สรุปหนังสือ 1+1 = 3
💁🏼♂️แนวคิดใหม่ๆ = การจัดองค์ประกอบเก่าๆ มาผสมผสานกันในรูปแบบใหม่
ความสามารถในการหารูปแบบใหม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ
คนที่จะมองเห็นความสัมพันธ์ได้เก่ง
ต้องมีประสบการณ์ที่หลากหลาย
ทำให้เชื่อมโยงจุดต่างๆได้เก่ง
สตีฟ จ๊อบ
โดยธรรมชาติแล้ว คนเราจะเรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่ตัวเองสนใจ ทำให้เราใช้สมองได้ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย+ต้องใช้เวลานาน
ถ้าอยากให้สมองใช้งานได้ดีขึ้นอย่างแท้จริง
เราจะต้องระบุสิ่งที่ตัวเองไม่สนใจเลย และลองเรียนรู้มัน
วิธีการพัฒนาสมองแบบเดิม อาจทำให้ได้ผลลัพธ์แบบ 1 + 1 = 2
แต่การพัฒนาสมองด้วยวิธีใหม่ 1 + 1 อาจจะได้เท่ากับ 3 ก็เป็นไปได้
เป็นconcept ของหนังสือเล่มนี้
รวบรวมเรื่องแรงบันดาลใจ
ข้อคิดดี ๆ ความคิดนอกกรอบ
->ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
->ก่อให้เกิดการแก้ปัญหาแบบใหม่ ๆ ที่คาดไม่ถึง
(ผู้เขียนคนเดียวกับหนังสือ เกิดเป็นกระต่ายต้องคิดให้ได้แบบหมาป่า 👉🏻 https://www.blockdit.com/articles/5f4ba29872ee4b0b58e0efcf
นักโฆษณาระดับ Top ของโลก)
แนวคิดใหม่ๆ เกิดจาก การเชื่อมโยงจุดทั้งหลายที่เรามีอยู่ในมือ วิธีคิดแบบใหม่จะทำให้เราได้ผลลัพธ์แบบ 1 + 1 = 3
✅ทำไมหนึ่งบวกหนึ่งถึงเท่ากับสาม
🤔ยิ่งเรารับข้อมูลที่หลากหลายมากเท่าไหร่
การผสมผสานก็จะยิ่งไปไกลเหนือความคาดหมายมากเท่านั้น
แล้วเราก็ได้แนวคิดที่มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
✅การเสียใจภายหลังแย่กว่าการขายหน้า
👉🏻สิ่งที่มีอยู่สำคัญกว่าสิ่งที่ไม่มี
อย่าจมอยู่กับสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ เพราะสิ่งสำคัญคือสิ่งที่คุณทำต่างหาก
👉🏻สิ่งในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ
คนที่ประสบความสำเร็จคิดค้นสิ่งใหม่ๆได้นั้น
บางครั้งเขาไม่ได้มีกลยุทธ์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง
แต่เขามองคนอื่น+ตั้งคำถามว่า
มีอะไรบ้างที่พวกเขายังไม่ได้ทำ
👉🏻ไม่มีสิ่งใดทำร้ายมนุษย์ได้เท่ากับความคิดที่ไร้การควบคุมของเขา
👉🏻คอมพิวเตอร์ไม่ใช่ของดี / เลว
แต่มันไม่มีสมอง
มนุษย์มีสมอง
การคิดไตร่ตรองด้วยเหตุผลและความน่าจะเป็นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า
👉🏻เมื่อคิดอย่างมีเหตุผลและยืนหยัดที่จะป่าวประกาศความคิดของตัวเอง ดีกว่าเสียดายว่าไม่ได้พูดออกไป
👉🏻เราจะเป็นผู้กำหนดเองว่าจะให้คนอื่นจดจำเราแบบไหน
✅การออกแบบทางเลือก
👉🏻การชักจูงให้ใครสักคนทำสิ่งใด
อย่าใช้การบังคับ / ขอร้อง / เซ้าซี้
พวกเขามีอิสระในการเลือก
แต่เราจะทำให้เขาเลือกในสิ่งที่เราต้องการโดยออกแบบทางเลือกให้เขา
👉🏻อย่ายึดติดกับแนวคิดเก่าๆ แก้ปัญหาด้วยวิธีการเดิม ทั้งๆที่มันไม่ได้ผล
เจาะให้ลึกถึงต้นตอ มองปัญหาในมุมใหม่ หาวิธีใหม่
👉🏻เราเคยชินอยู่กับการเปรียบเทียบ
สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อเรา ถ้าเราควบคุม+สร้างสิ่งแวดล้อมได้ เราก็จะควบคุมการตัดสินใจของผู้คนได้
ถ้าแก้วของคนที่นั่งข้าง ๆ มีน้ำอยู่เต็มแก้ว
เราจะมองว่าเรามีน้ำอยู่แค่ครึ่งแก้ว
ถ้าแก้วของคนที่นั่งข้าง ๆ นั้นว่างเปล่า
เราจะมองว่าเรามีน้ำอยู่ตั้งครึ่งแก้ว
👉🏻การอ่านหนังสือคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
👉🏻เราหาข้อสรุปได้ด้วยการระบุสิ่งที่ตัวเองต้องการและกลุ่มเป้าหมาย
(อยากได้สิ่งนั้นจากใคร แล้ว พวกเขาจะได้อะไร)
👉🏻สร้างข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งด้วยการทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้น
👉🏻เปลี่ยนปัญหาที่แก้ไม่ได้ ด้วยเล่ห์เหลี่ยมทางการทูต
✅ยึดมั่นในจิตวัญญาณของกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร
👉🏻เลิกทำงานแบบสุกเอาเผากิน แล้วเริ่มคิดหาวิธีทำงานให้ได้ผลลัพธ์เกินเป้าหมาย
👉🏻เมื่ออัจฉริยะตัวจริงปรากฎตัว
สัญญาณที่อาจช่วยให้คุณระบุตัวเขาได้ก็คือ พวกทึ่มทั้งหลายจะรวมตัวกันต่อต้านเขา
👉🏻อย่ายึดติดกับสิ่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างไม่ลืมหูลืมตา จงเสี่ยงด้วยการคิด
👉🏻เรามักทำตามคนอื่นโดยไม่คิดพิจารณา
แบบพวกมากลากไปนั้นทรงพลังมาก มันอยู่เหนือตรรกะ การตั้งคำถาม การโต้แย้ง การใช้เหตุผล และ สามัญสำนึก
เพราะกลัวการผิดแผกจากคนอื่น การถูกขับไล่ไสส่ง การถูกคว่ำบาตร
จงคิดก่อนที่จะเดินตามคนหมู่มาก
👉🏻 ปัญหาของผู้หญิงเก่งหลายๆคนไม่ใช่การคิด แต่เป็นการคิดมากเกินไป
👉🏻เมื่อใครสักคนที่แนวคิดที่ดี ตอนแรกจะถูกมองข้าม
หากเดินหน้าต่อ จะถูกมองว่าเสียสติหรือเป็นตัวอันตราย
เมื่อแนวคิดนั้นได้รับการยอมรับ ทุกคนก็จะบอกว่าคิดแบบนี้มานานแล้ว
👉🏻อย่าทำสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่จงทำสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดฝันว่าจะเป็นไปได้
👉🏻คุณเลือกได้ว่าจะคว้าสิ่งที่ต้องการมาให้ได้ หรือ จะคิดหาเหตุผลว่าทำไมคุณถึงคว้ามาไม่ได้
✅ข้อความคือสื่อกลาง
👉🏻ถ้าอยากให้คนจดจำสิ่งสำคัญให้ได้
ไม่ว่าจะเป็นคุณครู สุภาพสตรีสูงวัย คนงานก่อสร้าง
อาจารย์มหาวิทยาลัย เด็กๆ หรือทหาร
ต้องพูดกับเขาด้วยภาษาของเขา
👉🏻กลยุทธ์=ได้โฆษณาที่เหมาะสม
การนำเสนอ=ได้โฆษณานั้นยอดเยี่ยม
👉🏻ข้อมูลมากมายจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าคุณไม่รู้วิธีใช้มัน
👉🏻สิ่งสำคัญไม่ใช่อยู่ที่ว่าคุณพูดอะไรเท่านั้น
แต่อยู่ที่ว่าคุณพูดที่ไหนและเมื่อไหร่ด้วย
👉🏻จงอย่าคาดหวังว่าคนอื่นจะตัดสินไอเดียของคุณจากข้อดีของมันล้วน ๆ
คุณต้องวางแผนให้ดีว่า จะต้องทำอย่างไรให้คนเปิดใจพิจารณาไอเดียของคุณอย่างจริงจัง
โดยมองจากมุมมองของพวกเขาและโลกของพวกเขา ไม่ใช่มุมมองของโลกแห่งความเป็นจริง
👉🏻การมีสถิติที่ถูกต้อง กลยุทธ์ที่ดีที่สุด และ การตลาดที่เหมาะสมยังไม่เพียงพอ
คุณต้องมีการนำเสนอที่ดีที่สุดด้วย
👉🏻เราต้องสร้างความเติบโตของตลาด
ไม่ใช่แย่งส่วนแบ่งตลาด
✅หายนำคือของขวัญ
👉🏻หายนะที่แท้จริงแล้ว คือ โอกาสที่ปลอมตัวมา
👉🏻จะทำอย่างไร หากสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามแผน และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้
คือแผนสำรอง คือโอกาส
👉🏻การโฆษณาที่ดีที่สุด ก็คือ ชื่อแบรนด์ของคุณเอง
👉🏻ความโชคดี=การเตรียมพร้อม+โอกาสที่เหมาะเจาะ
👉🏻วินัยไม่ใช่ศัตรูของความคิดสร้างสรรค์
แต่มันส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
👉🏻ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่
การสร้างสิ่งสวยงามเพื่อคว้ารางวัลมาครอง
แต่เป็นการแก้ปัญหาด้วยวิธีแปลกใหม่ที่เหนือความคาดหมาย
“ในเมื่อไม่มีเงิน เราก็ต้องใช้ความคิด”
…วินสตัน เชอร์ชิลล์
👉🏻ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียนควรได้รับการพิจารณาแก้ไข (เมื่อนักเรียนเป็นลูกค้า)
👉🏻ไม่ยึดติดกับการแก้ไขข้อด้อยของตัวเอง
แต่เปลี่ยนมันเป็นจุดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเทียบติด
✅คุณค่าของความไม่รู้
👉🏻ความเชื่อคือสิ่งที่เรายึดมั่นในยามที่เราไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ
ความเชื่อคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราไม่ใช้ความคิด เรายึดติดกับความเชื่อของตัวเราเอง และ เรียกมันว่าระบบ
ระบบทำให้เราไม่ต้องคิด รู้สึกปลอดภัย ทำให้เราติดอยู่กับแนวคิดเก่า ๆ
👉🏻ตามหลักของอากาศพลศาสตร์ผึ้งไม่น่าจะบินได้ แต่มันไม่รู้เรื่องนี้ มันจึงบินต่อไปเรื่อยๆ
👉🏻กับชีวิตที่ต่อสู้มาอย่างเต็มที่
บางครั้งเราก็ต้องยอมแพ้และเลิกพยายาม
ลองเลิกคร่ำเคร่งกับสิ่งที่คุณทำ
แล้วหันมาสนุกกับมันแทน
บางครั้งคำตอบอาจจะรออยู่ตรงนั้น
👉🏻เคล็ดลับของการอ่านใจ คือ การอ่านปฏิกิริยาของคู่แข่ง
การอ่านใจ คือ ความคิดของคู่แข่งต่อสิ่งที่พวกเขามีหรือกระทำ
แต่แท้จริงแล้ว คือ การใช้ข้อเท็จจริง+ความเป็นไปได้ + ข้อมูล (Dunning-Kruger effect)
👉🏻คนที่มั่นใจไม่ใช่คนเก่งเสมอไป
เพราะบ่อยครั้งความมั่นใจ
ก็เกิดจากความไม่รู้ และเข้าใจผิด
👉🏻การสร้างแรงกระตุ้นในสภาวะที่เสียเปรียบเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง
👉🏻เราจะไม่ตั้งคำถามกับสิ่งที่มีคำอธิบายที่ฟังดูน่าเชื่อถือและเป็นเรื่องเฉพาะทาง
ไม่ติดใจสงสัยสิ่งที่ถูกนำเสนอด้วยศัพท์แสงที่ยากจนเราไม่อาจเข้าใจได้
และวางใจว่ามันถูกพัฒนาจากคนที่มีความรู้มากกว่าเรา
👉🏻การกระตุ้นตลาดด้วยเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ กับคู่แข่งคนสำคัญ เพื่อให้คู่แข่งหันมาทุ่มงบประมาณและโฆษณา จะทำให้แบรนด์ของคุณถูกมองว่าเป็นการแข่งขันของผู้นำในสินค้าไปด้วย
✅จงตั้งคำถามกับคำถาม
👉🏻ความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากการพยายามตอบโจทย์ยาก ๆ
แต่เกิดจากการขุดลงไปให้ถึงต้นตอของโจทย์เพื่อหาคำตอบที่ต่างจากเดิม
บ่อยครั้งการตีความโจทย์เสียใหม่ก็ทำให้เราแก้ปัญหาได้
👉🏻การขุดลงไปยังต้นตอ จะสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ไม่อาจแก้ไขได้ให้กลายเป็นสิ่งที่รับมือได้
👉🏻ถ้าอยากประสบความสำเร็จในเรื่องใด ต้องจดจ่ออยู่กับมันเพียงอย่างเดียว อย่างเดียวเท่านั้น
ทำให้เป้าหมายกลายเป็นสิ่งชัดเจน ทรงพลัง และไร้ข้อกังขา โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จจะเพิ่มสูงขึ้น
(แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณ ไม่สามารถทำสิ่งอื่น ๆ ได้เลย)
👉🏻ระบุสิ่งสำคัญที่ต้องการที่สุดให้ชัดเจน
เป็นวิธีที่ได้ผลอย่างยิ่งและเป็นวิธีที่ได้ผลกับโฆษณาทุกชิ้นที่ทำ
สุดท้ายมันทำให้เราได้โฆษณาที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
👉🏻การสำเร็จเพียงเรื่องเดียว
ย่อมดีกว่าการล้มเหลวในหลายๆเรื่อง
(ไม่พยายามยัดสิ่งต่างๆ ลงไป)
👉🏻เปลี่ยนปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้เป็นสิ่งที่รับมือได้
✅ความเชื่อเหนือข้อเท็จจริง
👉🏻คนเราไม่อยากได้สิ่งที่ไม่รู้ว่ามันสำคัญต่อเราอย่างไร
คุณต้องสร้างโจทย์ซึ่งก็คือความต้องการ
ก่อนจะขายคำตอบให้พวกเขา
ทันทีที่พวกเขารู้ว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง
พวกเขาก็อยากได้ทันที
นั่นคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ
หากไม่สามารถสร้างความต้องการได้
คำตอบที่คุณต้องการขายก็จะไร้ค่า
👉🏻ความเป็นแบรนด์ เป็นคุณสมบัติอันล้ำค่า=ความสามารถเฉพาะตัว
หากสูญเสียมันไปคุณจะไม่สามารถขายมันในราคาสูงได้
👉🏻ในช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจ
การโฆษณาคือการโฆษณาตัวสินค้าไม่ใช่แบรนด์
แต่การโฆษณาสินค้าสามารถสร้างแบรนด์ได้
👉🏻สินค้า->สร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้ ประสบการณ์->สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์
ชื่อเสียง->สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
👉🏻ความสงสัยเป็นเครื่องมือทางปรัชญาที่ทรงคุณค่าที่สุด เป็นรากฐานของการรู้แจ้ง
การอธิบายสิ่งต่าง ๆ ด้วยความจริงที่เหมาะสม และ สอดคล้องกับผู้ถาม
“ฉันสงสัย ฉันจึงมีตัวตน” Cogito, ergo sum
👉🏻เราคิดว่าทุกคนเหมือนกับเรา
ถ้าเราสื่อสารโดยคิดว่าทุกคนคิดเหมือนเรา มันก็เป็นได้แค่การคุยกับตัวเอง
👉🏻แทนที่จะบอกว่าคุณเป็นนักแสดงตลก
ทำให้ผมหัวเราะให้ได้จะดีกว่า
👉🏻การสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ด้วยการเขียนที่ง่ายที่สุด ตัดทอนส่วนที่ไม่จำเป็น บอกเล่าให้น้อยที่สุดและปล่อยให้ผู้อ่านใช้จินตนาการแต่งเติมส่วนที่ไม่ได้เอ่ยถึง ซึ่งก็คือส่วนที่อยู่ใต้ผิวน้ำ (ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง)
“การเขียนคืองานสถาปัตยกรรม ไม่ใช่การตกแต่งภายใน”
..เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์
👉🏻ผู้คนมักเลี่ยงที่จะพูดถึงสิ่งที่ทำให้เกิดการโต้เถียง เพียงเพราะกลัวว่ามันจะทำให้เราอึดอัดใจ
การไม่ยอมพูดคุยเกี่ยวกับอะไรสักอย่าง คือ ขั้นแรกของการหยุดคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น
👉🏻จงมองไปในทิศทางที่คนอื่นไม่ได้มอง=โอกาสที่แท้จริง
ความคิดสร้างสรรค์ = จับปลาในมหาสมุทร ไม่ใช่มัวหาปลาในบ่อเล็ก
ต้องมีความมั่นใจ ที่จะแตกต่างหรือโดดเด่นกว่าคนอื่น
หากไม่มั่นใจก็จะเป็นได้แค่ส่วนหนึ่งของกลุ่ม การมองไปในทิศทางเดียวกับคนอื่น ย่อมได้ผลงานเหมือน ๆ กับคนอื่น
✅ความคิดสร้างสรรค์คือความยุ่งเหยิง
👉🏻ความกลัวการสูญเสียนั้นทรงพลังกว่าการคิดถึงสิ่งที่เราจะได้รับ
การนำเสนอขายจากการเปลี่ยน ระบบการคิดแบบที่สอง (การคิดอย่างช้า ๆ ตามหลักเหตุผล) ไปสู่ระบบการคิดแบบที่หนึ่ง (การคิดอย่างรวดเร็วตามอารมณ์ความรู้สึก)
ไม่ว่าจะเป็นการขายใด ความเห็นพ้องคือสิ่งที่จะนำไปสู่การอนุมัติ
👉🏻การสร้างธุรกิจบริการไม่เคยเกิดขึ้น ในการเช่ารถเที่ยวเดียวจากการย้ายบ้าน
👉🏻การเผชิญหน้ากับปัญหาของฉากภาพยนตร์ และ เปลี่ยนมันเป็นโอกาส
👉🏻เราไม่สามารถทำให้สังคมเต็มไปด้วยเรื่องน่าตื่นเต้น มีความหลากหลาย และ สร้างสรรค์ ไปพร้อม ๆ กับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และรสนิยมอันดี
ความคิดสร้างสรรค์เจริญงอกงามจากสถานที่ดูเหมือนจะยุ่งเหยิง
👉🏻ถ้าอยากให้โฆษณาได้รับการยอมรับก็ต้องทำให้มันเป็นเหมือนศัพท์เฉพาะทาง
จงทำให้มันเข้าใจยากจะได้ไม่มีใครสงสัยและโต้แย้ง
การเรียนรู้และท่องจำ ทำให้เราหลงลืมเป้าหมายที่แท้จริง
👉🏻จงสร้างสิ่งที่จะช่วยให้คุณทำเงินได้แม้แต่ตอนที่คุณนอนหลับ
👉🏻พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้เรื่องใดจนกว่าจะค้นพบว่าตัวเองไม่รู้เรื่องนั้นเลย
เพิ่มการพัฒนาตัวเองวันละนิด
เหมือนเติมวันละ 1 องศา
1 วัน อาจจะไม่มีอะไร
10 วันไม่มีความต่าง
แต่ 100 วันล่ะ 1000 วันล่ะ
จะเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบไม่เห็นร่องรอยเดิม
มาร่วมกันหา1องศา เพื่อเติมเต็มวงล้อชีวิตให้สมบูรณ์ไปกับเพจองศาที่หายไป
👍🏻เลื่อนนิ้วโป้งกด Like กด Share ให้จูลสักนิด..เพื่อชีวิตที่มีกำลังใจให้จูลนะคะ..ขอบคุณค่ะ
💎หากชอบบทความ..สามารถมอบเพชรเป็นขวัญและกำลังใจให้จูลได้นะคะ^^
⭐️ติดตามที่ Blockdit
❤️ติดตามที่ Youtube
💙ติดตามที่ Facebook
#1+1=3 #หนังสือ1+1=3 #หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสาม #สรุป #สรุปหนังสือ #รีวิว #welearn #Dave Trott #oneplusonequalsthree #หนังสือแนะนำ #พัฒนาตนเอง #หนังสือพัฒนาตนเอง #Howto #แนะนำ
- 23
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
