15 ส.ค. 2020 เวลา 00:15
จุดจบของคนร้ายฆ่าข่มขืนถูกตีตายกลางศาล...
อัคกู ยาดาฟ ลงมือข่มขืนผู้หญิงเกือบ 200 คน ที่ย่านสลัมในประเทศอินเดียมานานนับสิบปี แต่หลังจากที่เหยื่อถูกกดขี่ทางเพศมาหลายปีพวกเธอก็ได้แก้แค้นเอาคืนอย่างสาสม...
อัคกู ยาดาฟ คือใคร... ?
อัคกู ยาดาฟ วัย 32 ปี เติบโตมาในย่านสลัมที่อยู่นอกเมืองของรัฐมหาราษฏระ พ่อมีอาชีพเป็นคนส่งนม พอโตขึ้นก็เริ่มเข้าสู่วงการนักเลงหัวไม้สะสมบารมีจนกระทั่งตั้งแก๊งค์เป็นของตัวเอง
2
อัคกูหากินในย่านสลัมที่กรุงนิวเดลีด้วยการปล้นขู่กรรโชกทรัพย์ ลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ และข่มขืนผู้หญิง โดยที่เจ้าหน้าที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพราะถูกเขาติดสินบน อัคกูมักจะใข้วิธีข่มขืนผู้หญิงในบ้านที่ไปปล้นเพื่อปิดปากมากกว่าการฆ่าให้ตาย โดยเขาเริ่มก่อเหตุครั้งแรกในปี 1991
ก่อนหน้านี้ อัคกู ยาดาฟ คิดว่าไม่มีใครจะมาแตะต้องเขาได้ เพราะว่าติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการก่อเหตุทุกครั้ง มีรายงานว่าเขาได้ฆ่าคนตายอย่างน้อยสามรายโดยเหยื่อที่เขาเลือกคือ หญิงที่อยู่ในวรรณะจัณฑาลซึ่งเป็นวรรณะที่ต่ำต้อยที่สุดในอินเดีย นั่นเป็นเพราะเมื่อเกิดเหตุหญิงเหล่านี้ไปร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ก็จะถูกหัวเราะและเย้ยหยันกลับมา ไม่ให้ความสนใจ
5
จนกระทั่งวันที่ 13 สิงหาคม 2004 เมื่อทนถูกรังแกไม่ไหวกลุ่มผู้หญิงจำนวนเกือบ 200 คน ได้พากันมุ่งไปที่บ้านของอัคกูพร้อมกับรุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้น โดยผู้หญิงในกลุ่มล้วนแต่เป็นเหยื่อที่ถูกเขาข่มขืน
พวกเธออ้างว่าเขาลงมือข่มขืนผู้หญิงหลายคน โดยเหยื่อที่ถูกข่มขืนล้วนแต่อาศัยอยู่ในสลัม ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวว่า เขามักจะก่อเหตุโดยให้ลูกน้องคอยจับตัวผู้ชายในบ้านเอาไว้แล้วลงมือข่มขืน แม้กระทั่งเด็กหญิง 12 ปี เขาก็ไม่เว้น
ที่ผ่านมามีผู้หญิงหลายสิบคนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกยาดาฟข่มขืน แต่กลับถูกหัวเราะเยาะและไล่ออกมา สาเหตุเพราะอัคกูติดสินบนเจ้าหน้าที่มาหลายปีและทุกครั้งที่มีผู้หญิงมาแจ้งความตำรวจก็จะไปเตือนเขา ซึ่งต่อมาอัคกูก็จะไปหาพวกเธอพร้อมกับข่มขู่ว่าจะสาดน้ำกรดใส่และลงมือข่มขืนซ้ำ รวมไปถึงขู่จะทำร้ายสมาชิกในครอบครัวของพวกเธออีกด้วย ทำให้ในที่สุดเรื่องก็เงียบไป
2
อัชชาร์ นารายานี หนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกอัคกูข่มขืนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับน้องเขย แต่ครั้งนี้เธอตรงไปหารองผู้บัญชาการเพื่อร้องเรียนโดยตรง ซึ่งรองฯได้ให้ความมัานใจว่าเธอจะปลอดภัยและจะให้ตำรวจจะไปนำตัวอัคกูมาสอบสวน
คืนนั้น... บ้านของอัคกูถูกทุบทำลายกลายเป็นซากปรักหักพังจากเพื่อนบ้านและชาวเมืองที่โกรธแค้น ทำให้ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะยอมมอบตัวเพราะมั่นใจว่าตัวเองจะปลอดภัยและไม่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากที่ผ่านมาติดสินบนให้กับเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้การรับรองว่า เขามีความปลอดภัยกว่าผู้เสียหายซะอีก (กำ... 😑)
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เขามอบตัวก็ถูกนำตัวไปขึ้นศาล ทางด้านนารายานีและผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ติดตามคดีดังกล่าวได้ยินข่าวว่าเขามีแนวโน้มที่จะได้รับการประกันตัว ก็คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อไม่ให้คนชั่วลอยนวล
1
พวกเธอจึงระดมคนพร้อมกับอาวุธที่หาได้ในตอนนั้น ได้แก่ มีด ผัก หิน และพริกป่น ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแต่เคยตกเป็นเหยื่อของอัคกู ผู้หญิงจำนวนเกือบ 200 คนแห่ไปที่ศาลเพื่อจะคัดค้านการประกันตัว
2
ต่อมาขณะที่อัคกูเดินผ่านพวกเธอเพื่อไปยังห้องพิจารณาคดี เขาก็ได้แสดงอาการเย้ยหยันผู้หญิงคนหนึ่งโดยเรียกเธอว่า #นังโสเภณี และขู่ว่าถ้าเขาออกไปจะข่มขืนเธออีกครั้ง มาถึงตรงนี้ตำรวจรวมถึงอัคกูพากันหัวเราะด้วยความตลกขบขัน
1
มันเจ็บปวดราวกับโดนข่มขืนอีกครั้ง ทำให้พวกเธอเกิดความรู้สึกอย่างเดียวกันว่า ในเมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ให้ความยุติธรรมพวกเธอก็จะลงโทษอัคกูด้วยตัวเอง
...“พวกเรากับเขาไม่สามารถอยู่ร่วมโลกด้วยกันได้”...
ผู้หญิงที่เขาสบประมาทกล่าวทั้งน้ำตา
...“ไม่เขาก็ฉันต้องตายจากกันไปข้างนึง”...
1
จากนั้นเธอเริ่มพุ่งเข้าตีเขาด้วยรองเท้าแตะของตัวเอง ภายในเวลาไม่กี่วินาทีผู้หญิงคนอื่นๆ ก็เข้ามาสมทบกับเธอ ด้วยการโรยผงพริกลงบนใบหน้า บางคนก็โยนก้อนหินใส่หัว คนที่มีมีดก็แทงเข้าที่ร่างของอัคกู ทุกคนต่างลงมือโดยไม่ได้นัดหมายด้วยความโกรธแค้น
ด้านเจ้าหน้าที่ได้หนีไปเพราะกลัวจะถูกลูกหลง พวกผู้หญิงรุมตีและทำร้ายอัคกูอยู่อย่างนั้นเป็นเวลากว่าสิบนาที พร้อมทั้งใช้มีดแทงเขาไม่ยั้งกว่า 70 ครั้ง ผู้หญิงคนหนึ่งถึงกับตัดอวัยวะเพศของเขาออกมาเลยทีเดียว
...“มันเหนือการควบคุม”... นารายานีกล่าว
...“นี่มันไม่ใช่การที่เราทุกคนนั่งลงและวางแผนอย่างใจเย็นว่าจะทำอะไรกับเขาบ้าง แต่ความอดทนของพวกเรามันถึงขีดสุด นาทีนั้นพวกเราต่างยอมที่จะติดคุก แต่คนเลวคนนี้จะต้องไม่กลับมาข่มขู่และข่มขืนพวกเราได้อีก”...
สิบห้านาทีต่อมาอัคกูก็เสียชีวิตลง ร่างของเขาอยู่ในสภาพที่แทบจะจำไม่ได้ ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดรวมไปถึงกองอยู่ที่พื้นจำนวนมาก
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้หญิง 5 คนในข้อหาฆ่าคนตาย และอีก 21 คนถูกตั้งข้อหาก่อความวุ่นวาย
ต่อมาในปี 2012 พวกเธอได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากขาดพยานหลักฐาน.
จากการลงมือด้วยความแค้นของเหยื่อที่ถูกข่มขืนกว่า 200 ร้อยคนมันทำให้รู้สึกว่า #คนบางคน ก็ควรชดใช้ด้วยชีวิตจริงๆ
การข่มขืนมันก็คือฝันร้ายของผู้หญิง ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานซักแค่ไหนแผลมันก็ยังคงอยู่ ถึงแม้ว่าจะพยายามกดมันให้ลึกสุดใจ แต่คนที่โดนกระทำก็ไม่มีวันลืม...
เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม
By... ❤️แอดมิ้นท์❤️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา