พระราชบัญญัติระเบียบบริหารกระทรวงศึกษาธิการพศ 2546 ฉบับที่ 2 พ.ศ 2553 และฉบับที่ 3 พศ 2562
มีผลบังคับใช้เมื่อ 7 กรกฎาคม 2546
5 หมวด 82 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
มาตรา 6 ให้จัดระเบียบราชการกระทรวงศึกษาธิการดังนี้
1 ระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
2 ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
3 ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
แต่ไม่รวมถึงการจัดการศึกษาที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงอื่นที่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ
*จำ >> กลาง + เขต + ญา
หมวด 1 การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
มาตรา 9 ให้จัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลางดังนี้
1 สำนักงานปลัดกระทรวง
2 ส่วนราชการที่มีหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
มาตรา 40 การแบ่งส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
1 สำนักงานรัฐมนตรี
2 สำนักงานปลัดกระทรวง
3 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
4 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
5 สำนักงานคณะกรรมการอาชีวะ
ส่วนราชการตามข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
การแบ่งส่วนตามมาตรา 10 นั้นให้ออกเป็นกฎกระทรวง
ศธ. มี 543 = 5 ส่วน 4 กรม 3 องค์กร
มาตรา 14 ให้สภาการศึกษามีหน้าที่ (41 คน)
1 พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแห่งชาติที่บูรณาการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และกีฬากับการศึกษาทุกระดับ
2 พิจารณาเสนอนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษาให้ดำเนินการเป็นไปตามแผน
3 พิจารณาเสนอนโยบายและแผนในการสนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา
4 ดำเนินการประเมินผลการจัดการศึกษาตามข้อ 1
5 ให้ความเห็นหรือคำแนะนำในเรื่องกฎหมายและกฎกระทรวงอื่นที่เกี่ยวกับการศึกษา
การเสนอนโยบายแผนการศึกษาแห่งชาติและมาตรฐานการศึกษาให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี
มาตรา 15 ให้มีคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กพฐ.
มีหน้าที่พิจารณาเสนอนโยบายแผนพัฒนา มาตรฐานและหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ
การสนับสนุนทรัพยากรการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เสนอแนะในการออกระเบียบหลักเกณฑ์และประกาศเกี่ยวกับการบริหารงานของสำนักงาน
มาตรา 21 ให้กระทรวงศึกษาธิการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมีหน้าที่ในการประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถจัดการศึกษาสอดคล้องกับนโยบายและได้มาตรฐานการศึกษา รวมทั้งการเสนอแนะการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หมวด 2 การจัดระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
มาตรา 33 การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ยึดเขตพื้นที่การศึกษา โดยคำนึงถึง
1 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2 จำนวนสถานศึกษา
3 จำนวนประชากร
4 วัฒนธรรม
5 ความเหมาะสมด้านอื่น
เว้นแต่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วยกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของสภาการศึกษามีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดเขตพื้นที่การศึกษา
มาตรา 34 ให้จัดระเบียบบริหารราชการของเขตพื้นที่การศึกษาดังนี้
แบ่งส่วนราชการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้จัดทำเป็นประกาศกระทรวงโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กพฐ.
มาตรา 36 คณะกรรมการและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 10/2559 ยุบเลิกคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาและให้โอนอำนาจนี้ให้ กศจ.
ให้ กศจ. และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีอำนาจหน้าที่
1 กำกับดูแล จัดตั้ง ยุบ รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษา
2 ประสาน ส่งเสริม และสนับสนุนการศึกษาเอกชนในเขตพื้นที่การศึกษา
3 ประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถจัดการศึกษาสอดคล้องกับนโยบายและมาตรฐานการศึกษา
4 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาของบุคคลครอบครัว องค์กร ชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่นที่จัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลายในเขตพื้นที่การศึกษา
หมวด 3 การจัดระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
มาตรา 40 ระเบียบ ปฏิบัติราชการหรือระเบียบปฏิบัติงานของสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคลทั้งที่เป็นสถานศึกษาในสังกัดและเป็นสถานศึกษาในกำกับให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการดังกล่าว
หมวด 4 การปฏิบัติราชการแทน
การปฏิบัติราชการแทน หมายถึง การที่ผู้บังคับบัญชา มอบอํานาจ เป็นหนังสือ ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติราชการแทนเป็นเรื่อง โดยที่ผู้มอบอำนาจยังปฏิบัติหน้าที่อยู่
การปฏิบัติราชการแทน
ผู้บังคับบัญชามอบอำนาจให้ปฏิบัติราชการแทน เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน ผู้รับมอบมีอำนาจเต็มเสมือนผู้มอบ การปฏิบัติราชการแทนให้ทำเป็นหนังสือ
มาตรา 44 ให้ปลัดกระทรวง เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา และเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระจายอำนาจการบริหารการจัดการศึกษา 4 ด้านไปยัง กศจ. และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาโดยตรงดังนี้
1 วิชาการ 17
2 งบประมาณ 22
3 การบริหารงานบุคคล 20
4 การบริหารทั่วไป 22
กระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา 4 กลุ่ม 81 งานไปยัง
1 กศจ.
2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
3 สถานศึกษาโดยตรง
หมวด 5 การรักษาราชการแทน
การรักษาราชการแทน หมายถึง กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจแต่งตั้งให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด เข้าไปรักษาราชการแทน
มาตรา 48 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รักษาราชการแทน
มาตรา 54 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการ ให้ใช้คำว่า รักษาการในตำแหน่ง เฉพาะกรณี ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2560 เรื่อง การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้อ 5 ยกเลิกการรักษาราชการแทน ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 (บรรจุแต่งตั้ง) ศึกษาธิการจังหวัด สั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไป รักษาการในตําแหน่ง นั้นได้
การรักษาราชการแทน ใช้ในกรณี ผู้ดำรงตำแหน่งไม่มี หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ หรือไม่อยู่สถานที่ทำงาน ผู้รักษาราชการ มีอำนาจเช่นเดียวกับผู้ที่ตนเองแทน
ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งใดหรือผู้รักษาราชการแทน ผู้ดำรงตำแหน่งนั้น มอบหมายหรือมอบอำนาจ ให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการ ให้ผู้ปฏิบัติราชการแทนมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ที่มอบหมายหรือมอบอำนาจ
การมอบอำนาจทำเป็นหนังสือ + ลงโทษทำเป็นคำสั่ง
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการฉบับที่ 3 พ. ศ. 2562
เพื่อกำหนดโครงสร้างและตำแหน่งต่างๆให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงไปอันจะทำให้การจัดระบบการศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
