26 มิ.ย. 2020 เวลา 15:06 • ธุรกิจ
The World Bank Outlook 2050 - Strategic Direction
โลกของเราในปี 2050 ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับอะไรบ้าง?
บทความนี้จะพาเพื่อนๆนึกท่องเวลาไปอีก 30 ปีข้างหน้ากันน
โดย บริษัท World Bank Group สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อายุ 75 ปี จากอเมริกาได้ทำบทความทางวิชาการออกมาเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของโลกเราในปี 2050
และเราจะมาย่อยให้เพื่อนๆอ่านกัน :)
World Bank ได้บอกว่า การมาของโรคภัย Covid-19 เป็นสัญญานการเตือนภัยที่ดี และทำให้มนุษย์เราเริ่มขยับปรับตัวกันไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่
โดย World Bank ยังมีการสนับสนุนการมองภาพระยะไกล หรือ Long-term climate
ใช้แล้วเจ้า Climate นี้แหละกว้างมาก พวกปรากฏการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Green house gases, ที่เคยถูกพูดถึงเมื่อหลายสิบปีก่อน หรือ Poverty ความยากจน หรือ โรคภัยอย่าง Covid-19 ที่ทุกอย่างเหล่านี้ถูกจับตามองโดย World Bank
ซึ่ง World Bank ได้นิยาม Long-term Strategic Direction ที่โลกต้องเตรียมรับมือสำหรับ 2050 เอาไว้ 4 อย่างหลักๆ ซึ่งก็คืออออ (ชื่อแต่ละข้อจะยาวหน่อยนะ แต่เดี๋ยวสรุปให้จ้า)
1. Embed long-term climate priorities in country Macroeconomic frameworks
- คือการหันกลับมามองเศรษฐศาสตร์ระดับมหภาค การกำหนดนโยบายทางเศรษกิจใหม่ การใช้ดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ภาษี และรวมถึงการจ้างงาน
- ซึ่งเป็นการกลับมามองภาพใหญ่ของระดับประเทศ แทนการมองแบบ Microeconomic แบบรายกลุ่ม รายย่อย หรือ รายบุคคล อย่าง Covid ที่ผ่านมาก็สอนให้เรามองภาพแบบ Macro ทีชัดเจนอย่างมาก เช่น การ Work from home, การหยุดการเดินทาง การปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สอดคล้องกับข้อจำกัดการใช้ชีวิต
2. Embed long-term climate planning in National budgets and Expenditure frameworks
- แน่นอนว่าเราพูดถึงภาพใหญ่ๆที่เป็นระดับประเทศแล้ว การมองเรื่องงบประมาณและค่าช้จ่ายต่างๆ จะกลับมาเป็นที่จับตามองกันมากๆ พวก Public resource, private financial flow คือแน่นอนละว่า ถ้าเป็นการเมืองตอนนี้......อาจจะไม่สู้ดีนัก
3. Embed long-term climate objectives in financial sector regulations and incentives
- Financial sector ในทีนี้เค้าจะพูดถึง Financial Risk เป็นสำคัญน้า คือ World bank เค้าเชื่อว่าปรากฏการณ์เปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมถึงสงครามที่กำลังจะตามมาในอนาคต จะทำให้ตลาดการเงินของโลก สั่นคลอน มีความเสี่ยง นักลงทุนไม่กล้าลงทุน รวมถึงการเงินระดับประเทศหลายๆที่ก็จะไม่มั่นคง
- โดยเฉพาะ World Bank ที่ต้องเตรียมการรับมือไว้ ตัวอย่างเช่นมีการจัดตั้ง The Financial Sector Assessment Programs ที่ร่วมมือกับ International Monetary Fund หรือ IMF
4. Embed long-term climate objectives in systems planning
- โดย World Bank ได้มองเอาไว้หลักๆ 2 เรื่อง คือ economic growth, social inclusion
โดยทั้งนี้ World Bank ได้ทำการวิเคราะห์โอกาสทางเศรษฐกิจออกมา 8 ข้อ (Opportunities to advance develop)
1. Transforming food systems
- food production and supply systems ก็จะเปลี่ยนไป คือถ้ามองภาพกว้างงงๆ เลยนะ การที่สภาพของโลกเรา หรือสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป วงจรวัตถุดิบทางอาหารต่างๆ ย่อมมีการเติบโตช้า หรือ สิ่งมีชีวิตบางอย่างในอีก 50 ปีข้างหน้า อาจสูญพันธ์ หรือ ขยายพันธ์ต่อไม่ได้ แน่นอนว่ากระทบเรื่องของวงการอาหาร และการผลิตอาหารอย่างแน่นอน
2. Protecting land-based ecosystems and carbon sinks
- ทุกวันนี้เราอาจจะมอง COVID เป็นภัยคุกคามใหญ่ จนเราอาจจะมองข้ามเรื่องราวของecosystem, ป่าไม้ ค่าคาร์บอนของโลกเราไป
- ป่าไม้เริ่มน้อยลงทุกวัน ภาวะโลกร้อนทำให้เกิดไฟป่า หรือไหนจะการกระทำของมนุษย์อีกนะ โอย...แค่ 2020 ออสเตรเลีย หรือ เชียงใหม่ ก็ย่ำแย่แล้ว นึกถึงปี 2050 ไม่ไหวเลย
3. Transforming energy systems
- ลดการใช้คาร์บอน และหันมาใช้พลังงานไฟฟ้า พลังงานทดแทนแทน คือจริงๆจะบอกว่าใน รายงาน 95 หน้า (ซึ่งเราก็ไม่ได้อ่านหมดเพราะศัพท์วิชาการเยอะมาก แต่อ่านแบบ Skim read จับใจความเอา) เราเห็นเค้าพูดเรื่อง Carbon emission, synergy, electric energy บ่อยมากๆๆๆ
- แค่ทุกวันนี้ รถยนต์ยังหันมาแข่งขันเรื่องการผลิตรถไฟฟ้าเลยยย
4. Transforming mobility
- สิ่งที่ทำให้โลกเราต้องรับมือภัยธรรมชาติที่แย่ลง ก็มาจากการ คมนาคม ขนส่ง เดินทางพวกเรานี้แหละ การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ก็ส่งผลกระทบมากๆกับชั้นบรรยากาศโลก
- แต่ด้วย Covid ที่ผ่านมา เลยทำให้ประชากรโลกเห็นได้ว่า การลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นเนี่ย เป็นไปได้ :) (แต่เราก็ไม่สามารถอยู่บ้านได้ตลอดเวลาเหมือนกัน T^T)
5. Building low-carbon, more resilient urban areas
- ความหมายเดียวกับกับข้อ 4 แต่เปลี่ยนสาเหตุของการกระทำน้าา
- เค้าจะเน้นเรื่องของคุณภาพชีวิตในเมือง ทีมีการผลิตสารเคมี หรือพวกอุตสาหกรรมที่ปล่อยของเสียทำลายโลก
- World Bank ได้สนับสนุนไอเดียที่สร้างเหมือน resilience ในหลายๆธุรกิจที่ปล่อยของเสียต่างๆ ให้หันมามองโอกาสทางด้าน Digital มากขึ้น
6. Transforming Water systems
- ข้อนี้ไม่ต้องพูดเยอะเลย เพราะสิ่งที่เกิดจาก ข้อ 5 เนี่ย นำมาซึ่งปัญหาและมลภาวะทางน้ำ
1
7. Transforming the Ocean economy
- สิ่งที่กระทบยิ่งใหญ่ไปมากกว่า Water ก็คือ Ocean ซึ่งคือปัจจัยสำคัญของการลดของ Green House Gas emissions
- การประมง การขนส่งทางเรือ การท่องเที่ยว Coastal economy โอโห้ พูดไปพูดมานี้ ใกล้ตัวกว่าที่คิด(ไว้ก่อนอ่าน) ซะอีกนะ
8. Digital transformation
- เราว่าข้อนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดถึงการเปลี่ยนแปลงในปี 2020
- โดย World Bank เค้าไม่ได้มองว่า ต้องเตรียมรับมือกับ Covid อะไรแบบนี้นะ เพราะนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ แต่เค้ามองเรื่องของการ หยุดมลพิษ และลดของเสียต่างๆ จากการะกระทำของมนุษย์ได้ และยังทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นได้ดีด้วย ในเวลาเดียวกัน
จบแล้วเพื่อนๆ เขียนไปเขียนมาเหมือนพูดเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพของโลกเราซะมากกว่าเนอะ ซึ่ง ถ้าเรามองที่ MACRO แล้วอะเพื่อนๆ มันจะไม่ใช่เรื่องของการเงินโดยตรง เรื่องหุ้น เรื่องการเมืองระหว่าง 2-3 ประเทศ
แต่มันคือผลประทบอย่างยิ่งใหญ่ เช่น ก๊าชเรือนกระจกกับชั้นบรรยากาศโลกที่ผ่านมา, เหตุการณ์ไฟป่า ที่เหล่านี้พวกเราเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่สิ่งที่สำคัญคือระยะเวลาที่มันเกิดเนี่ย ยาวนานมากกว่า
กว่ามนุษย์จะรู้ตัวในอีก 30 ปีข้างหน้า หวังว่าคงไม่สายไป ...... :)
โฆษณา