Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
แคร่ไม้ใต้ต้นระกำ
•
ติดตาม
22 ส.ค. 2020 เวลา 14:08 • นิยาย เรื่องสั้น
ให้เหงื่อมันไหลล้างตา
ค่ายของเรามีสมาชิกมาเพิ่มในเช้าวันหนึ่ง
กีตาร์ถูกเล่นโดยนักดนตรีหน้าใหม่ เสียงกีตาร์ฟังแน่นกว่าพวกเราทุกคนที่ผลัดกันบรรเลงมาหลายวันก่อนหน้า
พี่เหนียวเรียนจบไปหลายปีแล้ว พวกเราเรียกพี่บัณฑิต
พี่ติ่งขับรถเข้าไปรับที่สถานีรถไฟตั้งแต่เช้า กลับมาทันเวลาร้องเพลงค่ายก่อนกินข้าวพอดี
พี่บัณฑิตเหนียวมาออกค่ายกับพวกเราเสมอๆ
ผมรู้สึกทึ่ง และนึกสงสัย
อะไรที่ทำให้คนที่จบไปแล้ว ยังมาออกค่ายอีก
....
อาคารเรียนหลังเดียวของโรงเรียนขนาดหกห้อง ใช้ในการเรียนการสอนทั้งหมด
ค่ายอาสาฯครั้งนี้จึงมีความมุ่งหมายที่จะสร้างห้องสมุดให้ได้ใช้ประโยชน์
"The more that you read, the more things you will know.
The more that you learn, the more places you'll go."
"ยิ่งเธออ่านมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้เยอะมากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งเธอเรียนรู้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสถานที่ที่เธอจะไปมากขึ้นเท่านั้น"
ผมเคยอ่านเจอในหนังสือของ Dr.Seuss
วัสดุก่อสร้างถูกขนมาเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนที่เราจะมาถึง
อิฐ หิน ปูน ทราย เหล็กเส้น
งบประมาณสำหรับการก่อสร้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆของการออกค่ายฯ ส่วนหนึ่งมาจากงบประมาณกิจการของนิสิตประจำปีที่จัดสรรให้กับชมรมต่างๆของคณะ
อีกส่วนก็มาจากกิจกรรมของชมรมเพื่อหารายได้มาสมทบ
งานปริญญาก็จัดขบวนกันไปบูมให้พี่บัณฑิต
ขอสปอนเซอร์จากบริษัทห้างร้านต่างๆ แล้วก็นำมาลงโฆษณาบนสมุดเลคเชอร์ที่ทำขายเป็นการทั่วไป ซึ่งจะขายดีมากในช่วงแรกพบรับน้องตอนต้นปีการศึกษา
อีกส่วนที่ผมรู้จากเพื่อนๆที่อยู่ชมรมค่ายฯ ก็คือการไปเป็นสตาฟซุ้มมหาวิทยาลัยในงานกาชาดประชุมปี มหาวิทยาลัยจ่ายค่าจ้างเป็นรายวัน นิสิตก็เอาเงินส่วนนั้นรวบรวมไว้ เพื่อใช้ในการออกค่ายฯ
ฟังดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผม
จะว่าไป ผมก็ไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากนักหรอก
ผมไม่ได้มาด้วยความเสียสละ หรืออุดมการณ์
ผมหนีรักมา
วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะได้ทำอะไรที่เหมือนกับการออกค่ายฯ ที่ผมเคยเห็นเสียที หลังจากเป็นสวก เป็นชาวบ้าน
โครงงาน
ผมรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย เมื่อไม่เห็นหน้าแก่นๆ ตาดุๆ ผมสีแดงอยู่ในกลุ่มโครงงานวันนี้ด้วย
คนที่ถูกจัดให้อยู่โครงงานมีทั้งชาวค่ายผู้หญิงและผู้ชาย นอกจากพวกเราก็จะมีชาวบ้านมาทำงานก่อสร้างด้วยทุกวัน
แน่นอนล่ะ พวกเราไม่มีใครเป็นช่างก่อสร้างสักคนเดียว จำเป็นที่จะต้องมีช่างตัวจริงที่สามารถสร้างห้องสมุดให้สำเร็จได้ ความร่วมมือระหว่างชาวค่ายฯ กับชาวบ้านจึงมีความสำคัญ
แต่สำหรับคนที่โตมากับครอบครัวผู้รับเหมาก่อสร้างอย่างผม งานนี้น่าจะเหมาะที่สุด
จริงดังคิด
ผมทำงานอย่างหนัก แบกไม้ มัดเหล็ก ผสมปูน เคยช่วยพ่อทำมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จึงทำได้ทะมัดทะแมง ไม่เคอะเขิน
ให้เหงื่อมันออกมาแทนน้ำตา
ก้มหน้าก้มตาทำงานไม่พูดไม่จา ไม่รู้เวลา ไม่หิว
“นี่ เที่ยงแล้ว ห้องสมุดมันไม่เสร็จวันนี้หรอกนะ แต่พี่อาจจะตายก่อน”
ผมเงยหน้าจากการใช้ผลั่วตักทรายเพื่อเตรียมที่จะผสมปูนกระบะต่อไป
“พี่ไม่หิว”
“โอ๊ย คนเหล็ก” น้ำเสียงไม่ใช่การประชด แต่มันคือความหงุดหงิด
ผมเงยหน้าชึ้นมองตรงๆ
ดวงหน้ากลม ผมสั้นสีน้ำตาลแดงธรรมชาติ ผิวขาวอย่างลูกครึ่ง ตากลมโตสีน้ำตาลที่มีไฝเม็ดเล็กๆใต้ตาข้างขวา คิ้วตรงเข้ม ยิ่งทำให้ดูเป็นคน “เอาเรื่อง”
แก้มสีแดงเรื่อจากแดดหรือไม่ก็เพราะกำลังโกรธ
“วันนี้ออกไป สพช. อีกหรือ? ทำไมหน้าแดงๆ”
“เปล่า เราอยู่โครงสอน พาเด็กออกไปเล่นเกมกันกลางแดดโน่น” พูดพลางชี้มือไปทางสนามกว้างใหญ่ฝั่งตรงข้ามอาคารเรียน
“พี่วางจอบเดี๋ยวนี้ ไปกับเรา ไปกินข้าว”
“พี่ยังไม่หิวจริงๆ เดี๋ยวพี่ขนกระบุงนี้ไปเท แล้วพี่จะพัก”
“ตามใจ”
กระแทกเสียงใส่แล้วก็สะบัดก้นเดินหนีไป
ผมทำอย่างที่บอก
วางเครื่องมือ แล้วเดินไปบ้านพักครู
พี่เหนียวนั่งคุยอยู่กับอาจารย์พน พี่พัฒน์
“ว่าไง กินข้าวหรือยัง” พี่พัฒน์เอ่ยถาม
“ไม่หิวครับ”
“พี่ก็เคยเป็น แบบเนี่ยะ สมัยหนุ่มๆ มากินนี่ มีของดีพิเศษ ติ่งไปรับเหนียวเมื่อเช้า เลยได้นี่มา”
ไม่พูดเปล่า เปิดฝาหม้อที่คุมจานใบหนึ่งไว้ออก เผยให้เห็นซี่โครงหมูย่างกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ
ท้องผมร้องโครกขึ้นมาทันที
จริงๆก็หิวแหล่ะ
“ทำไมพี่เหนียวยังมาค่ายอยู่ล่ะครับ จบไปตั้งหลายปีแล้ว” ผมหันไปถามระหว่างกำลังแทะซี่โครง
“มาให้กำลังใจน้องๆ ช่วยอะไรได้ก็จะได้ช่วย”
“ไม่เห็นมีงานอะไรหนักเลยครับ ดูสบายๆ ผิดจากที่ผมคิดไว้เยอะเลย”
“นายคิดไว้ว่ายังไงล่ะ”
“ออกค่ายอาสาจะต้องลำบาก ก่อสร้างอะไรใหญ่โต กินข้าวดิบ ไข่ไหม้ ใช้ตะเกียง นอนกลางดินกินกลางทราย”
“เมื่อก่อนก็คงเป็นอย่างนั้นใช่ไหมอาจารย์พน เมื่อมันไม่จำเป็นต้องลำบากแล้ว จะต้องไปลำบากทำไม แต่ก็จะต้องไม่สบายเกินไป เท่าเท่ากับความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ เรามาค่ายเพื่อพัฒนาพื้นที่ รวมถึงยกระดับจิตใจของเราด้วย ถึงได้ชื่อว่ามาออกค่ายอาสาพัฒนาไง อาสา มาเพื่อพัฒนาทั้งพื้นที่และพัฒนาตัวเอง”
“แล้วพี่เหนียวจะมาค่ายไปถึงเมื่อไรครับ”
“ไม่รู้หรอก มาได้ก็มาเรื่อยๆ แล้วนายล่ะ ค่ายหน้าจะมาอีกไหม”
“ไม่รู้หรอกครับ ค่ายนี้ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะมา”
“มันอกหัก มันหนีรักมา” เสียงพี่ติ่งตะโกนมาจากหลังรถบิ๊กอัพประจำตำแหน่ง
“บางปีพี่ก็ว่าจะไม่มา แต่เชื่อไม๊ คิดถึงค่าย คิดถึงบรรยากาศ ไม่แน่นะ ต่อไปนายอาจจะรู้สึกเหมือนพี่ก็ได้ อาจจะไม่ได้มาค่ายชมรมฯอย่างพี่ นายอาจจะไปทำค่ายอาสาของนายเองก็ได้ เพราะนายคิดถึงการไปค่าย”
ผมไม่เห็นด้วยกับพี่เหนียวเท่าไร
ตอนนี้อย่าว่าแต่อนาคตเลย แม้แต่ปัจจุบันก็ไม่อยู่กับผม
มีแต่อดีตที่ตามหลอกหลอนอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
โปรดติดตามตอนต่อไป
1 บันทึก
15
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องสั้น หนีรักไปค่ายอาสาฯ
1
15
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย