12 มิ.ย. 2020 เวลา 14:09 • ความคิดเห็น
วิเคราะห์ อนาคตของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเดียว ฮ่องกงคืนสู่อ้อมอกมาตุภูมิเป็นเวลา 23 ปีแล้วนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ปี 1997 อนาคตของฮ่องกงจะเป็นอย่างไรเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ
อย่างที่ทุกท่านทราบกันแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2019 เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงโดยกลุ่มคนบางกลุ่มและยืดเยื้อมาจนถึงปี 2020 และปะทุขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในขณะที่การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนกำลังพิจารณามติยกร่างกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกง นักวิชาการ ประชาชนทั่วไปต่างได้แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นานาต่อสถานการณ์และอนาคตฮ่องกง
ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องการออกกฎหมายความมั่นคงฯ เป็นสิ่งที่มีความถูกต้องแล้ว ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน ดังนั้นรัฐบาลกลางออกกฎหมายความมั่นคงเพื่อคุ้มครองความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นอำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาล การออกกฎหมายดังกล่าวเป็นการปฏิบัติตามหลักนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบ ไม่ว่าในประเทศใดก็ตาม ความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาลส่วนกลาง
1
ส่วนกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติ เช่นอัตราภาษีทางธุรกิจ เป็นต้น จะเป็นเรื่องของท้องถิ่น มติยกร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากชาวฮ่องกงเป็นอย่างดี ชาวฮ่องกงต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ต้องการสังคมที่สงบสุข ต้องการค้าขาย ต้องการนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกไปท่องเที่ยวและซื้อของที่ฮ่องกงดังที่เคยเป็น
มีผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาเห็นว่าฮ่องกงในเวลานี้ที่มีความขัดแย้งไปเรื่อย ๆ ก็จะกระทบไปถึงเศรษฐกิจโดยเฉพาะกับจุดแข็งของเขาเรื่องการเป็นศูนย์กลางการเงินมานาน ซึ่งเมื่อฮ่องกงสะดุดก็จะทำให้เข้าทางสิงคโปร์ แต่จีนคงไม่ยอมปล่อยให้เกิดขึ้นและพยายามสร้างศูนย์กลางการเงินให้อยู่ที่จีน
ซึ่งมีความสอดคล้องกับนักวิชาที่ให้ความคิดเห็นว่าสำหรับจีนนาทีนี้ทั้งปริมาณคาร์โก หรือมูลค่าการขนส่งสินค้า ท่าเรือที่เซินเจิ้นก็แซงฮ่องกงไปแล้ว หรือขนาดจีดีพี เซินเจิ้นก็แซงฮ่องกงไปแล้ว ไปจนถึงสำนักงานใหญ่ของสถาบันการเงินจำนวนมาก ไปตั้งอยู่เซินเจิ้น นอกจากเซินเจิ้นยังแล้วยังมีไห่หนาน (ไหหลำ) และอีกหลายพื้นที่ซึ่งเปิดกว้างพร้อมเป็นคู่แข่งของฮ่องกง ดังนั้น
จะเห็นได้ว่าความวุ่นวายหรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงจะไม่เป็นผลดีต่อฮ่องกง การที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติผ่านมติยกร่างกฎหมายความมั่นคงเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคง ปลอดภัยแก่ชาวฮ่องกง เพื่อรักษาความเจริญรุ่งเรืองเศรษฐกิจการค้า ศูนย์กลางการเงินต่อไป
1
“หนึ่งประเทศสองระบบ” เป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ของจีน เป็นแนวความคิดใหม่และแผนงานใหม่ในการแก้ไขปัญหาที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันของสังคมโลก ถือว่าเป็นคุณูปการใหม่อันเกิดจากการตกผลึกของภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่และความหลากหลายของชนชาติจีนที่มีต่อการพัฒนาอย่างสันติของโลก
แม้ฮ่องกงจะมีพื้นฐานดี แต่ขณะนี้โครงสร้างเศรษฐกิจทั่วโลกมีการปรับเปลี่ยน การแข่งขันระหว่างประเทศดุเดือดมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ฮ่องกงก็เผชิญกับความท้าทายอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันฮ่องกงก็มีโอกาสใหม่ กล่าวคือ รัฐบาลกลางได้วางแผนพัฒนาเชิงพื้นที่อ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า หรือ Guangdong -Hong kong-Macao Greater Bay Area) เป็นหนึ่งในโครงการยุทธศาสตร์ตามแนวคิด One Belt, One Road ของจีน
โครงการดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจีนตอนใต้คือ มณฑลกวางตุ้ง เขตปกครองพิเศษฮ่องกงและมาเก๊าโดยในเขตมณฑลกวางตุ้งครอบคลุม 9 พื้นที่ได้แก่ นครกว่างโจว เมืองเซินเจิ้น เมืองจูไห่ เมืองฝอซาน เมืองหุ้ยโจว เมืองตงกวน เมืองจงซาน เมืองเจียงเหมินและเมืองจ้าวชิ่ง โครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการบูรณาการหรือผนึกกำลังเพื่อให้ฮ่องกงมีพลังใหม่ในการขับเคลื่อนต่อไป ไม่ว่าการพัฒนาปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้นหรืออภิมหานคร Xiong’an มณฑลไห่หนานก็ดีไม่สามารถมาทดแทนบทบาทของฮ่องกงได้ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการเงิน ศูนย์กลางการค้าและศูนย์กลางโลจิสติกส์
2
โฆษณา