24 ต.ค. 2020 เวลา 10:04 • นิยาย เรื่องสั้น
The Adventures of จ.Jump ตอน ตรอกห้ามหันหลังกลับ
กล่าวสวัสดีทุกท่านในเดือนเทศกาลปล่อยผีกับผม จ.จั๊มพ์ หลังจากพาไปทัวร์โรงพยาบาลซอมบี้กับตอนก่อนหน้า หนนี้เจาะจงเอาแหล่งใกล้ ๆ บ้าง โดยเรื่องราวต่อไปนี้เกิดขึ้นในซอยแถวบ้านที่ผมอาศัยอยู่ ด้วยความที่บ้านอยู่ลึกมาก กว่าจะเดินทางไปมาแต่ละทีต้องอาศัยการเลี้ยวเลาะหักมุม ซึ่งหนึ่งในมุมตรอกซอยที่ผ่านมีเส้นทางหนึ่งขึ้นชื่อถึงขนาดผู้คนกล่าวขานให้ว่า “ตรอกห้ามหันหลังกลับ”
ในซอยลาดพร้าวเลขคี่ต้น ๆ ที่ผมอาศัยอยู่มีหนึ่งตำนานเมืองที่เป็นจุดเริ่มต้นถือกำเนิดมานานกว่า 30 ปีที่แล้ว
โดยเรื่องราวดังกล่าวขับขานถึงตรอกซอยที่เวลาเดินผ่านห้ามหันหลังกลับมาไม่ว่าจะกรณีใด ซึ่งหากใครเผลอหันกลับไปต้องมีอันเป็นไปทุกราย
ส่วนตัวแล้วตั้งแต่ตอนเป็นเด็กที่ได้ยินผมก็ออกไล่ล่าตามหาตรอกที่ว่าจนเจอและพิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ในอนาคตยี่สิบปีให้หลังเมื่อย้อนกลับไปอีกทีครั้งนี้กลับแตกต่างจากเดิม
การที่ผมต้องย้อนกลับไปตรอกห้ามหันหลังกลับหนนี้เนื่องจากได้รับการไหว้วานขอร้องจากเพื่อน ๆ ที่อยากพิสูจน์ตำนานว่าจริงแท้ไหม
ซึ่งผมเองบอกกับเพื่อน ๆ อย่าคาดหวังอะไรเยอะ แต่ดูจากที่ทุกคนไม่ใส่ใจงั้นให้ไปลองด้วยตัวเองคงดีกว่า
เมื่อถึงวันนัดหมายเพื่อน ๆ ทั้ง 5 คนมารวมตัวกันที่บ้านของผมเพื่อใช้เป็นจุดนัดพบก่อนออกไปตามรอยตำนานเมืองกรุง
หลังแวะพักตระเตรียมตัวกันเรียบร้อย ผมนำทางเหล่าเพื่อนไปสู่จุดหมายหนทางที่ต้องการ
ครั้นมาถึงตรอกที่ว่าสภาพกับดูน่ากลัวเกินจะบรรยายกว่าตอนเด็กที่ผมมาทดสอบเพียงคนเดียว
จากเดิมที่เป็นทางแคบไร้กิ่งไม้ปกคลุมพอมาถึงปัจจุบันกลับเต็มไปด้วยกองขยะทับถมพร้อมผักริมรั้วอย่างตำลึงเกี่ยวพัน
พอเห็นแบบนี้แทนที่ทุกคนจะเลิกล้มกลับบ้านกันดันมีใจอยากทดสอบพิสูจน์ยิ่งกว่าเดิม แต่จะให้ผมเดินฝ่ากองขยะกับต้นตำลึงไปก็กลัวโดนงูกัดชะมัด
โชคดีที่หนึ่งในพ้องเพื่อนอาสานำทัพแหวกว่ายกองขยะกับต้นไม้ฝ่าเปิดทาง ช่วยให้เส้นทางมีช่องว่างพอจะเดินแทรกผ่านไปได้
ทั้งนี้คนต่อไปที่จะทดสอบไม่ใช่ใครก็ผมนี้เอง ที่อยากรีบไป ๆ เพราะขืนชักช้าอาจมีตัวอะไรเลื้อยออกมาระหว่างตอนเดินผ่าน
แต่ระหว่างทางที่ไปจนเกือบสุดผมก็ต้องตกใจที่ได้ยินเสียงเรียกร้องชื่อของตัวเอง ทีแรกเป็นแค่เสียงเดียวโดด ๆ ทว่าผ่านไปไม่นานกลับมีจำนวนเสียงเรียกเพิ่มขึ้น
ใจหนึ่งผมรู้สึกหวิวเพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน แม้ตอนเด็กจะแอบหันหลังไปก็ไม่เคยได้ยินเสียงเรียกชื่อแบบครั้งนี้ แสดงว่าที่ได้ยินอยู่แปลว่าโดนเข้าให้แล้ว
เมื่อรู้ว่าเจอสิ่งลี้ลับกับตัวคงไม่ต้องบอกผมจะรีบขนาดไหน แต่ยิ่งก้าวออกไปเร็วเท่าไหร่เสียงเรียกร้องก็เปลี่ยนจากเรียกชื่อเป็นตะโกนช่วยด้วย ๆ แทน
พอได้ยินชัดเจนมีหรือผมจะหันกลับไปช่วย อยากตะโกนเท่าไหร่จัดมาเลยไม่ต้องยั้ง แต่อย่าหวังจะหลอกให้หันไปเพราะอีกไม่กี่ก้าวจะพ้นจากตรอกแล้ว
ทันใดนั้นเพื่อนคนแรกที่หลุดจากตรอกมายืนตัวบังมิดปิดทางออกไว้ แถมทำหน้าน่ากลัวบังคับให้ผมหันหลังไปมอง
ผมตอบปฏิเสธเฝ้าบอกเพื่อนอย่าขวางทาง แต่เจ้าตัวไม่ยอมแล้วยังขู่บังคับใช้กำลัง
ผมต่อกรสุดกำลังทว่าพลาดพลั้งโดนจับหัวได้ แม้จะแข็งขืนให้ตายวิวที่เห็นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
จนในที่สุดหน้าและตัวหันไปคนละทิศพร้อมเสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบเป็นเสียงสุดท้ายที่ได้ยิน
***เฉลยปม***
หลังโดนเพื่อนบิดหน้าไปอีกฝั่งจนคอเคล็ด ผมถึงรู้สาเหตุที่แท้จริงของตรอกห้ามหันหลังกลับ เสียงที่พร่ำเรียกชื่อกับร้องช่วยด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พวกเพื่อนที่ติดอยู่ในตรอกนี้เอง
เมื่อหันกลับไปมองถึงเห็นความเป็นจริง สภาพแต่ละคนเรียกว่าดูไม่ได้ คนหนึ่งเท้าติดอยู่ในซอกขยะ คนที่สองผมไปพันกับต้นตำลึง ส่วนอีกสองคนเบียดคากันอยู่ตรงทางเข้า ส่วนตัวผมนั้นก็หันหน้าไปไหนไม่ได้
จากเดิมที่ตำนานการเล่าขานไม่เป็นจริงสำหรับเด็ก พอโตขึ้นมาถึงรู้ตำนานมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่เกินไปตำนานเมืองเลยเป็นจริง
หากใครอยากลองพิสูจน์ก็มากันได้ กับตรอกห้ามหันหลังกลับแห่งซอยลาดพร้าว แต่ขอเตือนไว้อย่างถ้าเจอแล้วอย่าริลองเป็นอันขาด เพราะจากสถานการณ์ที่ผ่านมาถือว่าต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะลากเพื่อนแต่ละคนออกมาจากตรอกแคบ ๆ ได้ รวมถึงคอผมที่มีอันเป็นไปเจอเพื่อนบิดแรงขนาดนี้นึกว่าชาตินี้จะต้องใช้ชีวิตโดยหันไปมองข้างหลังแต่เพียงอย่างเดียว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา