่ผมมองว่าระบบสุดจะเบสิคนี้ต้องให้มาได้เเล้ว ยิ่งราคามันหลักล้านเนี่ยต้องมี
สรุป-ครอบครัวพาทัวร์รอบประเทศ
โดยรวมเเล้ว Pajero Sport เปรียบเสมือน Fortuner ที่เเอบเเปลงร่างเป็นผู้หญิง คือ
1. บุคลิกจะนุ่มนิ่มสบายกว่า หน้าตาน่ารักกว่า เเต่งหน้ามากกว่าผู้ชาย(ไม่เสมอไป)/(หมายถึงปรับหน้าตาเเละวัสดุมาใหม่)
2. ไม่ชอบเปย์เเพง อยากให้ผู้ชายเปย์ให้(หมายถึงว่าราคารถถูกกว่า Fortuner เป็นเเสน ยิ่งถ้าเป็นรุ่นขับสองนี่ถูกกว่ามาก)
3. มีข้าวของอุปกรณ์ลูกเล่นมากมายก่ายกองตามสไตล์ผู้หญิงที่ชอบเครื่องประดับ กระเป๋าเเบรนด์เนม เเถมมีคนดูเเลความปลอดภัย(หมายถึงออพชั่นความสบายเเละอุปกรณ์ความปลอดภัยที่มากมาย)
4. เวลาจีบใครใหม่ๆเเล้วคบกันใหม่ๆจะเอาอกเอาใจน้อยกว่าตอนที่คบกันระยะยาวๆ คือ พูดง่ายๆว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เริ่มต้นจาก 0 เเล้วค่อยๆเพิ่มเป็น 100 เเต่ผู้ชายส่วนใหญ่เริ่มต้นจาก 100 เเล้วค่อยๆลดลงจนเหลือ 0 อันนี้หมายถึงส่วนใหญ่นะครับไม่ใช่ทุกคน เเต่อันนี้คือในกรณีที่ทั้งคู่ยังคบกันรักกันดีอยู่นะครับ เเค่จะสื่อว่าช่วงเวลาในการเอาใจต่างกัน(เปรียบเหมือนความไวของบูสต์เเละการตอบสนองเครื่องที่ Pajero Sport รอบต้นกะกลางช้ากว่า Fortuner เเต่รอบปลายมาดีกว่าของ Fortuner)
5. รวมถึงเผลอช้อปปิ้งเเบบเหมาหมดห้างโดยไม่รู้ตัว(อัตราการกินน้ำมันที่กินกว่า Fortuner)
6. เเต่กระนั้นก็สามารถลุยหรืออาจเเบกรับความกดดันจากอุปสรรคในชีวิตได้น้อยกว่า(ช่วงล่างที่นุ่มย้วยกว่าเเละอาจบรรทุกได้ไม่ดีเท่า Fortuner)
7. เเต่ด้วยหัวใจที่ไม่มั่นคงของเธอ เมื่อมีใครมาทำให้ใจหวั่นไหวก็เผลอคล้อยตามไป ทำให้เเฟนคนอื่นเลิกกับเธอไป เเต่ผู้ชายนั้นกลับมีหัวใจที่มั่นคงกว่าเเละทุ่มเทให้คนรักของเขาอย่างจริงจังมากกว่าในระยะยาวซึ่งจะทำให้ความรักยั่งยืนกว่า(ศูนย์บริการ ความทนทาน ราคาอะไหล่ เเละราคาขายต่อที่เป็นรอง Fortuner)
โดยบุคลิกตัวรถนั้นมันเหมาะกับกลุ่มคุณผู้หญิงทั้งหลายรวมถึงคุณผู้ชายที่ชอบความคล่องตัวของพวงมาลัย เน้นขับสบาย ไปทั้งครอบครัว ช่วงล่างนุ่ม เบาะนั่งคู่หน้าก็สบาย สามารถปรับพับเบาะได้หลากหลาย มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเเบบ Super Select 4WD II เเละให้ออพชั่นทั้งความสบายเเละความปลอดภัยรวมถึงลูกเล่นต่างๆมาครบถ้วนในราคาที่คุ้มค่า
จุดที่ Pajero Sport ต้องปรับปรุงคือความไวในการติดบูสต์ของเครื่องต้องไวขึ้น อัตราการสิ้นเปลืองควรดีกว่านี้ ช่วงล่างในความเร็วสูงต้องนิ่งกว่านี้ รวมถึงเรื่องอุปกรณ์จุกจิกที่ควรใส่เป็นมาตรฐาน
ซึ่งไม่เหมาะกับกลุ่มคนที่ขับเร็วเกินกว่า 130 km/h เล่นโค้ง ชอบการติดบูสต์ไวของเครื่อง เหยียบครึ่งคันเร่ง ดูผู้ใหญ่ ประหยัดน้ำมัน เน้นซ่อมง่าย ทนทาน ไม่จุกจิก เรื่องราคาเเละออพชั่นนั้นไม่ใช่ปัญหา เชิญไป Fortuner 2.8 TRD Sportivo 4WD ราคา 1,779,000 บาทครับ(หลังหมดโควิค-19 Fortuner เเละ Revo จะมีการ Minorchange ได้ข่าวมาว่าออพชั่นคราวนี้มาเเน่นสุดๆเลยไม่มีกั๊ก ถ้ารอได้ก็อยากให้รอครับ จะได้เปรียบเทียบกับคู่เเข่ง เเต่ถ้ารีบใช้รถเเละตัวเก่ามีส่วนลดเยอะ ก็จัดไปครับ)
เเต่ PPV หลังจากนี้จะกลับมาสนุกเเน่นอน
เเละทั้งหมดนั่นละครับ คือ การเจาะลึกข้อดี-ข้อเสีย Mitsubishi Pajero Sport
อย่าลืมนะครับ ถ้าชอบบทความเเบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดเเชร์ กดฟอลโลว์กันนะครับ
เเละอีกช่องทางการติดตามนึงสำหรับผู้อ่านย้อนหลัง คือทาง FB: Carman สามารถติดตามย้อนหลังจากเผยเเพร่ทาง Blockdit 2 วัน ไปกดไลค์กดติดตามกันได้นะครับ
ใครมีความรู้สึกยังไง, มีข้อเสนอเเนะสามารถคอมเม้นลงมาที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ
วันนี้ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา