23 มิ.ย. 2020 เวลา 01:08
Fact-Checkers คือเครื่องมือของพวกยิวไซออนิสต์:
ผมเคยเตือนท่านแล้วว่าคำว่า Conspiracy Theory นั้น เดิมทีไม่ได้แพร่หลายอะไรนัก แต่มาแพร่หลายเพราะพวกซีไอเอมองเห็นว่ามีคนรู้ทันแผนการของพวกตนเยอะขึ้น เช่น การวางแผนล้มรัฐบาลโน้นรัฐบาลนี้ จึงทำให้คำนี้แพร่หลายออกมา
เวลามีคนแฉอาชญากรรมที่พวกตนทำ ก็จะบอกว่าแผนการต่างๆ นั้นเป็นแค่ *ทฤษฎีสมคบคิด* (Conspiracy Thoery) ไม่ใช่เรื่องจริง คนไม่รู้ที่มาที่ไป อ่านข่าว ก็พลอยนำคำนี้ไปใช้อย่างแพร่หลายไปด้วย
แม้แต่วิกิพีเดีย ถ้าพูดถึงดินฟ้าอากาศ ก็พอฟังได้ครับ แต่พอพูดถึงการเมืองระหว่างประเทศก็เชื่อถือไม่ได้เพราะแหล่งอ้างอิงมีแต่สำนักข่าวสื่อกระแสหลักที่ซีไอเอคุมอยู่ทั้งนั้น จะสามัคคีกันเขียนให้เกาหลีเหนือ เวเนซุเอล่า อิหร่าน รัสเซียและจีนเลวและตนดูดียังไงก็ได้
อ่านดูครับ กฎ ๔ ข้อในการอ่านข่าว
อีกกลุ่มหนึ่งที่ควรรู้คือเวปไซต์แนว Fact-Checkers ครับ ผมเคยบอกผ่านๆ แล้วว่าเวปไซต์เหล่านี้ตั้งขึ้นมาเพื่อลวงคนอ่านข่าวให้หลงทาง คนสร้างขึ้นมาเป็นทีมที่เคยทำข่าวที่สำนักข่าว CNN โดยปรกติ สำนักข่าวสื่อกระแสหลักของอเมริกานั้นจะสกัดมิให้ใครรายงานข่าวอาชญากรรมในประเทศต่างๆ ที่ตนเองไปทำ คนที่พยายามแฉจึงต้องไปสร้างสำนักข่าวหรือบล็อกหรือเวปไซต์ใหม่เพื่อแฉขึ้นมา
เวลาเราอ่านข่าวเจอชาตินักล่าอาณานิคมก่อคดีอาชญากรรมสงครามที่โน่นที่นี่เพราะมีคนแฉออกมา เราก็อยากตรวจสอบว่าเป็นข่าวจริงหรือเท็จ ถ้าไปเช็คกับเวปไซต์ Fact-Checkers เวปไซต์เหล่านี้ก็จะบอกว่าเท็จ ทำให้คนหลายๆ คนหลงกลมาแล้ว
ยกตัวอย่างเช่นข่าวซึ่งมีบางเวปไซต์ลงเนื้อหาว่า 'บิลล์ เกตส์พูดถึงวัคซีนว่าจะช่วยลดประชากรโลกลง' ไปตรวจสอบกับเวปไซต์ Fact-Checkers ก็จะปฏิเสธว่าบิลล์ เกตส์ไม่ได้พูด แต่ความจริง บิลล์ พูดไว้เป็นคลิปด้วยซ้ำครับ ถ้าค้นหาดีๆ ก็จะพบ ผมเคยตรวจสอบค้นมาแล้วหลายเรื่อง
มารู้ทีหลังว่าทีมที่ทำเวปไซต์ Fact-Checkers แท้จริงแล้ว เคยทำงานที่ CNN ซึ่งเป็นสำนักข่าวของพวกยิวไซออนิสต์ทั้งดุ้น
@ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
โฆษณา