Blockdit Logo (Mobile)
ใจที่ตื่นรู้
•
1 ก.ย. 2020 เวลา 12:59 • ปรัชญา
ความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง ถ้าเรารู้ทันมันก็จะไม่เกิดทุกข์ บางคนมีเงินเป็นแสนล้านแต่ก็ยังทุกข์ ทุกข์ที่สังคมไม่ยกย่องไม่ยอมรับ ความทุกข์ชนิดนี้ เรียกว่า ความทุกข์ของเทวดา เป็นความทุกข์ที่ประณีตมาก ที่บอกว่าเป็นความทุกข์ประณีตก็เพราะเขาไม่ได้ทุกข์เพราะเรื่องพื้นฐานของชีวิต เช่น การทำมาหากิน การไม่มีรถ ไม่มีเงิน เขามีปัจจัยพื้นฐานหมดแล้ว แต่สิ่งที่เขาขาดก็คือการยอมรับจากผู้คน ความทุกข์ทางจิตวิญญาณล้วน ๆ เป็นความทุกข์ที่มีรากฐานอยู่บนความยึดติดถือมั่นในอัตตา
พุทธศาสนาบอกว่า ชีวิตเรา คือ องค์รวมเบญจขันธ์ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ คนเรานี้ไม่มีใครอยู่เป็นนิรันดร ชีวิตคนแต่ละคนคือองค์รวมของขันธ์ 5 รูปคือร่างกาย เวทนาคือความรู้สึก สัญญาคือความจำ สังขารคือความคิด วิญญาณคือการรับรู้ ชีวิตมีแค่นี้ แต่สิ่งมีชีวิตแสนเรียบง่ายกลายเป็นที่มาของความทุกข์ก็เพราะว่าเราพยายามปรุงแต่งชีวิตนี้ให้มันซับซ้อนมากขึ้น เราสร้างสมมติจนหนักอึ้ง หัวโขนบรรดามีก็คือสมมติ สถานภาพทางสังคมก็คือสมมติ ยศ ทรัพย์ อำนาจ ชื่อเสียงก็คือสมมติ ตัวกูของกูนั้นก็คือสมมติ ใครแบกสมมติก็คือแบกทุกข์
พระพุทธองค์ทรงสอนเสมอว่า ตัวกูของกูนั้นไม่เคยมีตัวตน มีอยู่แต่ในความคิดนั้น มนุษย์สร้างภาพจำลองขึ้นมาแล้วเรียกสิ่งนั้นว่า " ตั ว ฉั น ข อ ง ฉั น " ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น ตัวฉันของฉันไม่เคยมี มีอยู่ก็แต่กลุ่มเบญจขันธ์ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
ครั้งหนึ่งมีเทวดาองค์หนึ่งมากล่าวโศลกสุภาษิตกับพระพุทธเจ้าว่า
"คนมีบุตรย่อมยินดี เพราะบุตรทั้งหลาย
คนมีโคย่อมยินดี เพราะโคทั้งหลายเหมือนกัน
ฉะนั้น เพราะอุปธิเป็นความดีของคน
บุคคลใดไม่มีอุปธิ บุคคลนั้นไม่มียินดีเลยฯ"
ทัศนะของเทวดาก็คือทัศนะของปุถุชนทั่วไป พอเทวดากล่าวจบ พระพุทธองค์ทรงแสดงความเห็นว่า
"บุคคลมีบุตรย่อมเศร้าโศก เพราะบุตรทั้งหลาย
บุคคลมีโคย่อมเศร้าโศก เพราะโคทั้งหลายเหมือนกัน
นั้นเพราะอุปธิเป็นความเศร้าโศกของคน
บุคคลใดไม่มีอุปธิ บุคคลนั้นไม่เศร้าโศกเลยฯ"
เทวดาได้ฟังดังนั้น พลันกระจ่างขึ้นมาทันที
ปัจจุบันคนเรามีความทุกข์กันมากมายเหลือเกิน ไม่ทุกข์เพราะเงิน ไม่ทุกข์เพราะบ้าน ไม่ทุกข์เพราะรถ ไม่ทุกข์เพราะลูก ไม่ทุกข์เพราะเมีย ไม่ทุกข์เพราะตำแหน่ง ไม่ทุกข์เพราะอำนาจ ไม่ทุกข์เพราะชื่อเสียง แต่สุดท้ายยังมีมายึดติดในตัวฉันของฉัน ทั้งที่ในความเป็นจริงมันไม่เคยเป็นของเรา มีแต่เราที่เป็นของมัน และถูกมันกดดัน
ดังพุทธวจนที่ว่า. . .
สัพเพ ธัมมานาลัง อภินิเวสายะ
ธรรมทั้งหลายทั้งปวงอันบุคคลไม่ควรยึดติดถือมั่น เป็นแก่นของธรรมเราทั้งหลายควรจดจำ และเข้าใจให้ถ่องแท้ 🍀
" แ ค่ ป ล่ อ ย ก็ ล อ ย ตั ว "
ว.วชิรเมธี
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ที่มา : หนังสือ "กลั่นทุกข์ให้เป็นสุข" Suffering

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา