23 พ.ย. 2020 เวลา 11:35 • ธุรกิจ
บริหารหนี้อย่างชาญฉลาด เพิ่มโอกาสธุรกิจ
1
การกู้ยืมเงินเพื่อนำมาบริหารธุรกิจนั้น สำหรับธุรกิจขนาดย่อมแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะธุรกิจขนาดย่อมส่วนใหญ่แล้ว ก็คือกลุ่มคนที่อยากประกอบธุรกิจส่วนตัวและมีไอเดียดี แต่ขาดเงินทุนสนันสนุน ในการขับเคลื่อนให้ไอเดียประสบผลสำเร็จได้ ก็เลยต้องใช้วิธีการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินนั่นเอง
แต่การที่จะบริหารเงินที่กู้ยืมมาให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เรามีวิธีบริหารจัดการหนี้เงินกู้ยืมมานำเสนอเพื่อเป็นแนวทางกันค่ะ
⛳ ทำความเข้าใจเงื่อนไขการกู้
การจะกู้ยืมเงินแต่ละครั้ง ก่อนตกลงเซ็นสัญญากู้เงินต้องอ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขให้ชัดเจน เพราะเงื่อนไขบางข้ออาจเป็นประโยชน์กับผู้กู้ เช่นทำให้สามารถชำระหนี้ให้หมดได้เร็วขึ้น ในขณะที่บางข้อก็อาจทำให้เราเสียประโยชน์ได้เช่นกัน ที่สำคัญ ข้อไหนดี ข้อไหนเสีย ต้องพิจารณาให้จงดี
⛳ โปะหนี้บางส่วน
บางกรณีสัญญาเงินกู้เปิดโอกาสให้โปะหนี้บางส่วนได้ ซึ่งจะช่วยให้ลดภาระหนี้ และภาระดอกเบี้ยได้มาก แต่บางกรณีผู้ให้กู้อาจมีการคิดค่าปรับในการชำระเงินก่อนเวลาที่กำหนด ซึ่งทำให้การโปะหนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
⛳ วางแผนใช้จ่ายอย่างละเอียด
สิ่งแรกที่ต้องรู้คือยอดรายรับในแต่ละเดือนมีเท่าไหร่และต้องชำระหนี้เดือนละเท่าไหร่ รายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วเหลือเท่าไหร่ ถ้ารายรับคงที่ และมีรายจ่ายที่แน่นอนคือสามารถคาดเดาได้อยู่แล้วทุกเดือน การชำระหนี้ก็จะไม่มีปัญหา
แต่ถ้ารายได้ไม่แน่นอน อีกทั้งไม่รู้ยอดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ก็อาจมีปัญหาในการชำระหนี้ได้ หรืออาจจะมีปัญหาหนี้เพิ่มขึ้นๆ โดยไม่รู้ตัว จนไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้
ดังนั้นการวางแผนการใช้จ่ายและจดบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดปัญหาการไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลา ยิ่งกว่านั้นการวางแผนที่ดียังช่วยให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้นด้วย
⛳ แยกบัญชีเงินที่มาจากการกู้
แยกเงินกู้ออกจากบัญชีในการทำธุรกิจปกติและโอนเงินระหว่างกันเมื่อจำเป็นเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เกิดความรอบคอบในการใช้จ่ายเงินมากขึ้น และป้องกันไม่ให้นำเงินจากการกู้ไปใช้จ่ายในเรื่องอื่นทั่วไป ที่ไม่ใช่เพื่อการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ
⛳ ชำระหนี้ผ่านระบบหักเงินอัตโนมัติ
นอกจากเรื่องความสะดวกในการจ่ายแล้ว การหักบัญชีอัตโนมัติยังมีผลในแง่จิตวิทยาด้วย เพราะจะลดความรู้สึกเสียดาย และการที่เห็นรายการในบัญชีที่ถูกหักเป็นประจำทุกเดือน จะช่วยให้การจัดทำบัญชีรับจ่ายเงินง่ายขึ้น ที่สำคัญวิธีนี้จะช่วยทำให้ชำระหนี้ได้ตรงเวลา โดยไม่ต้องกลัวลืมอีกด้วย
⛳ รวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียว
การมีหนี้หลายก้อนทำให้การจัดการยุ่งยาก ควรหาสถาบันการเงินที่ให้ข้อเสนอในการรวมหนี้หลายๆ ก้อนให้เป็นก้อนเดียวกันได้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและช่วยให้การบริหารหนี้ได้ง่ายกว่าและปิดบัญชีได้เร็วขึ้น
⛳ การขอแก้ไขเงื่อนไขสัญญา
ถ้าพบว่าตัวเองมีปัญหาในการชำระหนี้ไม่ตรงเวลาบ่อยครั้ง อาจขอเจรจาเพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข หาข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายรับได้
เช่น แสดงให้เห็นถึงสาเหตุที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามที่กำหนดได้จริงๆ ผู้ให้กู้อาจจะพิจารณายืดระยะเวลาการผ่อนชำระ หรือลดดอกเบี้ยค่างวด เพื่อให้จำนวนเงินที่ต้องชำระรายเดือนลดลง
เพราะสุดท้ายสำหรับผู้ให้กู้เองแล้ว ยังดีกว่าที่หนี้ก้อนนี้จะกลายเป็นหนี้เสียทั้งก้อน
สิ่งที่ต้องเตรียมในการขอเจรจาเพื่อแก้ไขเงื่อนไขสัญญา คือเหตุผลและเอกสารต่างๆ ที่สามารถอธิบายได้ว่า
📌 อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด เช่น สถานกาณ์การเงินของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง
📌 อธิบายแผนการที่จะดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา เช่น แผนการลดค่าใช้จ่าย แผนการเพิ่มรายได้ การปรับปรุงธุรกิจ แผนการชำระหนี้
⛳ ข้อแนะนำในการลดหนี้
📌 จัดสรรเงินรายได้เฉพาะไว้จากแหล่งใดแห่งหนึ่งเพื่อโปะหนี้เพิ่มเป็นประจำ
📌 กำหนดเป้าหมายว่า ถ้ามีเงินเก็บถึงระดับหนึ่งจะโปะหนี้เป็นก้อนอีกเท่าไหร่
📌 ใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจนกว่าหนี้ลดลงเหลือในจำนวนที่กำหนด
💦.....ดังนั้น การใช้เงินกู้ให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจคือ การโฟกัสในสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตหรือการขยายธุรกิจ และในสิ่งที่จะนำไปสู่ผลตอบแทนในการลงทุนจากเงินที่กู้มา วางแผนการใช้เงินและชำระหนี้อย่างรอบคอบ ต้องทำตามแผนอย่างเคร่งครัด ซึ่งถ้าทำได้ทั้งหมดก็จะทำให้หนี้ก้อนนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดและไม่เกิดปัญหาภายหลังค่ะ
Cr. ธนาคารไทยพาณิชย์
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ช่องทางอื่นในการติดตาม เพจลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกกำลังใจและการติดตามนะคะ 🙏🙏😘😘

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา