3 ต.ค. 2020 เวลา 08:15 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ดู-มา-เล่า 02
เซ็นซุย กับ บุคลิกทั้ง 7
.
พ่อเคยเล่าว่าโตมากับยุคการ์ตูนญี่ปุ่นเฟื่องฟูในบ้านเรา โดยจะมีการ์ตูนประเภท "Shonen" ที่แปลตรงตัวว่า "หนุ่มน้อย" ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตลาดกลุ่มวัยรุ่นชายอายุไม่เกิน 18 ปี สมัยนั้นมีหลายเรื่องที่โด่งดังมากในหมู่หนุ่มน้อยชาวไทย เช่น ดราก้อนบอล, สแลมดั๊งค์, โคนัน เจ้าหนูยอดนักสืบ, ซามูไรพเนจร, จอมเกบลูส์, โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ และอีกมากมาย หนึ่งในนั้นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไม่แพ้ใครคือเรื่อง Yu Yu Hakusho ในชื่อภาษาไทยคือ คนเก่งฟ้าประทาน หรือ คนเก่งทะลุโลก (ส่วนตัวสมัครใจกับชื่อคนเก่งทะลุโลกมากกว่า ด้วยเนื้อเรื่องที่พระเอกเก่งระดับทะลุหมดทั้ง 3 โลก) นอกจากเป็นเรื่องที่พ่อมีความประทับใจมากกว่าเรื่องอื่น ๆ แล้วนั้น อีกสาเหตุหนึ่งที่พ่อยกมาเล่าครั้งนี้เป็นเพราะ "เซ็นซุย ชิโนบุ" ตัวละครที่ต้องขอยกให้เป็นหนึ่งใน ตัวร้าย ที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในโลก "Shonen"
พ่อวาดภาพเซ็นซุยโดยคัดลอกจากในมังงะและปรับแต่งบนAppชื่อ Canva
อันที่จริงพ่อเพลิดเพลินกับเรื่องราวของ Yu Yu Hakusho จากการอ่านมังงะ (Manga) ตั้งแต่ประมาณ 25 ปีก่อน (ปีที่เขียนนี้2020) ผ่านทางฉบับรวมเล่มลิขสิทธิ์ ยุคนั้นฉบับรวมเล่มจะออกประมาณเดือนละครั้ง พ่อก็ใช้วิธีเจียดเงินออมที่ได้จากค่าขนมมาซื้ออ่านไปเรื่อย ๆ จนถึงเล่มสุดท้าย ถือว่าเป็นมังงะไม่กี่เรื่องที่พ่อสะสมครบทุกเล่ม (ถ้าไม่หายไปเพราะมีคนยืมแล้วไม่คืน) แต่ที่ได้กลับมาถึงอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจาก Netflix นำเรื่องนี้มาลงฉายอีกครั้งตั้งแต่ต้นจนอวสาน พ่อไม่คิดมากที่จะเลือกกดดูเพราะไม่ค่อยสันทัดฉบับ Anime สักเท่าไหร่ อีกเหตุหนึ่งคือ ก่อนหน้านั้นได้คุยกับเพื่อนของพ่อถึงเรื่องนี้ในเชิงระลึกความหลัง ผลคือจำอะไรไม่ค่อยได้ การสนทนาจึงไม่ได้เนื้อหาเท่าที่ควร การดูครั้งนี้นอกจากเพื่อความบันเทิงแล้วนั้น จึงเป็นการย้อนความหลังไปด้วย และเมื่อเฝ้าดูจนจบ สิ่งที่ผุดขึ้นมาย้ำเตือนความคิดอีกครั้งคือ คาแรกเตอร์ของวายร้ายอย่าง "เซ็นซุย ชิโนบุ" ช่างดูโดดเด่นและน่าสนใจ และในความเห็นของพ่อ เค้าแทบจะเหนือกว่าเหล่าตัวเอกทั้ง 4 คนอย่าง อุระเมะชิ ยุสุเกะ, คะซึมะ คุวะบะระ, มินะมิโนะ ชูอิจิ หรือ คุรามะ และฮิเอด้วยซ้ำ แม้จะออกมาเพียง 27 ตอน จากทั้งหมด 112 ตอน (เลขฮิตยุคพ่อ)
-
ความโดดเด่นจนน่าดึงดูดให้เล่าถึงของ เซ็นซุย ไม่ใช่เรื่องความสามารถอันเหนือล้ำธรรมดา จนพาให้สเกลของพลังในเนื้อเรื่องหลุดกระจายออกจนแทบจะวนกลับทางเดิมไม่ได้ แต่เป็นปัจจัยเบื้องหลังสภาพจิตอันบิดเบี้ยวที่ส่งผลให้กลายเป็นที่มาของภารกิจความพยายามล้างมนุษย์ออกจากโลก จนกลุ่มของพระเอกต้องมาจัดการ นับจากนี้พ่อจำต้องเล่าเนื้อเรื่องพอสังเขป เพื่อให้เห็นภาพรวมของเนื้อเรื่องโดยมี เซ็นซุย เป็นศูนย์กลาง แน่นอนว่าพ่อจะพยายาม ไม่ เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ แต่ก็ยอมรับว่าคงหลีกเลี่ยงได้ยาก ฉะนั้นขอติด [Spoil Alert] ไว้นับแต่นี้เป็นต้นไป เพื่อให้ใครก็ตามที่กำลังติดตามเรื่องเล่านี้ หากยังไม่ได้ดูและต้องการดู Yu Yu Hakusho ด้วยอรรถรสอันเต็มเปี่ยม โปรดใช้ดุลยพินิจพิจารณาให้ดีก่อนไปต่อ
--
เซ็นซุย ปรากฏตัวขึ้นหลังจากจบการประลองโลกมืด (Dark Tournament) และเริ่มมีบทบาทอย่างชัดเจนในฐานะวายร้ายตัวใหม่ เมื่อยุซุเกะและพรรคพวกสืบทราบว่ามีกลุ่มคนต้องการเปิดประตูมิติเพื่อเชื่อมต่อโลกมนุษย์กับโลกปิศาจ โดยหวังให้ปิศาจระดับสูงที่มีภัยคุกคามต่อมนุษย์ชนิดล้างเผ่าพันธุ์ สามารถเข้า-ออก ทางประตูนี้ได้อย่างสะดวกโยธิน แน่นอนว่าต้นความคิดและผู้บงการคือ "เซ็นซุย ชิโนบุ" เจ้าของตำแหน่ง “อดีตนักสืบโลกวิญญาณที่เก่งที่สุด” ซึ่งเป็นรุ่นพี่นักสืบของพระเอกของเราด้วย ทุกคนล้วนสงสัยว่าเหตุใดเขาถึงทำเช่นนี้ ส่วนนี้พ่อขอเล่าไม่ยืดเยื้อ สาเหตุนั้นมาจากเมื่อครั้งที่ เซ็นซุย ปฏิบัติภารกิจแล้วได้เข้าไปรับชมภาพเคลื่อนไหวจากการฉายวิดีโออย่างบังเอิญ ซึ่งบันทึกการกระทำแสนเลวร้ายแทบทั้งหมดจากประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเอาไว้ แล้วก็เหมือนแก้วใสที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ จิตใจของ เซ็นซุย ได้รับความเสียหายชนิดไม่สามารถปะติดปะต่อให้กลับมาเป็นดังเดิมได้อีก เค้าตั้งคำถามมากมายต่อมนุษย์ที่เค้าเคยเสียสละชีวิตปกป้อง และตัดสินใจไม่เลือกข้างเผ่าพันธุ์เดียวกัน เขาหันพลังที่เคยใช้กับปิศาจเข้าใส่มนุษยชาติ ด้วยการรวบรวมกลุ่มของผู้มีพลังวิญญาณอย่างพิเศษขึ้นมา เพื่อร่วมกันเปิดประตูอุโมงค์มิติเชื่อมสู่โลกปิศาจ แต่อย่างนึงที่ เซ็นซุย จำเป็นต้องมีและยังไม่มี คือ ผู้มีพลังที่สามารถตัดผ่ากรงอาคมที่ขัดขวางไว้ไม่ให้เหล่าปิศาจระดับสูงข้ามมาสู่โลกมนุษย์ได้ ซึ่งมันประจวบเหมาะตรงที่ ในกลุ่มของพระเอกก็ดันมีบุคคลผู้นี้อยู่ด้วย เซ็นซุยและพรรคพวกไม่รีรอที่จะลักพาตัวบุคคลนั้นมาเพื่อให้ทำสิ่งที่มันต้องการ นั่นเองจึงเป็นชนวนเหตุให้พระเอกและตัวร้ายได้ปะทะกัน
---
หลังจากเปิดฉากต่อสู้กัน คุวะบะระ ก็ถูกกลุ่มของเซ็นซุยจับ แต่เพียงไม่นานยุสุเกะกับเพื่อนก็ตามไปเจอที่อุโมงค์ ซึ่งเป็นทั้งแหล่งกบดานและที่ตั้งของประตูมิติ แล้วการต่อสู้ระหว่าง ยุสุเกะ และ เซ็นซุย ก็เริ่มต้น แต่ในขณะที่ยุสุเกะได้เปรียบจากลูกเล่นและความบ้าบอเฉพาะตัว พระเอกของเราสามารถระดมหมัดเข้าใส่ จนศัตรูถึงขั้นสะบักสะบอม ทันใดนั้นเองโดยที่ไม่ทันตั้งตัวเสียงปืนก็ดังขึ้น กระสุนพุ่งใส่ลำตัวของยุสุเกะ การต่อสู้จึงหยุดลงชั่วขณะ สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทุกคนคือกระบอกปืนซึ่งติดตั้งอยู่กับแขนของเซ็นซุย แต่แล้วเหล่าพรรคพวกของยุสุเกะก็ต้องประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเซ็นซุยที่เห็นได้เปลี่ยนตัวตนไปชนิดที่เป็นคนละคนกับคนก่อนหน้า กลายเป็นเซ็นซุยที่ทั้ง ป่าเถื่อน หยาบคาย และโหดเหี้ยม พระเอกของเราถูกกระหน่ำซ้ำด้วยเท้าและแข้งจนยับเยิน สถานการณ์อยู่ในภาวะคับขันอย่างที่สุด จนเมื่อโคเอ็นมะ (ลูกชายราชาเอ็นมะ หัวหน้าของยุสุเกะ) แทรกเข้ามาช่วยเหลือ ความจริงก็ออกมาจากปากเซ็นซุยว่าตอนนี้เขาไม่ใช่เซ็นซุยอีกต่อไป แต่เป็นคนอื่นที่ชื่อว่า “คะซึยะ” และก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่เซ็นซุยเช่นกัน แต่เป็นอีกคนที่ชื่อว่า “มิโนะรุ” ณ จุดนี้เรื่องก็เริ่มกระจ่าง เมื่อประโยคที่เซ็นซุยเอ่ยให้ได้ยินก่อนหน้านี้ว่า “เราทั้ง 7 จะขุดหลุมฝังมนุษย์ทุกคน” คำว่าเจ็ดไม่ได้หมายรวมถึงเหล่าสมาชิกที่เซ็นซุยรวบรวมมา แต่คือตัวของ “เซ็นซุย” เองนั่นแหละ สรุปคือ เขามีอัตลักษณ์แยกอีก 6 คน
1
----
ในอนิเมะเราไม่ได้เห็นครบทั้ง 7 ตัวตนของเซ็นซุย แต่เท่าที่พ่อพยายามเสาะหาข้อมูลมา ในตัวเขาได้แบ่งแยกออกเป็นบุคคลเหล่านี้
1. มิโนรุ คืออัตลักษณ์ที่ถูกใช้งานมากที่สุด น่าจะเป็นเพราะว่าโดยนิสัยแล้ว เขามีความสงบพอสมควร สื่อสารได้ดี มีความแข็งแกร่งของพลังในอันดับต้น ๆ ว่าอย่างง่าย คือ มีความเป็นคนกลางมากที่สุดในทั้งหมด
2. คะสึยะ คืออัตลักษณ์ที่เหี้ยมโหดที่สุด ทำงานประเภทเลือดเย็น มีความเพลิดเพลินกับการทรมานและฆ่าได้ไม่เลือกแม้แต่ผู้หญิงหรือเด็ก น่าจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ซึ่งอัตลักษณ์อื่นไม่สามารถทำได้
3. นารุ คืออัตลักษณ์ฝั่งตรงข้ามของคะสึยะ เขา(หรือเธอ)มีอารมณ์อ่อนไหว ไร้เดียงสา และมีอารมณ์ศิลปินเพียงพอที่จะเป็นกวีที่ยอดเยี่ยม(ตามที่อิสึกิคู่หูของเซ็นซุย กล่าว) เขา(หรือเธอ)มักจะออกมาเฉพาะต่อหน้าอิสึกิ หรืออาจกล่าวได้ว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน (สายวายน่าจะชอบ)
4. จูจิ คืออัตลักษณ์ที่ไม่ได้ปรากฎตัวในอนิเมะ ได้รับการระบุว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ รวมถึงทำหน้าที่จัดหาด้วย ค่อนข้างจะดุร้ายคล้ายคะสึยะ แต่ช่างเหยียดหยาม เหน็บแนมมากกว่า
5. มะกะโตะ คืออัตลักษณ์ของพ่อบ้าน ไม่ปรากฏตัวในอะนิเมะ เขาคอยทำความสะอาด ขับรถ จัดหาสิ่งของเครื่องใช้
6. ฮิโตะชิ คือตัวแทนของผู้รักในธรรมชาติ เขารักสัตว์ รักพืชพันธุ์ต้นไม้ใบหญ้า ไม่ปรากฏตัวในอะนิเมะ แต่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ที่อิสึกิไม่ค่อยชอบ
7. ชิโนะบุ คืออัตลักษณ์ที่แข็งแกร่งที่สุด เขาเยือกเย็น มองโลกเป็นขาวกับดำ ปรากฏตัวออกมาในตอนที่ต่อสู้ขั้นตัดสินกับพรรคพวกของยุสุเกะ และสู้กับยุสุเกะเป็นคนสุดท้าย อาจเรียกได้ว่าเป็นอัตลักษณ์แท้จริงของ เซ็นซุย
ในวัยเด็กขณะพ่ออ่านการ์ตูนและได้รู้จัก เซ็นซุย ก็เพียงรู้สึกว่า เขาเป็นวายร้ายที่แปลกใหม่ เก่งฉกาจ ไม่เคยพบเห็นจากมังงะเรื่องอื่น โดยเฉพาะที่มาของด้านมืดและสภาวะจิตที่สามารถแบ่งแยกตัวเองออกเป็น 7 อัตลักษณ์ จนเมื่อได้มาดูอะนิเมะในสายตาของวัยกลางคนและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง พ่อพบว่า "เซ็นซุย ชิโนะบุ" อาจสื่อให้เห็นถึงปัญหาอะไรบางอย่างในสังคมที่ผู้เขียน โยะชิฮิโระ โทะงะชิ ต้องการสอดแทรกลงไปในตัวละคร ซึ่งอาจจะจงใจหรือไม่จงใจ ส่วนนี้พ่อก็ไม่ทราบได้ แต่ที่มั่นใจได้เลยคือ สิ่งที่เซ็นซุยเป็นนั้นคือโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง ในทางการแพทย์มีชื่อเรียกว่า Dissociative Identity Disorder ภาษาไทยใช้คำว่า “โรคหลายอัตลักษณ์”
เราสามารถพบตัวละครคล้ายเป็นโรค Dissociative Identity Disorder ได้จากภาพยนตร์หลายเรื่องซึ่งลูกอาจจะได้ชมในสักวัน เช่น Fight Club, Psycho, Black Swan, Birdman, Split เป็นต้น อาการส่วนหนึ่งของผู้ที่เป็นโรคนี้ คือ มีการดำรงอยู่ของอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันในบุคคลเดียวมากกว่า 2 ตัวตนขึ้นไป ซึ่งอาจจะแตกต่างกันทั้ง พฤติกรรม ความจำ ความคิด และการแสดงออก ว่าอย่างง่ายคือ “มีหลายคนในร่างเดียว” แต่อาการของผู้ป่วยที่พบในชีวิตจริงจะแตกต่างไปจาก เซ็นซุย ตรงที่ผู้ป่วยเหล่านั้นมักไม่รู้ตัวว่ามีอีกตัวตนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ภายใจซอกหลืบของจิตใจ ดังนั้นจุดเริ่มต้นของการรักษาบำบัด จึงต้องให้ผู้ป่วยยอมรับเสียก่อนว่ามีอีกตัวตนหนึ่งอยู่ด้วย และกำลังสร้างปัญหาให้กับการดำเนินชีวิต โดยในกรณีที่เป็นเรื่องราวใหญ่โต ผู้ป่วยอาจถึงขั้นก่อเหตุอาชญากรรมดังเช่นเรื่องราวของ Billy Milligan ผู้ซึ่งได้รับการระบุว่ามีตัวตนเป็นจำนวนมากถึง 24 บุคลิก ท้ายที่สุดศาลได้ตัดสินให้เขาพ้นโทษเพราะความผิดปกตินี้ เขาจึงเป็นผู้ป่วยโรค Dissociative Identity Disorder คนแรกที่ได้รับยกเว้นโทษ หรือกรณีของผู้ป่วยชาวฝรั่งเศสที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นคนแรกที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Multiple Personality Disorder (ชื่อเก่า) เขาถูกระบุในบันทึกไว้ว่ามีถึง 10 บุคลิก จนสุดท้ายเรื่องราวของเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับวรรณกรรมชิ้นเอกชื่อว่า “Strange Case of Dr. Jekyll and Mr. Hyde”
สาเหตุของการเกิดโรคนี้มักเกี่ยวข้องกับการประสบกับประสบการณ์หรือเหตุการณ์ ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง และ / หรือ การถูกล่วงละเมิดซึ่งเกิดขึ้นในวัยเด็ก โดยการศึกษาบรรดาผู้ที่มีความผิดปกติทางอัตลักษณ์ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป พบว่าล้วนเคยตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดและถูกทอดทิ้งในวัยเด็ก เป็นอัตรา 90% จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด แต่สำหรับ เซ็นซุย เมื่อพิจารณาให้ดีเราจะพบว่า ในเนื้อเรื่องผู้แต่งนำเสนอว่าเขาเป็นผู้มีพลังวิญญาณแข็งแกร่งแต่กำเนิด เกลียดชังปีศาจและคิดว่านั่นเป็นศัตรูที่ต้องต่อสู้และกำจัดให้สิ้นซาก เติบโตมาด้วยสำนึกความคิดและสภาพแวดล้อมดังกล่าว ณ จุดนี้พ่อตีความว่า เซ็นซุย คือตัวแทนของบุคคลที่ได้รับหรือเผชิญกับความรุนแรงมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยมีจุดพลิกผันอยู่ที่ ภารกิจสุดท้ายอันเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวิปลาสทางจิตใจจนต้องสร้าง คะสึยะ เพื่อทำสิ่งที่โหดร้ายรุนแรงไปจนถึงการสร้างตัวตนอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป ก็ไม่ต่างอะไรกับกรณีของผู้ป่วยหลายคนที่จำต้องสร้างตัวตนขึ้นมาอีกหลายบุคลิกเพื่อหลีกหนีจากความรุนแรงที่คุกคามชีวิตของตัวเองอยู่ ที่น่าสังเกตคือ โคะเอ็นม่า อาจเปรียบได้กับผู้ปกครองที่ยินยอมกระทั่งถึงขั้นส่งเสริมให้ เซ็นซุย ในวัยเยาวชนกระทำความรุนแรงและอยู่ในสภาพแวดล้อมแห่งความรุนแรงนั้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายแล้วเขาก็เติบโตขึ้นมาอย่างบิดเบี้ยว บกพร่อง กลายสภาพเป็นปีศาจความรุนแรงนั้นเสียเอง และส่งผลเสียทั้งต่อตัวโคะเอ็นม่าเอง ไปจนถึงสังคมโดยรอบ แม้ความเก่งกาจใด ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาระหว่างนั้นก็อาจกลายเป็นดาบสองคม ที่ย้อนกลับมาทำร้ายทั้งตัวเองและคนอื่น ดังเช่น "เซ็นซุย ชิโนะบุ"
สำหรับพ่อ "เซ็นซุย ชิโนะบุ" นอกจากเป็นตัวการ์ตูนที่สะท้อนภาพของความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนที่เกิดขึ้นในสังคมแล้ว เขายังเป็นตัวแทนของเยาวชนที่ถูกทำร้ายจากสภาพแวดล้อมซึ่งผู้ใหญ่สร้างขึ้นมาเองกับมือ พ่อเชื่อว่าสภาวะแวดล้อมใด ๆ ก็ตามล้วนเป็นปัจจัยในการสรรค์สร้างบุคคลผู้นั้นให้เติบโตขึ้นมาอย่างพร่อง หรืออย่างเต็ม หรือไม่พร่องไม่เต็ม และเด็กเหล่านั้นจะโตขึ้นมาเป็นบุคคลเช่นใด เหล่าผู้ใหญ่อย่างพ่อย่อมรับหน้าที่ดังกล่าวนั้น และรับผลของหน้าที่ดังกล่าวนั้นโดยชอบธรรม
[Yu Yu Hakusho : Ghost File หาดูได้จาก Netflix]
ที่มาและอ้างอิงจาก :
- What Are Dissociative Disorders? โดย The American Psychiatric Association (APA), https://www.psychiatry.org/patients-families/dissociative-disorders/what-are-dissociative-disorders
- Dissociative Identity Disorder | มุมมืดของตัวตน จุดบอดของชีวิต บุคลิกผิดแปลกจากใจที่แตกสลาย โดย ตนุภัทร โลหะพงศธร และ พงศ์ธร ยิ้มแย้ม,18 มกราคม 2019, https://adaybulletin.com/article-sideeffects-dissociative-identity-disorder/25725
- 7 Personalities Of A Man โดย AA WHALES, 26 เมษายน 2016, https://aminoapps.com/c/anime/page/blog/7-personalities-of-a-man/N8tM_u4oxN01DKdae8GgEmQ6m1bzX1
#จริงจริงคืออยากเล่าให้ลูกฟัง #ดูมาเล่า #ดูมาเล่าจริงจริง #yuyuhakusho #sensuishinobu #dissociativeidentitydisorder

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา