13 มิ.ย. 2020 เวลา 01:36 • กีฬา
The 30th SEA Games Philippines 2019
30 NOV to 11 DEC 2019
"We win as one"
The 30th SEA Games Philippines 2019 "We win as one"
ว่าจะไม่เขียนถึงซีเกมส์ฟิลิปปินส์แต่ก็อดไม่ได้ ขอบันทึกไว้นิดนึงเถอะกับความทรงจำและประทับใจในครั้งนี้
ครั้งนี้มาเป็นแพทย์ประจำทีมวอลเล่ย์บอลทั้งชายและหญิงในการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ครั้งที่30 ฟิลิปปินส์2019
ปัญหาคือเจ้าภาพจัดการแข่งขันขึ้นในหลายเมืองมีศูนย์กลางอยู่ที่เมือง New Clark City แต่วอลเล่ย์บอลจัดแข่งที่กรุงมะนิลา การจัดกระจายหลายเมืองทำให้การจัดบริการทางการแพทย์ต้องจัดแบบกระจายกันออกไป และผมแทบจะไม่ได้พบหน้าหมอคนอื่นเลย
อ.ปิง ธวัชชัย ประจำเมือง Subic
@Subic Philippines
อ.กิ๊ฟ อรรถสิทธิ์ ประจำเมือง South Luzon City
@South Luzon City Philippines
อ.ฉกาจ อยู่ที่กรุงมนิลา
@Manila Philippines
อ.โป๊ป ธรรมโรจน์ ประจำเมือง New Clark City ศูนย์กลางการแข่งขันในครั้งนี้ครับ
@New Clark City Philippines
ผมเดินทางไปฟิลิปปินส์พร้อมทีมวอลลเล่ย์บอลชาย
เช้า 30 พฤษจิกายน 2562 เวลา0745น.
ไปฟิลิปปินส์ ซีเกมส์
ทีมวอลเลย์บอลชาย
ขณะเครื่องบินเคลื่อนไปเตรียมตัว take off มีเรื่องตื่นเต้นนิดหน่อย คุณยายชาวฟิลิปปินส์อายุประมาณ60+ปี ลุกขึ้นมาเดินจะไปหากระเป๋า เดือดร้อน ผดส.ที่นั่งอยู่ข้างๆ และ cabin crew ต้องมาจัดการ กันยกใหญ่ทั้งปลอบทั้งขู่ ฯลฯ จนสามารถจัดการให้นั่ง และ take off ได้อย่างเรียบร้อย
สรุปแกบอกว่าจะไปดูกระเป๋าที่ load ไว้ว่าอยู่มั้ยแกกลัวมันหาย
แต่ผมว่าแกคงกลัวเพราะเดินทางคนเดียว
The Philippines from Above
ถึงสนามบินนานาชาตินินอยอาคิโน่ มะนิลา ฟิลิปปินส์ 11.55นเวลาประเทศฟิลิปปินส์ ใช้เวลาเดินทาง3ชั่วโมง พร้อมกับรับทราบข่าวพายุไต้ฝุ่นจะเข้าฟิลิปปินส์ในอีก2-3วันข้างหน้า
ส่วนทีมหญิงเดินทาง1 ธันวาคม 2562
ที่ มะนิลา อุณหภูมิ 31-34 C. มีเมฆมาก ความชื้นสูง อากาศหนาแน่น แต่ยังไม่มีฝน
เรารอกระเป๋าแล้วมารอรถและรับสาย AD card ทำใจอยู่แล้วว่าต้องรอนานหลายชั่วโมงอย่างที่เป็นข่าว พวกเราส่วนใหญ่นั่งล้อมวงและเริ่มแกะเสบียงข้าวเหนียวหมูทอดที่ติดตัวมาจากบ้านออกมากินกัน แต่ผิดคาด รอไม่ถึงชั่วโมงรถก็พร้อมมารับไปโรงแรมที่พัก เลยต้องขึ้นรถบัส
ระยะทางสนามบินถึงรร.ประมาณ 12 กม. ใช้เวลา ชั่วโมงกว่าๆ ระหว่างทางดูบ้านเมืองที่พักอาศัยมีทั้ง หรูหราไฮโซและสลัมสลับกันไป โดยรวมๆก็ดูโทรมๆ บรรยากาศวุ่นวายสมกับเป็นเมืองหลวง การจราจรอันคับคั่ง ติดขัด เสียงบีบแตรดังตลอดเวลา
เราเข้าพักที่ Holiday Inn Galleria Ortigas และไปแข่งที่สนาม Phil-Sports Arena ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก นั่งรถบัสโดยมีรถตำรวจนำทางก็ใช้เวลา 15-30นาที
มาถึงโรงแรมวันแรกก็ปาเข้าไป3โมงเย็น กว่าจะเข้าที่พักจัดวางอุปกรณ์ LASER Class 4 ที่ยืมมาใช้งาน จัดยาลงในลิ้นชักโต๊ะวางให้เป็นหมวดหมู่ เข็มฝังเข็ม สำลี แอลกอฮอร์ และที่ทิ้งเข็ม
แบ่งยาส่วนหนึ่งใส่กระเป๋าประจำตัว เป็นยาและอุปกรณ์ที่คิดว่าต้องใช้ทันทีเมื่อมีการขอหรือเกิดเหตุจำเป็น
อุปกรณ์ก็ได้แก่ชุดปฐมพยาบาล เซ็ตทำแผล น้ำเกลือล้างแผล พลาสเตอร์ปิดแผล น้ำตาเทียม นักกีฬามักมีปัญหาตาแห้งแสงไฟเพดานจ้าทำให้แสบตา หรือใส่คอนแทคเลนส์ตอนแข่งอาจจะหลุด ถ้าไม่ได้เตรียมน้ำยาแช่ไปใช้ต้องล้างและใส่กลับไปใหม่ ฯลฯ
กว่าจะเสร็จก็ 18:00น. ลงมาทานข้าว 30นาที ขึ้นห้องพัก ผมพักชั้น 26 ห้อง 2613 พักคนเดียว นักกีฬาจะพักห้องละสองคน สำหรับหมอเขาคงอยากให้มีพื้นที่ทำการรักษาการบาดเจ็บได้สะดวกเลยให้พักคนเดียว
LASER Class4
ปัญหามันมาเกิดกับผมตอนนี้แหละครับยังไม่ได้เล่าให้ใครฟัง จนถึงเดี๋ยวนี้ หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็ขึ้นห้องพัก จัดแจงอะไรอีกเล็กน้อย นอนอ่านหนังสือบนเตียง สักพักเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้
รู้สึกตัวขึ้นมาขยับแขนขาไม่ได้เหมือนมีใครมากดทับไว้ ความรู้สึกเหมือนฝันไป พอลืมตาขึ้นก็เห็นรูปร่างเหมือนคนแต่เป็นเงาดำๆมาทับอยู่บนตัวผม
สภาพห้องพัก ห้อง 2613
ผมคิดในใจว่าเอาแล้วงานนี้โดนผีอำเข้าให้แล้ว ปกติก่อนนอนจะสวดมนต์แต่วันนี้เหนื่อยมากเผลอหลับไปไม่ได้สวด สงสัยเลยเจอลองดี
จากนั้นผมก็เลยท่องนะโมสามจบ มันยังไม่ไปแฮะ สงสัยฟังไม่รู้เรื่อง ผมเลยเปลี่ยนใหม่ใช้บทแผ่เมตตาส่งกระแสจิตอุทิศส่วนกุศลให้เขาไป สักพักเริ่มคลายจากการกด
 
ผมจึงผลักเขาออกแล้วห่างแล้วกระชากเหวี่ยงทุ่มเขาไปกองที่มุมห้อง จากนั้นเขาหายตัวไป
ผมนั่งเหงื่อแตกอยู่บนเตียง นั่งนึก ตายห่าต้องอยู่ห้องนี้อีกตั้ง10วัน สักพักคิดได้ว่า พระอาจารย์ที่เรานับถือเคยสอนว่า ถ้าเจอแบบนี้เขาคงอยากให้เราช่วยอะไรบางอย่าง ให้แผ่ส่วนกุศลให้ อย่าไปสวดมนต์บทไล่ผีเพราะจะทำให้เขาโกรธมากขึ้นอาจก่อกวนเราได้
คนกับวิญญาญอยู่กันคนละโลกอยู่แล้ว อยู่ซ้อนทับกันได้ เป็นบางเวลา คิดได้ดังนั้น ก็สบายใจขึ้น เดินไปอาบน้ำ แล้วกลับมานอน
คราวนี้ไม่ลืมสวดมนต์แผ่เมตตา ให้เขาอีก ก็หลับได้ดี นะครับ ต่อมาผมสวดมนต์ และแผ่เมตตาให้เขาแทบทุกคืนเขาก็มายืนอยู่ปลายเตียง และวนเวียนไปมาอยู่สามสี่วันแล้วไม่มาให้เห็นอีกเลย
เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับเล่าให้ฟังเฉยๆ อย่าหาว่าผมงมงายนะ ทำอะไรแล้วสบายใจไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไป
แต่ผมไม่ได้เล่าให้นักกีฬาฟัง และไม่ได้ขอเปลี่ยนห้อง(ไม่น่าจะทำได้ฮ่าๆ)
เพราะกลัวว่าพวกเขาฟังแล้วอาจจะกลัวจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและอาจมีปัญหากับการแข่งขันตามมาได้
ตอนค่ำวันนนั้นก็มีพิธีเปิดซีเกมส์อย่างเป็นทางการแล้วครับที่ New Clark City ธงไทยโบกสะบัดฟิลิปปินส์ เปิดซีเกมส์เรียบร้อยแล้วอย่างเป็นทางการ
(แต่ผมไม่ได้ดูเพราะหลับและโดนผีอำอยู่ ฮ่าๆๆ)
พิธีเปิดซีเกมส์อย่างเป็นทางการ
ก่อนอื่นเรามาดู background ของฟิลิปปินส์กันก่อนนะครับ
เป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก
ประกอบด้วยเกาะ 7,641 เกาะ
มีประชากร 100 ล้านคน
GDP โต 7%
รายได้ส่วนใหญ่มาจากการใช้แรงงานต่างประเทศและธุรกิจบริการ call center ที่ใช้ภาษาอังกฤษ
ที่นี่มีศิลปินนักร้องมากมาย
ผู้คนร้องเพลงเพราะและเล่นดนตรีเก่ง
ร้านอาหารฟาสฟู้ดชื่อดังของตัวเองเป็นคู่แข่งของ McDonal คือ Jolly-B. ในร้านมีเมนูข้าวเสริฟ
Jolly-B
อาหารการกินเหมือนเมืองไทย แต่รสจืดกว่า ไม่ไม่เผ็ดไม่จัดจ้าน
สนามแข่งที่กรุง มะนิลา มีส่วนแยกของ Thai house ที่คอยดูแลนักกีฬาตั้งอยู่ที่ รร.ดุสิตธานีในเมือง Makati ซึ่งซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจาก รร.ที่ผมพักมากนัก เดินทางโดย Grab ก็ 20-30นาทีถึง Makati City เป็นย่านไฮโซ ของมะนิลา ซึ่งเทียบได้กับแถวสยาม ชื่อเมือง "มากาติ"นี้มีที่มาขำๆอยู่นะครับเดี๋ยวเล่าให้ฟัง
Thai house โดย กกท. ดูแลโดย พี่เงาะ พยาบาล หน.งานตรวจรักษาฯ กกท.
ชื่อเมือง Makati เกิดจากการสื่อสารผิดพลาดตอนที่ชาวสเปนเข้ามายึดครองเป็นอาณานิคม ทหารสเปนไปถามชาวบ้านว่าที่นี่ชื่ออะไร ชาวบ้านคนนั้นฟังไม่รู้เรื่องแต่แกกำลังคันตามเนื้อตามตัวเพราะแพ้อะไรสักอย่างอยู่ และกำลังเกาอย่างเมามัน พร้อมกับพูดออกมาว่า Makati
Makati City Manila
ซึ่ง Makati ซึ่งภาษาTagalogแปลว่าคัน (Makati = itchy) ตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นชื่อเมืองนี้โดยปริยาย
ส่วนความหมายของชื่อเมือง Manila คือท้องฟ้าอันแสนงดงามครับ (Manila = beautiful sky)
ฟิลิปปินส์ถูกสเปนครอบครองเป็นเวลานานกว่า 330 ปี
95% ของประชากร 100 ล้านคนนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
มีการนับถืออิสลามที่เกาะ Mindanao ในเกาะ Luzon ที่กรุงมะนิลาตั้งอยู่มีมุสลิมประมาณ 2-3%
ส่วนพุทธ ประมาณ1% แทบไม่มีเลย พบเฉพาะย่าน china town
เคยได้ยินมาว่า ปกติคนฟิลิปปิโน เวลาพักเที่ยงจะนอนกลางวันเปิดทำการอีกทีบ่ายสอง แต่มาครั้งนี้ไม่เห็นกิจกรรมนอนกลางวันแบบนี้เลยนะครับ
ว่าด้วยเรื่อง Jeepney รถสองแถวของฟิลิปปินส์
มาจาก Jeep กับ Knee (หัวเข่า) เนื่องจากสมัยก่อนผู้โดยสารต้องนั่งสองฝั่งแต่พื้นที่ค่อนข้างแคบจนหัวเข่าชนหัวเข่า
Jeepney กำเนิดมาจากการที่ทหารอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ใช้ฟิลิปปินส์เป็นฐานที่มั่นในสงครามแปซิฟิก
เมื่อสงครามยุติลงในปี ค.ศ. 1945 ก็ได้ทิ้งรถจี๊ปซึ่งเป็นพาหนะสำคัญที่ใช้ในสงครามไว้เป็นจำนวนมาก จึงมีผู้นำมาดัดแปลงต่อขยายออกไปเป็นรถโดยสารสองแถว😁
Jeepney รถสองแถวของฟิลิปปินส์
Jeepney รถสองแถวของฟิลิปปินส์
ซึ่งปัจจุบันรถเหล่านั้นก็ได้ ผุพังสูญสลายไปหมดแล้ว ที่เราเห็นวิ่งกันในเมืองมะนิลาจึงเป็นรถที่ทำขึ้นมาใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในมะนิลาได้แก่ Dr.Rizal Hero park เป็นวีรบุรุษของฟิลิปปินส์ ผู้นำต่อต้านสเปน , Malaganyang palace อดีตพระราชวัง ปัจจุบันใช้เป็นบ้านพักประธานานธิบดี, Intramuros เป็นกลุ่มเมืองเก่าที่สร้างโดยสเปน แปลว่าเมืองในรั้ว ตึกแบบสไตน์สเปนแบบอานานิคม ในลาตินอเมริกา
มีโบสถ์ใหญ่ๆ แบบ Spanish church 12 โบสถ์ ทั่วกรุงมะนิลา โดยมี Augustinians Church อายุ กว่า 400+ ปี ใน Intramuros ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น world heritage building
Casa Manila the museum เป็นคฤหาสของพ่อค้าสเปนที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณที่สเปนยึดครองและเคยเป็นสมบัติของตระกูลมากอส ที่ถูกยึดมาเป็นของชาติภายหลังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์
Casa Manila the museum รูปเก่าจากการมาเที่ยวครั้งก่อนครับ คราวนี้ผมไม่ได้ไปไหนเลย
ตามมาด้วย Fort Santiago ป้อมปราการริมแม่น้ำมะนิลาที่สเปนสร้างขึ้น ด้านในมีคุกใต้ดินใช้คุมขังนักโทษ รวมถึง Dr. Rizal Jose (Ophthalmologist, the hero of Philippine against Spanish for freedom by his book ,Triumph of death) ถูกตัดสินประหารด้วยการตัดคอที่คุกแห่งนี้
ก่อนถูกประหาร 45 นาที คู่หมั้นของท่านได้มาขอให้จัดพิธีแต่งงานเป็นคำขอสุดท้าย และท่านได้ทำพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นในสถานที่แห่งนี้ มีการจำลองก้าวย่างแห่งความตายจากแท่นพิธีแต่งงานทำเป็นรอยเท้าของ Dr. Rizal เดินไปสู่แท่นประหาร หลังจากนั้นเกิดการลุกฮือของประชาชนต่อต้านสเปนกันทั้งประเทศแต่ทว่า
1898 ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและสเปน ส่งผลให้เกิดสงครามระหว่างสองชาติที่เรียกว่า Spainish – American War สเปนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จึงต้องยก ฟิลิปปินส์ ให้อเมริกา
ในช่วงปี ค.ศ. 1899 – 1913 เมื่อสหรัฐเข้ายึดครองฟิลิปปินส์แทนที่สเปนได้สำเร็จ ก็เกิดการกบฏต่อต้านโดยชาวฟิลิปปินส์(Philippine – American War) เป็นสงครามที่ยาวนานถึง 14 ปี
ในระยะต่อมา สถานะของฟิลิปปินส์ได้ปรับเปลี่ยนเพราะในปี ค.ศ. 1935 ฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในเครือจักรภพของสหรัฐ และมีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองมากขึ้น
Fort Santiago (ไม่ได้ถ่ายเองเครดิตภาพจาก internet)
Fort Santiago อันนี้ถ่ายเอง
Dr. Rizal Jose (Ophthalmologist, the hero of Philippine against Spanish for freedom by his book ,Triumph of death)
มาถึงอาหารการกินบ้าง อาหารประจำชาติ Bacalao/Bacalhau เป็นปลาค็อดตากแห้งปรุงรส อันนี้กินกับข้าวต้มตอนเช้าแทบทุกวัน เค็มมาก
Bacalao/Bacalhau
Lechon หมูหันฟิลิปปินส์ หมูย่างทั้งตัวที่ขึ้นชื่อมากในฟิลิปปินส์ถือเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติและเป็นเมนูยอดนิยมของทุกๆคน โดยหมูหันนี้เป็นสไตล์สเปนปรุงด้วยเครื่องเทศ เกลือ กระเทียม ต้นหอม จากนั้น เอาไปย่างให้เป็นสีเหลืองทอง กลิ่นหอมเมื่อกัดเข้าไป จะสัมผัสได้ถึงความกรอบถึงหนังหมู เนื้อหมูนั้นนุ่มชุ่มฉ่ำรสชาติเค็มพอดี เมื่อทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยแบบลงตัวที่สุด
อันนี้ไม่ได้กิน หมอปิงที่เมือง Subic ได้ชิมแล้วแต่บอกว่าถ้ามีน้ำจิ้มแบบไทยๆจะแจ่มกว่านี้
Lechon หมูหันฟิลิปปินส์
Adobo พะโล้แบบฟิลิปปินส์ หมู, ไก่, เนื้อ อันนี้ที่ห้องอาหารมีให้กินกับข้าวแทบทุกวันมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น
อาหารฟิลิปปินส์จานนี้มีต้นกำเนิดมาจากภาคเหนือของฟิลิปปินส์ หน้าตาคล้ายๆกับพะโล้แบบจีนแต่มีการปรุงรสให้เปรี้ยวด้วยน้ำส้มสายชู วิธีการทำ ใช้เนื้อหมูหรือไก่ ผ่านกรรมวิธีการหมักและปรุงรสโดย โซยุ ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู เพิ่มความหอมโดยการใส่ กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดย การอบหรือเคี่ยวไฟอ่อนจนเนื้อเปื่อย รับประทานกับข้าว สวยร้อนๆ
Adobo พะโล้แบบฟิลิปปินส์
Itlog na Maalat (Filipino Style Salted Egg) ไข่เค็ม ฟิลิปปินส์ เปลือกสีม่วง(สีย้อมจากสมุนไพรบางชนิด) ทำมาจากไข่ไก่เค็มเหมือนไข่เค็มบ้านเรานั่นแหล่ะ แต่บ้านเราทำจากไข่เป็ด กินกับข้าวต้มแทบทุกเช้า
Itlog na Maalat (Filipino Style Salted Egg) ไข่เค็ม ฟิลิปปินส์
แล้วก็มี อาหารทะเลสดๆ ไร้น้ำจิ้ม (เขาไม่นิยมกินกับน้ำจิ้มแบบไทยเขาบอกว่าทำให้เสียรสชาติของอาหารทะเล ผมบอกได้เลยว่าคุณคิดผิด ฮ่าๆๆๆ)
น้ำมะพร้าว หอมหวาน และน้ำมะม่วงเหลือง(สุก)หวานแหลม
หอมเปรี้ยวอมหวานสำหรับน้ำมะม่วงเขียว(ดิบ) และสัปปะรด หวานฉ่ำ
ฟิลิปปินส์ มีศิลปการต่อสู้ประจำชาติ เรียกว่า Arnis , Eskrima หรือ Kali เป็นศิลปะการต่อสู้ด้วยไม้กระบองสั้นที่ควงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการใช้มีดสั้นในการต่อสู้ ซึ่งกองทัพสเปน 300ปีก่อน ได้รู้ซึ้งมาแล้วว่าเก่งขนาดไหนในการยกพลขึ้นบกที่เซบู
Eskrima stick ที่ผมซื้อมาฝึกหลายปีก่อน
Eskrima stick กระบองสั้นขนาด1เมตร ทำจากไม้เนื้อแข็ง Ebony wood ตีได้แรงไม่แตกหักง่าย ซีเกมส์คราวนี้เขาว่าเจ้าภาพจัดแข่งArnisไป30เหรียญทองซึ่งน่าจะจริงดังว่า ทำให้เหรียญเจ้าภาพพุ่งทยานอย่างมากในช่วงแรกๆ
มาพูดถึงการจัดกีฬาซีเกมส์กันบ้างส่วนตัวคิดว่าสนามกีฬาจัดได้ดีมากๆสนามแข่งสองสามวันที่ไปซ้อมแรกๆยังไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่แต่พอวันแข่งจริงกลับทำได้ดีมาก ขนาดความจุ 10,000คน แอร์เย็นเฉียบจนถึงขั้นหนาว
Phil Sports Arena
การรักษาความปลอดภัยระดับดี มีตำรวจสองคนประจำทุกๆ100เมตรรอบๆโรงแรมที่พักนักกีฬาอาหารที่พักและการเดินทางระดับพอใช้แต่ให้อภัยได้
การเอาเปรียบ(โกง)จากเจ้าภาพถือว่าน้อยกว่าครั้งที่ผ่านมาไม่ค่อยมีข่าวการโกงแบบด้านๆ หรืออาจจะเป็นเพราะ ความแนบเนียนก็เป็นไปได้ เจ้าภาพใช้วิธีการเพิ่มเหรียญจากกีฬาที่ตนเองได้เปรียบแทน
กีฬาหลายอย่างบ้านเราไม่ได้เล่นก็ถือว่าโดยรวม OK
1/12/19 ทีมวอลเลย์ชายไปซ้อมที่สนามแข่งขัน ซึ่งกำลังจัดแต่งกันอยู่ ยังมีกลิ่นสี และภายนอกพึ่งปูหญ้า
Medical Room ประจำสนามแข่ง ยังโล่งๆ สีพึ่งแห้งยังมีกลิ่นอยู่เลย
Medical Room
พอกลับมา รร. ทานมื้อเที่ยงเสร็จ ทำ LASER ให้นักกีฬาที่มีอาการบาดเจ็บ
LASER Therapy
ประมาณ 1500น. ทีมหญิงก็มาถึง และ ตอนเย็นมี SEA Games Volleyball Technical Meeting
SEA Games Volleyball Technical Meeting
การแข่งขันวอลเลย์บอล เริ่ม 2/12/19-10/12/19 เริ่มด้วยทีมชาย
วอลเล่ย์บอลทีมชาติไทย
วันต่อไปก็ทีมหญิง สลับกันไป พอจบรอบแรก ก็มีวันพัก จนจบถึงรอบชิง
บรรยากาศการแข่งขัน
บุ๋มบิ๋ม จอมแย่งซีน
เราเจอกับ ไต้ฝุ่น Kammuri ในวันที่ 3/12/19 ลมแรงฝนตกหนัก ท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลาประกาศปิดทำการชั่วคราว1 วัน ทำให้สายการบินไทยปรระกาศเลื่อนเวลาทำการบินสู่มะนิลา 4 เที่ยวบิน โดยพายุเข้าสู่จังหวัดซอร์โซกอน ทางใต้สุดของเกาะลูซอน ความเร็วลมสูงสุดที่
175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเร็วลมกระโชก 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สตอร์มเซิร์จสูงสุด 3 เมตร ฟิลิปปินส์อพยพประชาชนกว่า200,000 คน หนีพายุไต้ฝุ่นคัมมูริที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าภาคกลางของฟิลิปปินส์
ไต้ฝุ่น Kammuri
ไต้ฝุ่น Kammuri และความเสียหาย
ส่งผลให้เที่ยวบินของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ไทยที่ร่วมการแข่งขันซีเกมส์ต้องเลื่อนออกไป 6 ชนิดกีฬา คือ กรีฑา, เทเบิลเทนนิส, เวคบอร์ด และกระโดดน้ำ ขณะที่นักกีฬาเนตบอลและบาสเกตบอลซึ่งมีโปรแกรมเดินทางกลับไทยก็ต้องเลื่อนการเดินทางเช่นกัน
4/12/19 ส่งไต้ฝุ่น Kammuri ออกทะเลไปแล้วครับเย้ๆ🤣😁
กิจวัตรประจำวัน ออกไปประจำทีมแข่งแทบทุกวัน ตอนค่ำกลับมาโรงแรมที่พักก็ ทำการตรวจรักษา ให้ยา ส่งทำกายภาพ ทำLASER เอง หรือ ฝังเข็มคลายจุดปวดให้นักกีฬา กว่าจะได้เข้านอนก็ประมาณเที่ยงคืนทุกวัน
และในวันนี้ 4/12/19 หลังพายุผ่านพ้นไป มีกิจกรรมที่ประทับใจอีกอย่างคือรับน้องซีเกมส์ของนักกีฬาวอลเล่ย์บอลที่สนุกสนาน เป้าหมายเพื่อความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันซึ่งทำทุกครั้งที่มาแข่งซีเกมส์
กิจกรรมรับน้องซีเกมส์วอลเล่ย์บอล😁 บอกได้เลยว่าห้างแทบแตก Muah! Mabuhay
กิจกรรมรับน้องซีเกมส์วอลเล่ย์บอล😁
บอกได้เลยว่าห้างแทบแตก
Muah! Mabuhay
พาน้องมาซื้อชานมไข่มุกกลางห้างดัง Robinsons galleria manila🤣
เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสที่ต้องผูกแขนเด็กๆ
Muah! Mabuhay
วอลเล่ย์บอลไทยปีนี้ก็ได้เหรียญทองมาหนึ่งเหรียญ และเหรียญทองแดงมา1เหรียญ คงทราบข่าวกันแล้ว
ผมอยากให้มองว่ากีฬามีแพ้มีชนะกันเป็นเรื่องธรรมดา อย่าไปเครียดกับมันมากลืมความเสียใจให้ไว เก็บความผิดพลาดเอามาเป็นจุดที่ผลักดันให้เราพัฒนาต่อไปให้เก่งกว่าเดิม
เหรียญทอง
เหรียญทอง
เหรียญทอง
เหรียญทอง
เหรียญทองแดง
เหรียญทองแดง
ปีนี้เจ้าภาพจัด 56 ชนิดกีฬา 530 events (น่าจะหมายถึงจำนวนเหรียญทองด้วย)
ปีนี้ไทยหวังแค่ 100-121 เหรียญทอง แต่ไม่ได้ตามเป้า
ซีเกมส์ กลายเป็นซีโกง ทุกๆครั้งที่มีการจัด เสน่ห์ของมันเริ่มเลือนหายไม่ได้อยู่ที่ใครทำอยู่ที่เรา ASEAN Nation
😥
11 วันในมะนิลา ซีเกมส์ ที่ได้เจอหมอคนอื่นน้อยมากๆเหมือนมาอยู่โดดเดี่ยว แทบไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากห้องพัก สนามแข่ง
สรุป SEA Games 2019 ที่ฟิลิปปินส์ มีเรื่องตื่นเต้นเยอะเลยครับ
พายุไต้ฝุ่น Kammuri
พายุไต้ฝุ่น Kammuri
พายุไต้ฝุ่น Kammuri เข้ากระหน่ำจนต้องปรับแผนการแข่งขัน และยกเลิกบางรายการ สภาพที่พักที่โดนฝนสาดและพัดข้าวของกระจัดกระจาย ลมแรงมากๆๆๆๆๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในเมืองไทย (ดีแล้วที่ประเทศเราไม่มีแบบนี้)
มองจากห้องพักนักกีฬา ที่เห็นอยู่กลางทะเลคือ ภูเขาไฟ "ทาอัล" ภาพโดยพี่กิ๊ฟ อรรถสิทธิ์
หลังกลับจากฟิลิปปินส์ได้ไม่กี่วัน ภูเขาไฟ "ทาอัล" ก็ระเบิด ซึ่งที่พักนักกีฬาหลายอย่าง เช่น จักรยาน สเกตบอร์ด ที่อยู่ในจังหวัด "ตะกายไต" ตั้งอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟ มองเห็นหลุมที่ข้างในเต็มไปด้วยปากปล่องภูเขาไฟชัดเจน โชคดีที่กลับมาก่อน
ภูเขาไฟ "ทาอัล" ระเบิด
อีกเรื่องคือ โควิดระบาดจนต้องเลื่อน ASEAN para games หลายหน สุดท้ายเจ้าภาพประกาศยกเลิก ASEAN para games (มีข่าวว่าเจ้าภาพถังแตก จ้องหาเหตุผลจะไม่จัดอยู่แล้วครับ)
การเดินทาง พบปะผู้คนทำให้เรา
มีตาที่มองโลกกว้างขึ้น
มีหัวใจที่เข้าใจตัวเองมากขึ้น
เข้าใจผู้คนมากขึ้น
Pa- AR - lum : Good bye
โฆษณา