4 มิ.ย. 2020 เวลา 15:31 • ธุรกิจ
พอร์ตของเรา ควรมีหุ้นประมาณกี่ตัวดี?
ช่วงนี้ผมเห็นนักลงทุนหน้าใหม่ทยอยเข้าสู่ตลาดหุ้นกันอย่างต่อเนื่องครับ อาจเป็นเพราะสภาพตลาดที่ฟื้นตัวติดต่อกันมาสักพักหนึ่งแล้ว 💸
ผมมีโอกาสได้เห็นพอร์ตหุ้นของหลายๆ คนที่เข้ามาแบ่งปันในกลุ่มนักลงทุน พบว่ามือใหม่บางคนก็ลงทุนแบบค่อยๆ แหย่มือเข้ามาคือลองซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเพียง 2-3 ตัว
ในขณะที่หลายคนก็ไม่เลือกที่รักมักที่ชังโดยการซื้อหุ้นเข้าพอร์ตในจำนวนที่มากเกินจะนับไหว
คำถามก็คือแล้วที่จริงเราควรจะซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเป็นจำนวนกี่ตัวดี
ตอบแบบเอาเกณฑ์ตัวเองเลยนะครับผมว่าควรมีประมาณ 4-8 ตัว 🧐 ลองมาฟังเหตุผลกัน
การลงทุนหุ้นรายตัวผมต้องคอยเมนเทนหุ้นที่มีในพอร์ตอย่างละเอียดครับ
เมื่อผ่านไปหนึ่งไตรมาส งานตรวจสอบทั้งหมดที่เคยทำไปแล้วก็ต้องนำกลับมาทำใหม่เพื่อดูว่าหุ้นที่เราสนใจยังไม่มีเกณฑ์ผิดปกติใช่หรือไม่
ทีนี้ถ้ามีหุ้นสิบยี่สิบตัว การจะตรวจสอบหุ้นเหล่านี้โดยละเอียดอยู่ตลอดเวลาแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว หรือถ้าจะเอาให้ไหวจริงๆ อาจจะต้องเสียการเสียงานกันเลย
Photo by Ishant Mishra on Unsplash
อีกอย่างคือผมจะซื้อหุ้นโดยเลือกตัวเก่งของแต่ละเซคเตอร์ครับ
เช่นถ้าวันนี้เราสนใจหุ้นกลุ่มธนาคารเราไม่ควรจะกว้านซื้อทั้ง KBANK TISCO SCB TCAP BBL ฯลฯ แต่เราควรจะเลือกตัวเดียวที่ดีที่สุดในเซคเตอร์ไปเลย
เพราะการซื้อหุ้นกลุ่ม ธนาคาร หลายตัวไม่ได้แปลว่าเรากระจายความเสี่ยงแล้วนะครับ ลองนึกดูว่าถ้ามีข่าวร้ายเกี่ยวกับ ธนาคาร ขึ้นมา พอร์ตที่มีแต่หุ้นธนาคารของคุณแดงเถือกแน่
แต่กลับกัน ถ้าพอร์ตเรามีหุ้นกลุ่ม ธนาคาร น้ำมัน ค้าปลีก โรงพยาบาล ผสมกันไปโดยเราคัดหุ้นที่พื้นฐานดีที่สุด 1 ตัวในแต่ละเซคเตอร์
แม้วันนี้จะมีข่าวร้ายเกี่ยวกับ ธนาคาร เกิดขึ้นแต่หุ้นเซคเตอร์อื่นในพอร์ตก็จะช่วยพยุงผลตอบแทนเอาไว้ได้ครับ
สำหรับผมเอง ถ้าอยากลงทุนหุ้นเป็นจำนวนมากผมจะใช้ 'กองทุนรวมหุ้น' แทนครับ เพราะเราจะมีผู้จัดการกองทุนคอยปรับหุ้นในพอร์ตให้เราโดยอัตโนมัติ รวมถึงกองทุนจะมีตัวเลือกที่หลากหลายเช่น SET100 SET50 SECTOR
แลกกับค่าธรรมเนียมซึ่งถือว่าไม่แพง ย่อมดีกว่าเล่นเองแบบไม่มีความรู้แล้วเจ็บตัวแน่นอน
ส่วนหุ้นรายตัว ผมโฟกัสการทำผลตอบแทนให้ชนะตลาดหุ้นครับ โดยเลือกหุ้นจำนวน 4-8 ตัวแบ่งตามเซคเตอร์ที่คัดมาแล้วว่าน่าจะเติบโตรวดเร็วและมีอนาคตแน่ (ไม่งั้นที่ลงแรงไปก็ไม่คุ้ม)
อย่างไรก็ตาม เกณฑ์ข้างต้นก็เป็นสิ่งที่ตัวผมทำเพียงเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าถูกหรือผิดนะครับ เผื่อมีใครที่ตัดสินใจอยากเข้ามาสู่โลกของการลงทุนแล้วได้อ่านบทความนี้เป็นแนวทาง และนำไปใช้ประโยชน์บ้างผมก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ท้ายสุด หุ้นที่ปรากฏในบทความไม่ได้เป็นการชี้นำใดๆ ทั้งสิ้น และหากบทความนี้ทำให้ผู้อ่านท่านใดไม่สบายใจ ผมขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตตาไม่ดีแต่อย่างไร ขอบพระคุณครับ
#พ่อบ้านลงทุน
References และครูผู้มอบแนวคิด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา