14 มิ.ย. 2020 เวลา 05:10 • ท่องเที่ยว
ประสบการณ์ 101 วันฟ้าหม่นฝนซาที่ ไต้หวัน
ตอนที่ 5 เดินตลาดกลางคืนครั้งแรก
หัวใจมันร่ำร้องหาของจะกินแล้ว....
หลังจากที่คราวก่อน พวกเรานิ่งสงัดไปกับบรรยากาศอันน่าทึ่งของการทำวัดเย็นกันไปแล้ว ในที่สุด ท้องของพวกเราก็เรียกร้องให้ต้องออกเดินหาของกินกันสักทีครับ แน่นอนว่า ประเทศไต้หวันนั้น มีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่โจทย์จันไปทั่วสยามว่า ถ้ามาที่นี่ ยังไงก็ต้องไปยังสถานที่เหล่านี้ให้ได้ สถานที่ที่ว่าก็คือ ตลาดกลางคืน นั่นเอง!!
แถววัดหลงซานมีตลาดกลางคืนที่ขายเฉพาะอาหารแบบ Street Food ล้วนๆ อยู๋หนึ่งที่ถ้วนครับ ตลาดแห่งนี้มีชื่อว่า Taipei Huaxi Street Tourist Night Market ครับ
ป้ายตลาดที่อยู่กลางทาง ขณะที่ต้นทางเป็น Street Food
ทีเด็ดของที่นี่คือมีร้านภัตตาคารขายซุปงู ที่มีงูให้ดูเลื้อยกันสดๆ อยู๋หน้าร้านเลยทีเดียว แต่ก็นะ ผมยังไม่พร้อมรับความแปลกในระดับที่จะกินงูเหลือมทองอะไรขนาดนั้น
บรรยากาศที่นี่คึกคักน่าดูเลยครับ ผมเห็นความมีชีวิตชีวาลอยละล่องไปทั่วตลาดความยาวไม่มากแห่งนี้ ผู้คนเดินกันขวักไขว่ สรวลเสเฮฮาไปกับบรรดาอาหารในมือบ้าง บนโต๊ะบ้าง เป็นความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าที่น่าทึ่งดี
สิ่งที่ผมได้ลิ้มรสลองชิมเป็นอย่างแรกคือ ลูกชิ้นปลาทอดที่มีไข่ต้มซ่อนอยู่ข้างใน คือเป็นของที่อร่อยเด็ดต้องโดนจริงๆ ครับ หน้าตาร้านอาจจะดูบ้านๆ แถมตัวลูกชิ้นก็หงิกงอไม่สวยงาม แต่ใครจะไปคาดคิดว่า มันเป็นลูกชิ้นที่อร่อยมากๆ คือไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยเด็ดดวงจนต้องขอซื้อไม้ที่สองอย่างไวเลยหล่ะครับ
ลูกชิ้นปลาไส้ไข่ต้ม ของดีต้องโดน!!
เราเดินกันไปอีกหน่อยก็ไปเจอะกับร้านขายโอเด้งครับ ซุปโอเด้งพร้อมลูกชิ้นสารพัดแบบใส่มาในถ้วยสีเหลือง อันนี้ออกจะเฉยๆ แต่อากาศแบบนี้ บรรยากาศฝนที่เพิ่งจากไปแบบนี้ มันต้องซุปแบบนี้แหละ ถึงจะถูกต้อง!!! (ถึงน้ำซุปนี่มันจะเป็น น้ำล้างผักชัดๆ ก็เถ๊อะ)
โอเด้งร้อนๆ ในวันฝนตกครับ
ของแปลกอีกอย่างที่ได้ลิ้มรสคือ ข้าวกรอก ครับ คือเป็นข้าวกรอกใส่ถุงที่เหมือนไส้หมู แบบเดียวกับที่ทำไส้กรอก แล้วนำไปต้ม ตัดเป็นชิ้นๆ ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ อันนี้ต้องบอกว่า เฉยๆ ออกไปทางผิดหวังครับ เพราะรสชาติไม่ได้เท่าไหร่แฮะ แต่เอาเถอะ ช่วงนั้นหิวจัด สุดท้ายก็ไม่เหลือสักชิ้น
ข้าวกรอก ของแปลกตา รสชาติแปลกใจ
เดินไปเดินมาได้ไม่เท่าไหร่ ไปเจอกับสิ่งนี้ครับ ปลาหมึกย่าง นั่นเอง แต่ไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ด การกินปลาหมึกย่างโรยผงปาปริก้าเลยเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเป็นที่สุด!!
ปลาหมึกย่างน่ากินมากๆ ครับ แต่ทำใจไม่ได้จริงๆ กับผงปาปริก้า
มาถึงของฝืดคออย่างสุดท้าย ท้ายสุดของถนนกันครับ มันก็คือ เค้กข้าวนั่นเอง รสชาติหวานอ่อนๆ แต่ฝืดคอชนิดที่ถามหาน้ำ แต่น้ำไม่มี ก็เลยได้แต่ยืนคอเป็นผงกินกันแบบอดยากปากแห้งกันไปครับ
เค้กข้าว ของฝืดคอที่สุดถนน
สุดถนนแล้ว แต่พุงมันยังสั่งให้เดินหาต่อไป….
ผมมองไปรายรอบของสถานที่ สัมผัสได้ถึงความเป็นสถานที่แบบ Tourist จ๋าๆ มากๆ เสมือนเป็นทัวร์จีนมาลงตลาดนัดรถไฟรัชดาก็ไม่ปาน ผมรู้สึกว่า มันควรมีตลาดที่มีความ Local กว่านี้สิ ว่าแล้วผมก็กูเกิ้ลกับคุณตำรวจ และไปพบเข้ากับ ตลาดที่มีชื่อว่า Raohe Street Night Market ซึ่งมีสะพานสายรุ้งหรือ Rainbow Bridge อยู่ใกล้ๆ กันด้วย จิ้ม Direction เสร็จ เราก็ไม่คิดอะไรอีกต่อไป ออกเดินทางกันไปยังสะพานสายรุ้งกัน!!!
ในใจคิดเอาไว้แล้วว่า สะพานจะต้องมี 7 สี แต่มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ นะเหรอ?
โฆษณา