หมวด 3 การสงเคราะห์เด็ก
มาตรา 32 เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ 8 ประเภทได้แก่
1 เด็กเร่ร่อนหรือเด็กกำพร้า
2 เด็กที่ถูกทอดทิ้งหรือพลัดหลงณที่ใดที่หนึ่ง
3 เด็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถอุปการะเลี้ยงดูได้ด้วยเหตุผลใดๆ เช่น ถูกจำคุก กักขัง พิการ ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง ยากจน เป็นผู้เยาว์ หย่า ถูกทิ้งร้าง เป็นโรคจิต หรือโรคประสาท
4 เด็กที่ผู้ปกครองมีพฤติกรรมหรือประกอบอาชีพไม่เหมาะสม
5 เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบ ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำหรือแสวงหาประโยชน์มิชอบ ถูกทารุณกรรมหรือตกอยู่ในภาวะอื่นใดอันอาจเป็นเหตุให้เด็กมีความประพฤติเสื่อมเสียในทางศีลธรรม
6 เด็กพิการ
7 เด็กที่อยู่ในสภาพยากลำบาก
8 เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำต้องได้รับการสงเคราะห์
มาตรา 33 ในกรณี พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ได้รับการแจ้งจากบุคคล หรือพบเห็นเด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ตามมาตรา 32 ให้พิจารณาการสงเคราะห์ตามวิธีการที่เหมาะสมดังต่อไปนี้
1 ให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์แก่เด็กและครอบครัวหรือบุคคลที่อุปการะเลี้ยงดูเด็กเพื่อให้สามารถอุปการะเลี้ยงดูเด็กได้
2 มอบเด็กให้อยู่ในความอุปการะของบุคคลที่เหมาะสม และยินยอมรับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดูตามระยะเวลาที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกิน 1 เดือนในกรณีที่ไม่อาจดำเนินการตามข้อ 1 ได้
3 ดำเนินการเพื่อให้เด็กได้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น ตามกฎหมายว่าด้วยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
4 ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในครอบครัวอุปถัมภ์หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก
5 ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในสถานแรกรับ
6 ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในสถานสงเคราะห์
7 ส่งเด็กเข้าศึกษาหรือฝึกหัดอาชีพหรือส่งเด็กเข้าบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพ
วิธีการสงเคราะห์
1 ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง
2 ต้องทำเป็นหนังสือ
3 ยินยอมด้วยวาจาต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน
ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีเหตุอันควรหรือไม่อาจให้ความยินยอมได้ ให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่กรณีมีอำนาจส่งเด็กเข้ารับการสงเคราะห์
ในกรณีที่บุคคลที่ได้รับการสงเคราะห์มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์แต่ยังอยู่ในสภาพที่จำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์ต่อไป
ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด อาจสั่งให้บุคคลนั้นได้รับการสงเคราะห์ต่อไปจนอายุ 20 ปีบริบูรณ์ได้
แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์ต่อไปอีก และบุคคลนั้นไม่ได้คัดค้าน การสงเคราะห์ ต้องไม่เกินเวลาที่บุคคลนั้นมีอายุครบ 24 ปีบริบูรณ์
มาตรา 38 ในกรณีที่ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งให้เด็กเข้ารับการสงเคราะห์โดยผู้ปกครองไม่ยินยอม ผู้ปกครองย่อมมีสิทธิ์นำคดีไปสู่ศาล ในเขตท้องที่นั้นภายใน 120 วัน
มาตรา 39 ในกรณีที่ผู้ปกครองซึ่งได้รับเด็กกลับมาอยู่ในความดูแล มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า จะให้การเลี้ยงดูโดยไม่ชอบแก่เด็กอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครอง หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ให้เรียกผู้ปกครองมาทำทัณฑ์บนว่าจะไม่ทำการใดๆอันมีลักษณะเป็นการให้การเลี้ยงดูโดยมิชอบแจกอีกและให้วางประกันไว้เป็นจำนวนเงินตามสมควรแก่ฐานานุรูป แต่จะเรียกประกันไว้ได้ไม่เกินระยะเวลา 2 ปีถ้ากระทำผิดทัณฑ์บนให้ริบเงินประกันเป็นของกองทุนคุ้มครองเด็ก
การให้คำแนะนำหรือการเรียกประกันให้คำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครองและประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
