31 ต.ค. 2020 เวลา 20:08 • ประวัติศาสตร์
สถานีถัดไป..กรุงศรีอยุธยา ตอนที่ 1/4
ณ สุวรรณภูมิเมื่อ 500 ปีที่แล้ว ชาวสยามยังคงเชื่อถือในเรื่องไสยศาสตร์ โชคลาง รักษาโรคด้วยหมอผี ชาวสยามยังขี่ช้าง ขี่เกวียน ยังแจวเรือค้าขายไปมาหาสู่กัน
แม้ขณะที่กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา กำลังเสด็จผ่าน ชาวพื้นเมืองสยามยังนั่งก้มหน้าหมอบกราบกับพื้น หากใครเงยหน้าขึ้นดูพระพักตร์ จักต้องโทษถึงประหารชีวิต!
แต่ ณ แผ่นดินยุโรปเมื่อ 500 ปี ฝรั่งอีกฟากโลก มีระบบการศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย มีอาชีพวิศวกร ศัลยแพทย์ รู้จักฉีดยา ผ่าตัดกันแล้ว รวมไปถึง คิดค้นปืนใหญ่มาใช้ รู้จักสร้างเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ ข้ามน้ำข้ามทะเลมายังกรุงศรีอยุธยา
จนวันหนึ่งเมื่อ 500 ปีที่แล้ว แถวหน้าวัดพนัญเชิง ป้อมเพชร ฯลฯ
ก็มีเรือกำปั่นลำใหญ่ ทันสมัย แล่นเรียงรายมาจอดริมน้ำ พวกคนผิวขาวตัวสูงใหญ่ขายาว จากที่ไหนก็ไม่รู้ ก็ทะยอยเดินลงมาจากเรือ สู่แผ่นดินกรุงศรีอยุธยากันอย่างเนืองแน่น
พวกเขามาทำอะไรกัน แล้วเรือกำปั่นฝรั่ง ชนิดใด? ทันสมัยขนาดไหนหรือ?
แล้วใช้เส้นทางน้ำเส้นใด? ที่พาให้ West Meet East ได้สำเร็จเมื่อ 500 ปีก่อน
“ครั้นถึงระดูลมสำเภาพัดเข้ามาในกรุง เปนมรสุมเทศกาล...ฝรั่งกำปั่น ... ฝรั่งเสศ ฝรั่งโลสงโปรตุเกศ วิลันดา อิศปันยอน* อังกฤษ เปนพ่อค้าพานิชคุมสำเภาสลุป แล่น เข้ามาทอดสมออยู่ท้ายคู"
ภาพวาดกรุงศรีอยุธยา หรือ Judia ชื่อที่ชาวตะวันตกเรียก
"ทางใต้เกาะเมืองกรุงศรีอยุธยา เป็นบริเวณที่บรรดาเรือสินค้าและเรือเดินทะเลของนานาชาติมาจอดทอดสมอ มีบรรดาชุมชนและที่พักสินค้าของชาวต่างชาติที่เป็นชาวตะวันตกเรียงรายไปทั้งสองฝั่งแม่น้ำ"
ส่วนหนึ่งจากคำให้การของขุนหลวงหาวัด และตามบันทึกของไคสแบร์ท เฮค**
บันทึกที่อ้างอิงได้ดีว่า กรุงศรีอยุธยาในสมัยก่อน เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญจุด
หนึ่ง ของฝรั่ง และพ่อค้าชาวตะวันตก ฯลฯ
พวกเขามาทำอะไรกัน? มาเส้นทางใด? แล้วเรือกำปั่นฝรั่งทันสมัยขนาดใดฤา ?
*วิลันดา อิศปันยอน คือ ฮอลันดา และสเปน
**1 ในผู้อำนวยการสถานีการค้าของฮอลันดา VOC ประจำกรุงศรีอยุธยา
เส้นทางเดินเรือ West meet East
สถานีต้นทาง...กรุงลิสบอน,โปรตุเกส
ผลจากความพ่ายแพ้ในสงครามครูเสด การได้สัมผัสกับอารยธรรมของชาวมุสลิมที่แตกต่าง ความรู้ด้านปรัชญา คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฯลฯ จากชาวกรีกและอาหรับที่หลั่งไหลเข้ามาในดินแดนยุโรป
ประกอบกับ การกำเนิดของระบบเครื่องพิมพ์ ที่ช่วยกระจายเผยแพร่ บันทึกเรื่องเส้นทางสายไหมของมาร์โคโปโล (คศ. 1254-1323) วิทยาการ ปรัชญาทันสมัย
ไปทั่วยุโรป
ชาวคริสต์ จึงลดความสนใจเรื่องชีวิตหลังความตาย หันมาหาคำตอบชีวิตใน
โลกปัจจุบัน ธรรมชาติรอบตัว
และแล้ว ยุโรปก็เข้าสู่ "ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ"
ปัญญาชนมีเชื่อมั่นในศักยภาพในตัวเอง กล้าท้าทายแนวคิดด้านศาสนา ที่ครอบงำความคิดคนในสมัยกลางมานาน :
-ตำนานสัตว์ร้ายในโพ้นทะเลที่คอยจ้องทำลายเรือเดินทะเล
-โลกเป็นศูนย์กลางจักรวาล และมีรูปร่างแบน หากยังฝืนแล่นไปไกลจะตกขอบโลก
ในด้านภูมิศาสตร์ มีการถกคิด พูดกันถึง:
- ดินแดนโพ้นทะเล มีทองคำมหาศาล จริงหรือไม่?
- ทวีปแอฟริกานั้นเป็นแผ่นดินใหญ่ผืนเดียวกันกับเอเชีย ?
- เกาะเฮติ คิวบา ใช่ญี่ปุ่นหรือไม่? ,
- คนจีนอยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติค แต่ไม่รู้ว่ามีระยะทางเท่าไร?
มีอะไรขวางอยู่ ?
อีกปัจจัยสำคัญคือ การบุกยึดกรุงคอน
แสตนติโนเปิล ของชาวอิสลาม คศ.1453 ที่ปิดกั้นเส้นการเดินทางทางบกของ
สินค้าสำคัญคือ เครื่องเทศ จากชาติตะวันออกเข้าสู่ยุโรป
ภาพแสดงแนวความคิดลูกเป็นจุดศูนย์กลางจักรวาล ทำขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16
เหตุและปัจจัยดังกล่าว ผลักดันให้เกิด"ยุคแห่งการสำรวจ"(Age of Discovery ) ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 -17
เป็นยุคที่สำคัญที่สุดของการสำรวจทางภูมิศาสตร์ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ และยังก่อให้เกิด "เส้นทางเครื่องเทศ" ในระยะเวลาต่อมา
ยุโรปชาติต่างๆ แข่งขันกันออกสำรวจทะเลที่ลี้ลับกว้างใหญ่ เสาะหาดินแดนโลกตะวันออก หาคำตอบทางปรัชญา ค้นหาแหล่งทองคำ เพื่อเสาะหาหมู่เกาะโมลุกกะ หาเครื่องเทศกลับมาขายในยุโรป ที่ที่กานพลู จันทน์เทศ พริกไทยมีค่าดั่งทองคำ..
ไม่ว่าจะเป็น ชนชั้นผู้นำปกครองที่ต้องการสำรวจแหล่งทองคำ สร้างความมั่งคง
มั่งคั่งให้อาณาจักร เพื่อเกียรติภูมิ กลุ่มปัญญาชน กลุ่มนักบวช กลุ่มพ่อค้า ผู้ลี้ภัย
และกลุ่มสามัญชนยากไร้จำนวนมาก ที่กล้าเสี่ยงโชค ผจญภัยล่องไปในมหาสมุทร เพื่อชีวิตและอนาคตที่ดีกว่า
คอนแสตนติน ฟอลคอน จากเกาะ
เซฟาโลเนีย กรีก ก็เป็น 1 ในชนกลุ่มนี้
สถานีต้นทาง ลิสบอน, โปรตุเกส
กรุงลิสบอน, โปรตุเกส
ก่อนคริสตกาลแล้ว ที่ชาวอัคซูม* ได้แบ่งปันความรู้ในการใช้ลมมรสุมในการเดินเรือกับชาวโรมัน ต่อมาด้วย ชาวอาหรับได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การเดินเรือทะเลให้ชาวยุโรป แต่การเดินเรือส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
*Axumite Empire เป็นจักรวรรดิสำคัญทางการค้าขายที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกาที่เริ่มก่อตัวมา ก่อนคริสตกาล
เจ้าชายเฮนรี่ (Henry Navigator ) แห่งโปรตุเกส ได้ก่อตั้งโรงเรียนราชนาวี
ที่แหลมซาเกรซ ในปี คศ. 1419
Sagres เป็นสถาบันที่สอนการเดินเรือ ต่อเรือ การต่อยอดความรู้ด้านการใช้เข็มทิศ
จากจีน การปรับใช้ด้านดาราศาสตร์ เส้นรุ้ง เส้นแวง เส้นศูนย์สูตรและการแผนที่
เดินเรือพอร์โทลาน portolan
เรือรุ่นแรกเพื่อออกสำรวจสู่มหาสมุทรแอตแลนติค ทำจากไม้ล้วน ๆ ลำหนึ่งต้องใช้ต้นไม้เป็น100 ต้น มีเสาคู่เพียง 2 เสา ใบเรือรูปสามเหลี่ยม กินน้ําลึกประมาณ 11 ฟุต เหมาะกับการเลาะเลียบชายฝั่งทวีป หรือแล่นเข้าสู่แม่น้ําในทวีป
การต่อเรือใบขนาดเล็ก มีทั้งใบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ให้พลังแก่เรือ และใบเรือที่เป็น
สามเหลี่ยมทำให้เรือเลี้ยวได้เร็ว
ต่อมาเรือถูกพัฒนาให้ใหญ่ขึ้น ห้องเก็บสินค้าที่ใหญ่ขึ้น แต่ทรงเพรียวขึ้น ทำให้คล่องตัว และมีสมรรถภาพที่มากขึ้น แข็งแรงทนทานต่อสภาพลมฟ้าอากาศ
 
และที่สำคัญ เรือยุโรปช่วงนี้ มีการติดปืนยิงไกลไว้บนเรือ เพื่อป้องกันโจรสลัด หรือรบต่อสู้กับชาวพื้นเมือง
เรือที่พัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น โปรตุเกสได้พัฒนา เรือปืนคาราเวล Caravelle เรือคาร์แรค Carrack (เรือ 2 ชนิดนี้ได้รับการพัฒนามาจากเรือในยุคกลางที่ใช้ในทะเลเหนือ และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) และเรือนัว Naus เรือสำเภาของสเปน เรือดุฟเกนของ
ฮอลันดา ฯลฯ ตามลำดับ
ฮอลันดาก็เป็นอีกชาติยุโรป ที่เชี่ยวชาญในการเดินเรือเป็นอย่างมาก การสำรวจของฮอลันดา เพื่อมุ่งมายังหมู่เกาะเครื่องเทศเป็นหลัก เรือฮอลันดาแล่นจากอัมสเตอร์ดัมครั้งแรกเมื่อปี คศ. 1595
ส่วนอังกฤษ เป็นชาติที่เก่งเรื่องเรือรบ สามารถรบชนะเรือรบอาเมนด้าของสเปน
Canary Island
อย่างไรก็ดี ชาติแรกที่กล้าเอาเรือออกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ออกมาสู่
มหาสมุทรแอตแลนติด คือ โปรตุเกส ดินแดนแห่งนักเดินเรือ และนักสำรวจ
โดยการส่งเรือสํารวจจากกรุงลิสบอน มายังเกาะ Madeira
ตั้งอยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ในพศ. 1962
(ตรงกับสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา เจ้านครอินทร์ แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ)
...................กวีธารา....................
สถานีถัดไป...กู้ดโฮป (Cape of Good Hope) พบกันใหม่ เร็ว ๆ นี้ Good Luck
หากชื่นชอบบทความ ขอเชิญบริจาคเงิน และอาหารให้ช้างได้ที่ ชมรม ช ช้างชรา
(Elephant World)อ. เมือง จ. กาญจนบุรี หรือ ศูนย์อนุรักษ์ช้างต่าง ๆ ทั่วประเทศ
มีบทความอื่น ๆ ที่ทางเรา กวีธารา ตั้งใจเขียน รวบรวมไว้และเนื้อหาน่าสนใจ
ไม่แพ้กันเช่นกันนะคะ ติดตามได้ที่ https://shopee.co.th/kwtara
กวีธารา เป็นร้านค้าแนวอนุรักษ์ขายถุงผ้า&โปสการ์ด ภาพเพ้นท์ลิขสิทธิ์ งาน Handmade อยู่ตลาดน้ำลัดมะยมโซน7 ตลิ่งชัน กทม. Line ID 3514653
และรับสั่งทำถุงผ้าลดโลกร้อน
.
โฆษณา