23 ต.ค. 2020 เวลา 13:30
#จันทร์เจ้าขาบทที่4ตอนที่21,
(23/10/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
คืนวันศุกร์นี้ ขอส่งตอนใหม่ ให้เพื่อนๆได้อ่านเพลิดเพลินก่อนนอนกันนะครับ 😇❤️💙💚🎶🎵
สุขสันต์วันศุกร์นะครับ
บทที่ 4 ขจรมาลา
ตอนที่ 21 รัตนติงสาอภินวปุรีสรีคุรุรัฎฐพระนครเชียงใหม่ (4)
#ณ.บริเวณลานพิพากษาในโลกวิญญาณ
บรรยากาศในลานพิพากษาในขณะนี้.เต็มไปด้วยความสงสาร อาลัย และซึมเศร้า ต่อความรักของผีนางบัวตอง..
แต่องค์แม่ กลับเดินเข้ามา ใกล้คอกพยาน และก้มลงเก็บพวงมาลัยของผีนางบัวตองที่ร่วงหล่น ..มาถือไว้ในมือ..
จากนั้น จึงค่อยๆระบายลมเป่าให้มาลัยนั้น เปลี่ยนลักษณะ และย่อขนาด ..จนเป็นกำไลมาศ สลักข้อความที่ผีนางบัวตองรำพึงไว้ ก่อนจะสลายไป ว่า..
“แม้นไม่อาจ ร่วมชาติ
ครองรัก,
ก็มิอาจ ห้ามหัก
ใจท้อถอย,
แม้นใจรู้ อาจนาน
เกินรอคอย,
มิอาจปล่อย มาลัยรัก
จากมือน้อย..”
แล้วองค์แม่ค่อยๆ หมุนคอเอียง.. หันไปขออนุญาต
ท่านท้าวเวสสุวรรณ เพื่อจะที่มอบกำไลนี้ ให้กับเจ้าน้อยพรหม..
ท่านท้าวฯ พยักหน้า และกล่าวว่า..
“นับว่า เป็นเกียรติ และบุญวาสนาเจ้ายิ่งนัก เจ้าน้อยพรหม..
ด้วยว่า ความเสียสละของเจ้าเพื่อนางบัวตองในครั้งนี้
จึงทำให้ เกิดหนึ่งพลังแห่งความรักอันมั่นคง จากคำอธิษฐานสุดท้ายของนางบัวตอง เหลือทิ้งไว้ให้เพื่อปกป้องชายที่รัก ..
ในมาลัยนั้น..
และยังมีอีกหนึ่งพลังแห่งความเมตตาของบูรพกษัตรีย์องค์สุดท้ายแห่ง
ราชวงศ์มังรายผู้สถาปนาตั้งต้นอาณาจักรล้านช้าง..
ได้บรรจุพลังความรักอันมั่นคงของนางบัวตองนั้น แปลงใส่ไว้ในกำไลมาศสลักนี้..ให้กับเจ้า
จึงเกิดลิขิตใหม่นับจากนี้ไป คือ..
เมื่อเจ้าสวมกำไลมาศสลักนี้แล้ว.. แม้เจ้าจะตกนรก ..
ไฟก็จะไม่ไหม้เจ้า.. เมื่อเจ้าข้ามน้ำ น้ำก็จะไม่ท่วมเจ้า
และท้ายที่สุดกำไลมาศนี้จะนำเจ้าทั้งสองมาพบกันอีกครั้ง ..
เพราะความรักนั้นก็อดทนนาน และกระทำคุณให้..”
ขณะเดียวกัน องค์แม่ก็ค่อยๆ ลอยเข้าไปในคอกพยาน และนำกำไลมาศไปใส่ที่ข้อมือซ้ายของเจ้าน้อยพรหม พร้อมกับอำนวยอวยพร ให้กับความรักของทั้งสอง..
เจ้าน้อยพรหมมิอาจกลั้นน้ำตาลูกผู้ชาย และความซาบซึ้งในพระกรุณาขององค์แม่ได้..
จึงก้มกราบและร้องไห้สะอื้นอยู่แทบเท้าขององค์แม่ ..ราวกับบุตรน้อยที่กำลังได้รับการปลอบประโลมจากอ้อมกอดของมารดา..
องค์แม่ค่อยๆลูบศีรษะของเจ้าน้อยพรหม แล้วสอนว่า..
“หากไม่มีการตาย
ก็ไม่อาจรู้ถึง..
ความหมายของชีวิต
หากไม่มีการจากลา
ก็ไม่รู้ซึ้งถึงคุณค่า
ของคนใกล้ชิด..
และหากไม่มีการเสียสละ..
ก็ไม่อาจล่วงรู้ถึง..
รักแท้แลลิขิต..
จงรักษาความหวังนั้นไว้เพราะความหวังจะยิ่งเสริมความเชื่อ..ให้มั่นคง
และความเชื่อนี้ คือพลังแห่งความรักในกำไลมาศนี้..
ขอเจ้าน้อยพรหม หนึ่งในผู้สืบสายเลือดพงศ์พันธุ์ของแม่ ..จงอดทนก้าวผ่านเวลา และฝ่ามหานรกนี้..
จนกว่าจะได้พบกับบัวตองอีกครั้งเถิด.. และในภายภาคหน้า..แม่ขออำนวยอวยพรให้เจ้าทั้งสอง สุขสมหวัง เป็นเนื้อนาบุญของกันและกันให้เป็นที่ประจักษ์เถิด..”
“ตึง ตึง!!!” เสียงกระบองของท่านท้าวเวสสุวรรณดังกังวานทั่วลานพิพากษา เป็นสัญญาณว่า ..
ถึงเวลาของเจ้าน้อยพรหม ที่จะรับโทษทัณฑ์แทนนางบัวตอง ลงสู่ในมหานรกแล้ว..
พื้นบริเวณหน้าลาน ค่อยๆแยกเปิดออก..จนไอร้อนและเสียงโหยหวนของขุมนรกการอัตนิวิบาต ได้พลุ่งพล่าน เดือดปะทุขึ้นมายังลานพิพากษานี้..
เจ้าน้อยพรหม ได้ยันตัวลุกขึ้น..ยกมือขึ้นประนมกราบลาองค์แม่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ พระวัยทัต และคุณหนูฆฤณ..
ก่อนที่จะก้าวเดินอย่างองอาจ ด้วยสีหน้านิ่งสงบ..
และทิ้งตัว ลอยละลิ่วดิ่งลงสู่มหานรก พร้อมกับรอยยิ้ม.. ในขณะที่มองกำไลมาศ แล้วรำพึงขึ้นว่า..
“กำไลมาศ มิ่งขวัญสร้าง
ชูใจ..,
กำลังจิต แน่นภายใน
รักษา..,
กำลังใจ มาดมุ่งแล้ว
นำมา..
กำลังฝ่า มหานรก
มิสะทก..สะท้าน”
เจ้าน้อยพรหมหลับตาลง.. แล้วนึกถึงรอยยิ้มและสายตาของบัวตองที่สะเทิ้นอาย.. เมื่อแรกพบกัน..
รอยยิ้มบางงามก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง.. พร้อมกับดวงตางามของเจ้าน้อยพรหมที่ค่อยๆลืมตาขึ้น มองไปข้างหน้า อย่างเปี่ยมด้วยความหวัง..
“ในวันหนึ่ง เราจะได้พบกัน
อีกครั้ง ณ.ที่ใดที่หนึ่ง ในมหาจักรวาลอันกว้างใหญ่..แห่งนี้ ..นะบัวตอง..”
..
..
..
..
..
“ฮึกๆ..” เสียงร้องกระซิก และน้ำตาที่เปียกนองอยู่ที่แผ่นหลังของผู้กองหนุ่ม..
ผู้กองหนุ่มหลับตาลง ก่อนที่จะหัวเราะขึ้นเบาๆ อย่างเอ็นดู แล้วพูดขึ้นว่า..
“หึหึ ..ที่สุดแล้ว..เจ้าก็ยังเป็นสตรีผู้บอบบาง อยู่ดี..
มะตีฮะ..หึหึ
ขอจงร้องไห้ ..ให้เต็มที่เถิด
แผ่นหลังนี้ แบกรับความเศร้าโศก ความสุขสมหวัง ในฐานะทหารหาญมาหลายภพหลายชาตินัก..”
“เจ้าค่ะ ..อ่ะโบ้..
แผ่นหลังนี้แบกรับมากจริงๆเลยนะเจ้าคะ..”
เสียงมะตีฮะ เอ่ยตอบ อยู่ด้านหน้า..
“ฮึกๆ..ฮืออออออ”
เสียงร้องสะอื้นยิ่งดัง และความเปียกชื้นยิ่งแผ่กว้างขึ้นอยู่ด้านหลัง..
ผู้กองหนุ่มจึงลืมตาขึ้นมอง..
เห็นมะตีฮะ ยืนยิ้มแฉ่ง ตาหยี หัวเราะ “แหะๆ”
อยู่ด้านหน้า..
แล้วจึงเอียงตัว หันมองด้านหลัง.. สะดุ้งสุดตัวร้องเสียงหลง ..ดังลั่น..ว่า
“โหวยยยย...!!!!”
ผู้กองหนุ่มกระโดด ก้าวเดียวมายืนข้างๆ มะตีฮะ ..
มองนัตมินเล ที่ยังยืนทำท่าเกาะหลังร้องไห้ค้างนิ่ง..
และลืมตาจ้องผู้กองหนุ่มอยู่อย่างนั้น..
“ฮือๆ.. จำข้าไม่ได้จริงๆ หรือ เจ้าคะ ..” นัตมินเล เอ่ยถามผู้กอง เสียงยะเยียบเย็น..
ผู้กองหนุ่ม ส่ายหน้างงๆ นึกไม่ออก และจำไม่ได้จริงๆ..
นัตมินเล จึงชี้นิ้วไปที่เกราะ หนังด้านหน้าของผู้กองหนุ่มที่มีรอยฟัน 10 รอย และรอยแทง 3 แผล แล้วพูดเสียงยานคางว่า..
“เราพบกันในสนามรบ ชาติแล้ว..ชาติเล่า ราวกับบุพเพสันนิวาส กันเลยนะเจ้าคะ..
และในชาติสุดท้าย ที่เกราะหนังของท่าน ..
จาก 10 แผลนั้น..มินเล ฟันท่านเสียแปดแผลเจ้าค่ะ..
และมินเล ก็เป็นคนจ้วงแทงท่าน ทั้ง 3 แผล เองเจ้าค่ะ..”
ผู้กองหนุ่ม กลืนน้ำลายลงคอ พลางก้มมองเกราะหนังและพูดขึ้นว่า..
“กระผมหนังเหนียว ตายยาก ปานนั้น เลยรึขอรับ..
มินเล ถึงต้องทุ่มแรง ฟันแทง กระผม มากขนาดนี้..”
1
นัตมินเล ส่งสายตาอย่างมีความหมายบางอย่างให้ผู้กองหนุ่ม แล้วพูดขึ้นว่า..
“มิได้ เจ้าค่ะ.. ท่านตายตั้งแต่ดาบแรก..
แล้วเจ้าค่ะ..”
“พรึ พรืดดดดด..ฮะฮะ ฮะะ”
มะตีฮะ เผลอหัวเราะขำพรืด ยาว..อย่างไม่เก็บอาการ
1
ในขณะที่ผู้กองหนุ่ม พยายามหลบสายตา
พิสวาสนั้น..
คุณหนูกร ก็ก้าวเข้ามาสมทบ ถามอย่าง อยากรู้ว่า..
“ในเมื่อตายตั้งแต่ดาบแรก แล้วทำไมมินเล ยังกระหน่ำฟัน แทงต่ออีกล่ะเจ้าคะ.. แค้นอะไรมากมายขนาดนั้น เลยหรือ เจ้าคะ..”
นัตมินเล ยิ้มอย่างเขินอายและ ตอบเบาๆ ว่า..
“หมั่นเขี้ยว น่ะเจ้าค่ะ..”
“โหวยยยย!!! ” ผู้กองหนุ่มสะดุ้งร้องดังขึ้น พร้อมกับรีบเดินหนี ไปทางคุณหมอชอว์.. ทิ้งให้นัตมินเล คุยกระหนุงกระหนิง ต่อไปกับสาวๆ..
..
..
..
คุณหลวง ลุกยืนขึ้นอย่างสงบ.. และส่งสัญญาณให้คณะ.. เตรียมตัวลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพท่าน
ท้าวเวสสุวรรณ พระวัยทัต ปู่ย่าสังไส้ ..คณะลูกขุน อีกครั้ง.. ก่อนที่ท่านท้าวเวสสุวรรณ..จะปิดการพิจารณาตัดสิน ณ.ลานพิพากษาในโลกวิญญาณแห่งนี้..
..
..
..
“ขอลูกฆฤณ จงรับสร้อยเสี้ยวมณีจันทราของพ่อ..
ใส่คล้องคอไว้อย่าให้ห่างกายเด็ดขาด ด้วยว่าสิ่งนี้จะปกป้อง คุ้มครองลูกจากสิ่งชั่วร้าย หรือ วิญญาณที่ยังมีกรรมกับลูก..
ด้วยบางความรักที่มีให้กันมาก..ก็มิได้เกิดผลเป็นการเสียสละ ดังแสงสว่างแห่งดวงจันทร์..
แต่กลับกลายเป็นการหวังครอบครอง และพรากชีวิต ดังความร้อนของเพลิงอัคคี..ขอจงระวัง นัตนอกกำแพง เมกุฏิ ให้จงดี นะลูกเอ๋ย..”
ท่านท้าวเวสสุวรรณ กล่าวสอน และค่อยๆคล้องสร้อยเส้นน้อยให้คุณหนูฆฤณ ..
คุณหนูฆฤณ ยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณอย่างสวยงาม และเข้าไปกอดท่านท้าวฯด้วยความเคารพรัก อีกครั้ง
ก่อนที่จะถอยกลับมายืนสงบ สำรวม อยู่ข้างๆ ท่าน
ท้าวเวสสุวรรณ..
“ตึง.. ตึง..ตึง!!”
เสียงกระบองอาญาสิทธิ์ กระแทกกับพื้นลานพิพากษา เป็นสัญญาณ
การปิดการพิจารณาคดี ในครั้งนี้ และเสียงอำนวยอวยพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในมณฑลพายัพ ก็เปล่งเสียง “สาธุ” ขึ้นพร้อมกัน ..และกล่าวบทสวด อำนวยพร ส่งวิญญาณทุกตนในสถานที่แห่งนี้..คืนกลับปฏิบัติหน้าที่อันปกติของตน..
ท่านท้าวเวสสุวรรณ ยื่นมือให้คุณหนูฆฤณ ขึ้นนั่ง แล้วเอ่ยขึ้น ว่า..
“พ่อจะเป็นผู้คุ้มกัน และขอไปส่งเจ้า และพวกพ้องกลับคืนยังโลกมนุษย์เอง นะลูกฆฤณ..”
คุณหนูฆฤณ ปีนขึ้นมานั่งพับเพียบหมอบกราบในอุ้งมือของท่านท้าว และกล่าวว่า..
“ลูกได้รับเมตตามากเหลือเกินนัก เจ้าค่ะ ท่านพ่อ..”
“ไว้ผ่านประตูวิญญาณ ตำแหน่งไหนในสยาม ก็แวะมาเยี่ยมเยียน พ่อตรงปากประตูนรกได้เสมอนะลูกรัก ฮ่ะฮ่ะฮ่า..”
ท่านท้าวเวสสุวรรณเอ่ยด้วยเสียงอันดังกังวาน เน้นคำว่า *ลูกรัก และ หัวเราะลั่น..พร้อมกับยิ้มแยกเขี้ยว ให้เจ้าชายเมกุฏิ นิ่งแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน..
ราวกับคุณพ่อที่หวงลูกสาวคนงาม อย่างไรอย่างนั้น..
..
..
..
จบบทที่ 4 ตอนที่ 21
..
..
#เกร็ดเพิ่มเติม
#องค์แม่วิสุทธิเทวี
พระนางวิสุทธิเทวี เป็นขัตติยราชนารีที่สำคัญพระองค์หนึ่งของอาณาจักรล้านนา และเป็นพระกษัตรีย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์มังราย ก่อนที่การปกครองอาณาจักรล้านนาจะตกไปสู่การปกครองของราชวงศ์ตองอู
#นัตมินเล
-นัตสองพี่น้องตระกูล Taungbyon คนพี่ชื่อ Min Gyi คนน้องชื่อ Min Lay ทั้งคู่เป็นเสนาบดีในราชสำนักของพระเจ้าอนิรุทธมหาราช คนพี่ “มินคยี/มินจี” เป็นคนสุขุม เงียบขรึม เคร่งศาสนา ส่วนคนน้อง “มินเล” เป็นนักรักเจ้าสำราญ ชอบกิน เที่ยว ดื่ม..ทั้งสองพี่น้องนับถือศาสนาอิสลาม การบูชาต้องเลี่ยงการถวายหัวหมู ความตายของสองพี่น้องมาจากช่วงที่กำลังควบคุมการก่อสร้างศาสนสถานให้พระเจ้าอนิรุทธมหาราชอยู่นั้น พวกเขาจัดหาอิฐมาก่ออาคารได้ไม่ทันใจกษัตริย์ จึงถูกลงโทษด้วยการสั่งให้ตัดอัณฑะทิ้ง จนกระทั่งเสียชีวิต
สองพี่น้องได้รับการสถาปนาให้เป็นนัตลำดับที่ 9 บนเขาโปปา ดังนั้น ชาวบ้านที่อยู่รายรอบกรุงพุกามเป็นที่รู้กันโดยนัยว่า จะต้องเลี่ยงทุกอย่างที่เป็นหมายเลข 9 (Lucky Number ของพม่า)
เราจะไม่พบบ้านเลขที่ 9 หมายเลขลำดับสิ่งของต่างๆ ละแวกนี้จาก 8 จะข้ามไปเป็น 10 เลย และไปไหนมาไหนเป็นหมู่คณะ มักไม่นิยมการเดินทางจำนวน 9 คน
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก ลานคำดีไซน์: Ancient Siamese warriors
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
23/10/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา