2 พ.ค. 2020 เวลา 06:53 • ธุรกิจ
“Sector rotation”
หุ้นหมุนรอบฉัน...แต่
ฉันต้องหมุนรอบเอง
1
[เทรดมั่วทัวร์ดอย]
เทรดมั่วทัวร์ดอย - cr.unsplash
อีกหนึ่งความสำคัญของการเทรด คือ การเลือกหุ้นโดยใช้หลักแนวคิดของ “Sector Rotation”
เชื่อว่าหลายๆคนที่เทรดในตลาดหุ้นนั้น มักจะต้องเคยได้ยินกับคำๆนี้มาบ้าง ว่าแต่มันคืออะไร?? เรามาทำความรู้จัก sector rotation กันครับ
“Sector ratation” คือ การเปลี่ยนเม็ดเงินลงทุนตามรอบเศรษฐกิจ โดยการปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนจากกลุ่มธุรกิจหนึ่งไปยังอีกธุรกิจหนึ่ง ผลที่ตามมาก็คือ การขายหุ้นในกลุ่มนั้นออกมาเพื่อไปซื้อหุ้นอีกกลุ่มนั่นเองครับ
โดยถ้าหากเราเข้าใจแนวคิดของ Sector ratation จะทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนชุดหุ้นเทรดขาขึ้นได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว กลยุทธ์นี้จะถูกกำหนดมาจากปัจจัยพื้นฐานหรือการวิเคราะห์ผ่าน Top-Down Analysis หรือการกำหนดกลยุทธ์ลงทุนจากภาพใหญ่ลงมายังตัวหุ้น
2
ตลาดหุ้นเทรดล่วงหน้าเสมอ
หากพิจารณาโครงสร้างราคาที่วิ่งขึ้นลงแบบเรียลไทม์ เราจะพบว่า นอกเหนือจากมูลค่าพื้นฐานแล้ว ราคายังมีการวิ่งขึ้นลงตามข่าวสารและความคาดหวังในอนาคตอยู่เสมอ หรือหากจะเขียนโครงสร้างราคาออกมาอยู่ในรูปแบบของสมการ จะได้ว่า
Price = fundamental + expectation
ดังนั้น ราคารายวัน มักจะสะท้อนความคาดหวัง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงได้ไวกว่าพื้นฐานนั่นเอง
หากพิจารณาภาพใหญ่ของตัวเลขเศรษฐกิจมหภาค พบว่าตลาดหุ้นจะเป็น leading indicator ของเศรษฐกิต เพราะตลาดหุ้นมักจะวิ่งตอบรับผลกระทบทางบวกและลบไปก่อนที่ตัวเลขเศรษฐกิจจริงจะถูกเฉลยก่อนประมาณ 3-6 เดือน นี่เป็นคงเครื่องพิสูจน์เรื่องความคาดหวัง
ทำให้ sector rotation จึงเน้นการคาดการณ์ถึงภาวะเศรษฐกิจ ที่เอื้อต่อกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์ หรืออย่างน้อยก็เป็นกลุ่มที่ไม่เสียประโยชน์จากวัฏจักรเศรษฐกิจที่กำลังขับเคลื่อนไป
Cr.Seeking alpha
ยกตัวอย่าง
สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ที่เริ่มมีการระบาดขึ้นในประเทศตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ท่ามกลางภาพใหญ่ของภาวะเศรษฐกิจที่โดน lockdown หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจลง สังเกตุได้ว่าหุ้นทุกๆกลุ่มเจอแรงขายออกมาหมดในช่วงแรก ซึ่งเป็นการขายเพื่อปรับลดพอร์ทของทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ทำให้เกิดผลคือตลาดปรับตัวลงอย่างรุนแรงจนเกิดอาการ panic sell
SET INDEX - tradingview
เมื่อผู้เล่นทุกคนในตลาดเริ่มตั้งสติได้ ก็จะเริ่มมีการซื้อหุ้นกลับ โดยการปรับสัดส่วนการลงทุนที่เหลือหรือเงินสดที่มีอยู่ จะถูกปรับเปลี่ยน sector ไปยังหมวดธุรกิจที่มีผลกระทบจาก covid-19 น้อยที่สุด อย่างหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและสื่อสาร ที่มีลักษณะธุรกิจเป็นสินค้าจำเป็นและทนทานต่อผลกระทบที่เกิด หุ้นกลุ่มนี้จึงมีการดีดกลับได้ไวกว่าตลาด โดยผมขอหยิบหุ้นที่เป็นผู้นำในแต่ละกลุ่มธุรกิจมาเปรียบเทียบการดีดกลับให้เห็น โดยเรียงตามมูลค่าตลาด ดังนี้ครับ
PTT - tradingview
AOT - tradingview
CPALL - tradingview
ADVANC - tradingview
GULF - tradingview
BDMS - tradingview
SCB - tradingview
หุ้นที่มีการดีดกลับมาในระดับราคาเดิมก่อนจะเจอวิกฤต Covid-19 คือ GULF CPALL ADVANC
ส่วนหุ้นที่ราคาปรับตัวลงแล้วยังไม่มีการฟื้นตัวกลับมาที่ระดับเดิม คือ SCB BDMS AOT PTT
**การยกตัวอย่างนี้ อาจจะไม่ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจโดยตรง เพราะเป็น black swan ที่เกิดขึ้น กระทบต่อหุ้นในหลายกลุ่มธุรกิจโดยตรงเป็นผู้เสียประโยชน์ ราคาจึงสะท้อนไปในทางที่หนักกว่า
พฤติกรรมตลาดหุ้นไทยของ “sector ratation”
เท่าที่เฝ้าสังเกตุมานั้น กลยุทธ์ Buy&Hold สามารถใช้ภาพของ fundamental มาจับได้ครับ
แต่ในส่วนของการเทรดดิ้งนั้น ตลาดจะมีพฤติกรรมสลับกลุ่มหุ้นในการเล่นค่อนข้างไว มีหลายๆครั้งที่จะเกิดการเทขายหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาแรงๆ แล้วไปดันหุ้นกลุ่ม laggard ขึ้นมาเพื่อพยุงดัชนีไม่ให้เปลี่ยนแปลง
เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่ SET ฟื้นตัวด้วยการรีบาวกลับของหุ้นกลุ่มน้ำมันแล้วเกิดการพักตัว ตามมาด้วยหุ้นโรงไฟฟ้าและสื่อสาร ส่งผลดัชนีมีการแกว่งในกรอบ 1250 +/- มานานกว่า 3-4 สัปดาห์ แต่สัปดาห์ล่าสุดได้มี sector rotation มายังกลุ่มปิโตร&โรงกลั่นอีกครั้ง ทำให้ดัชนีปรับตัวปิดเหนือ 1,300 จุดได้ แต่ไป
ดังนั้นการเทรดด้วย sector rotation เราจึงต้องมองหา expectation ของ sector ให้เจอ เพื่อจับจังหวะของ sector ratation ให้ถูกจังหวะ เราก็จะสามารถหมุนรอบการเทรดตามตลาดได้ จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญในการติดตามครับ
#เทรดมั่วทัวร์ดอย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา