31 ส.ค. 2020 เวลา 05:03 • ประวัติศาสตร์
ราชอาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง สิบสองปันนา (๔)
แคว้นสิบสองปันนาภายใต้การปกครองของราชวงศ์ชิง
ในตอนที่แล้วผมเล่าถึงเหตุการณ์ที่กรุงรัตนโกสินทร์เสียสิบสองปันนาให้แก่ราชอาณาจักรต้าชิงจงกว๋อ ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และ จักรพรรดิเต้ากวางแห่งราชวงศ์ชิง
นับเป็นการเสียดินแดนเหนือสุดของสยามและเป็นการเสียครั้งที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์...
แต่ยังเจ็บปวดน้อยกว่ากับการเสียดินแดนครั้งต่อ ๆ มาที่เสียให้กับมหาอำนาจตะวันตกที่เข้ามาเที่ยวปล้นเอาดินแดนของเราชาวเอเชียบูรพา
อาณาจักรสิบสองปันนานับตั้งแต่พญาเจืองหาญต้นราชวงศ์อะละโวสวนต๋าน ถึง เจ้าหม่อมคำลือกษัตริย์องค์สุดท้ายที่ต้องกลายเป็นสามัญชนตามจักรพรรดิปูยีมีจำนวนทั้งหมดถึง ๔๔ รัชกาล
แม้ว่าอาณาจักรสิบสองปันนาต้องไปขึ้นกับราชวงศ์ชิงแล้ว แต่ราชสำนักชิงก็ไม่ได้ส่งข้าหลวงมาบริหารราชการแต่อย่างใด เนื่องจากความวุ่นวายตามเมืองท่าตะวันออกและการทำสงครามฝิ่นกับเกรซบริเทน (อังกฤษ) เพียงแต่สิบสองปันนาต้องส่ง "จิ้นก้ง" - จิ้มก้อง เครื่องราชบรรณาการแก่ราชสำนักชิงส่วนทางกรุงปักกิ่งส่งกองทหารมารักษาชายแดนด้านที่ติดกับพม่าของอังกฤษ และ ลาวของฝรั่งเศส
ทางด้านราชสำนักชิงที่กรุงปักกิ่ง หลังจากพระเจ้าเต้ากวางสวรรคตพระราชโอรสขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อมามีชื่อรัชกาลว่า จักรพรรดิเสียนเฟิงพระราชสวามีของพระนางซูสีไทเฮา
ฮ่องเต้เสียนเฟิงขึ้นครองราชย์ท่ามกลางปัญหาที่หลากหลายทั้งสงครามฝิ่น กบฏชาวนา (ไท่ผิง) และการรุกรานของกองทัพแปดชาติจนต้องลี้ภัยไปพำนักที่พระราชวังฤดูร้อนเย่อเหอที่เมืองเฉิงเต๋อ ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่ง
ราชสำนักหอคำเชียงรุ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในดินแดนต้าชิงห่างไกลจากความขัดแย้งวุ่นวายแม้จะมีฐานะเป็นประเทศราชแต่ก็ดูเหมือนจะมีความสงบแม้ว่าจะอยู่ติดกับดินแดนในอาณัติของอังกฤษกับฝรั่งเศสก็ตาม
เวลาผ่านไปฮ่องเต้เสียนเฟิงสวรรคตเกิดศึกชิงอำนาจในราชสำนักชิงระหว่างคณะองคมนตรีกับพระนางซูสีไทเฮาผลปรากฏว่าฝ่ายมีชัยเป็นพระนางซูสี แผ่นดินจีนจึงตกอยู่ภายใต้อำนาจของสตรีอีกวาระหนึ่ง
กงล้อของกาลเวลาหมุนผ่านไปเรื่อย ๆ ฮ่องเต้ถงจื้อโอรสของพระนางซูสีไทเฮาสวรรคต พระนางจึงแต่งตั้งหลานแท้ ๆ ขึ้นมาเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ในชื่อรัชกาลว่า กวงชวี่ (กวางสู)
อาณาจักรต้าชิงจงกว๋ออันยิ่งใหญ่ในเวลานั้นเหมือนเป็ดง่อยด้อยเปลี้ยเสียขา แต่อาณาจักรสิบสองปันนายังคงราบเรียบแม้ว่าอังกฤษกับฝรั่งเศสต่างจ้องตาเป็นมัน
ในช่วงรัชสมัยของฮ่องเต้กวางสูทรงพยายามที่จะปฏิรูประบอบการเมืองแต่สุดท้ายสมเด็จป้าเซิ่งหมูฮองไทเฮารู้ข่าวจึงทรงยึดอำนาจกลับคืนพร้อมกับทรงถูกกักบริเวณ
กาลผ่านไปพระนางซูสีไทเฮาเข้าสู่พระชราจนป่วยกำลังจะตายยังอุตส่าห์ให้คนเอายาไปวางฮ่องเต้กวางสูให้สวรรคตก่อน แล้วตั้งทารกน้อยหลานป้าอีกคนของตนเองให้เป็นจักรพรรดิจากนั้นพระนางจึงตายได้
ในเวลานั้นโลกภายนอกได้มีการเคลื่อนไหวโค่นล้มระบอบกษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราษฎร์โดยนายแพทย์นักปฏิวัติชาวมณฑลกว่างตงที่ชื่อว่า ดร.ซุนยัตเซ็น รวมถึงความระส่ำระสายภายในราชอาณาจักรรวมถึงความเจริญก้าวหน้าของเขตปกครองของต่างชาติในดินแดนจีน
สิบสองปันนาเริ่มได้รับผลกระทบจากการรุกรานภายนอกที่อยู่ประชิดติดดินแดนอย่างอังกฤษกับฝรั่งเศสจ้องที่จะตะครุบเอามาเป็นของตัวให้ได้
น่าเกลียดน่าชังยังกะเด็กแย่งขนมนะครับ
ขอตัดตอนระยะเวลาให้ล่วงมาถึงสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา สงครามการรุกรานจีนของญี่ปุ่นและตามมาด้วยสงครามจีน-ญี่ปุ่นในการร่วมระหว่างกองทัพปลดปล่อยประชาชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับกองทัพประชาราษฎร์ของพรรคก๊กมินตั๋ง
สงครามโลกครั้งที่สองฝ่ายปราชัยเป็นใครเรา-ท่านต่างรู้กันดีอยู่ สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตของญี่ปุ่นทรงอ่านประกาศแถลงการณ์ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข
กองทัพซามูไรจึงได้ส่งมอบปฏิกรสงครามให้กับพรรคคอมมิวนิสต์เพราะถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงหาใช่กองทัพของจอมพลเจี่ยงแต่อย่างใดไม่ มอบแล้วจึงพากันกระทำฮาราคีรีพิฆาตตัวเอง...
ถึงตอนนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคก๊กมินตั๋งของจอมพลเจี่ยงก็กลับมาโซ้ยกันเองผลปรากฏว่ายุทธการป่าล้อมเมืองและเอาชนะใจประชาชนของเหมาเจ๋อตงเป็นฝ่ายมีชัยชนะ จอมพลเจี่ยงลงเรือข้ามทะเลไปตั้งรัฐบาลที่เกาะไต้หวัน
วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๒ กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้ยาตราทัพเข้าสู่กรุงปักกิ่งเพื่อ "ปลดปล่อย" ปักกิ่ง ท่ามกลางความยินดีปรีดาของประชาชีชาวปักกิ่งเป็นล้นเหลือ
เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนย้ายสำนักงานจากเมืองเอี๋ยนอัน มณฑลส่านซี ซึ่งตั้งเป็นเมืองหลวงแดงเข้าสู่กรุงปักกิ่งแล้ว จึงมีการเปิดประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เต็มคณะเพื่อกำหนดทิศทางการบริหารประเทศ ผลการประชุมสรุปว่า...
๑. ผู้นำสูงสุดและประมุขของประเทศ คือ เหมาเจ๋อตง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน
๒. ประธานาธิบดีแห่งรัฐ คือ หลิวเส้าฉี กรรมการกรมการเมืองถาวร
๓. ประธานประเทศกิติมศักดิ์ มาดามซ่งชิ่งหลิง ภริยา ดร.ซุนยัตเซ็น แกนนำฝ่ายซ้ายของก๊กมินตั๋ง
๔. นายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ คือ โจวเอินไหล กรรมการกรมการเมืองถาวรโดยให้ เติ้งเสี่ยวผิง เลขาธการพรรคเป็นรัฐมนตรีช่วย
๕. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประธานคณะกรรมาธิการการทหารสูงสุด คือ จอมพลจูเต๋อและผู้บัญชาการกองพลทั้ง ๑๐ ได้ติดยศเป็นจอมพล คือ จูเต๋อ เย่เจี้ยนอิง เฮ่อหลง เผิงเต๋อหวาย หลิวป๋อเฉิง เฉินยี่ หลินเปียว สีเซี่ยงเฉียน ป๋ออี้ปอ และ เฉินหยุน
๖. เมืองหลวงแห่งรัฐ คือ กรุงปักกิ่ง
๗. ธงชาติ ดาวแดง ๕ ดวงบนพื้นสีแดง
๘. ตราแผ่นดิน พลับพลาเทียนอันเหมิน เหนือรวงข้าว
๙. เพลงชาติจีน คือ เพลงเลือดเนื้อชีวิต แต่งโดย เนี่ยเอ๋อร์ ชาวเมืองอวี้ซี มณฑลหยุนนหนาน
๑๐. ประเทศราชและดินแดนในอารักขาของอดีตอาณาจักรต้าชิง ต่อด้วยสาธารณรัฐจีน(ประเทศจีนเก่า) ให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนดำเนินการเข้าไป "ปลดปล่อย"
เอาพอสังเขปอ่านสนุก ๆ นะครับไม่ต้องจริงจังมาก
แล้วสิบสองปันนาล่ะจะเป็นอย่างไรไปติดตามกันในตอนหน้าครับ
*
*
*
โปรดติดตามตอนต่อไป
*
*
กฤตย์ เยี่ยมเมธากร
นครเชียงใหม่
๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๐

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา