20 พ.ย. 2020 เวลา 15:13 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เราถูกเก็บข้อมูลตลอดเวลาในโลกยุคปัจจุบัน โลกอินเตอร์เน็ตรู้จักคุณดีกว่าภรรยาด้วยซ้ำ(บทความเชิงเทคนิค) โดย พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
1
ทุกวันนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และมีคนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
2
โลกที่เปลี่ยนไป
ในยุคสมัยหนึ่งการค้นคว้าหาความรู้นั้น ผู้ค้นคว้าจำต้องไปศึกษาจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่เราต้องการข้อมูลในเรื่องนั้นๆ
เมื่อต้องการซื้อสินค้าเฉพาะอย่าง เราจำเป็นที่จะต้องทำการติดต่อ หรือเดินทางไปยังจุดหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าที่เราตามหา
ยุคที่หมูน้อยยังเป็นเด็ก ในช่วงนั้นไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างที่มีในปัจจุบันนี้
หากในบ้านไม่มีห้องสมุด อยากรู้เรื่องอะไรก็จดเอาไว้ แล้วไปค้นหาที่ห้องสมุดโรงเรียน
หมูน้อยต้องเดินไล่ไปตามชั้นหนังสือที่เขียนว่า "เศรษฐศาสตร์" "อาหาร" "สังคม" "วรรณกรรม" "ประวัติศาสตร์" ฯลฯ เพื่อที่จะได้มาซึ่งข้อมูล
โลกในยุคปัจจุบันนั้นได้ลดขั้นตอน "ตรงกลาง" ไปแทบหมดสิ้น
อยากรู้ข้อมูล เข้า google สิ อยากซื้อของหรอ เข้า App เดียวก็แทบจะชอปได้ทุกอย่างแล้ว
... แต่ สิ่งที่เราต้อง Trade off เพื่อแลกมาซึ่งความสะดวกในการใช้เทคโนโลยีนั้น
มูลค่ามันมหาศาลจนเกินกว่าใครจะนึกฝัน
เพราะสิ่งที่เราแลกไป คือ "ชีวิต"
เทคโนโลยียุคใหม่ที่มีอิทธิพลสูงต่อมนุษย์นั้น มีจุดร่วมกัน คือ
1. ใครที่มีฐานข้อมูลของผู้ใช้งานได้มากกว่า (Data)
2. ใครสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้มากกว่า (Need)
3. ใครที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานได้ "นานกว่า" เป็นผู้ชนะ (Time & Attention)
และสเกลในระดับที่ บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกทำได้ ... มันมากจนทำให้เราขนหัวลุกได้เลยครับ
ยกตัวอย่างจริงจาก Facebook หากเราเป็นผู้ใช้งาน เราถูกเก็บข้อมูลอะไรไปบ้าง
*** ในการโพสต่อ 1 ครั้ง เพียงเท่านั้น ***
ข้อมูลเบื้องต้นของเราที่ถูก Platform เก็บไป จะมีอย่างน้อยๆ ไม่ต่ำกว่า 20 ตัวแปร
ซึ่งเมื่อนำมาประกอบกันแล้วเราแทบจะไม่เชื่อเลยครับว่าเราได้ และ เราเสียอะไรไปบ้างจากการอัพเดทสเตตัสของเราบนนั้น
แค่นั้นมันยังไม่พอ เมื่อนำมาประกอบกับข้อมูลในส่วนของ Profile แล้ว
ทาง Facebook ยังได้ข้อมูลที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก
ที่สำคัญ อย่าลืม ตัวแปรอย่าง เพื่อน(Friends)
ซึ่ง Platform Facebook นั้น สามารถนำข้อมูลของเรามาประมวลผลร่วมกันเพื่อที่จะส่งข้อเสนอบางอย่างมาที่เราได้
หรือในมิตินึงเรารู้จักมันในนามของ...โฆษณา(Advertising)
เรามากางความสามารถในการโฆษณาของ Facebook กันครับว่าเค้าจะทำได้ถึงระดับไหน
เมื่อเราผู้เป็นเจ้าของเพจ หรือผู้ประกอบการกดปุ่ม Boost Post หรือ Page
เราสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าในระดับที่แทบจะเรียกได้ว่าโอกาสเข้าเป้ามีสูงจนสามารถปิดการขายสินค้าหรือบริการของเราได้
นั่นคือ สวรรค์ของผู้ประกอบธุรกิจและ Facebook เลยทีเดียว
P.1
ในส่วนของ Relationship สามารถระบุได้มากกว่าระดับ โสด มีคู่ หรือ หย่า
สามารถเจาะลึกได้ถึง "ความสนใจ"
หากเราเลือกหมวด Entertainment
และเลือกในส่วนของ Movies ยังสามารถเจาะลงไปได้อีกว่าเราชอบหนังแนวไหน
P.2
P.3
หรือแม้กระทั่ง ถ้าเราเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวันครบรอบเราสามารถเจาะลงไปถึงกลุ่มที่กำลังจะถึงวันครบรอบแต่งงานเลยครับ
ที่ร้ายไปกว่านั้น... ตำแหน่ง(Location) ที่เราอยู่หากเราเปิด Location service ให้เฟสบุ๊คนำไปใช้งานได้
ระดับความละเอียดของการระบุลูกค้าด้วยตำแหน่งนั้น สามารถทำได้ละเอียดถึงรัศมีรอบจุดที่ปักหมุด 1 ไมล์ (มีความแม่นยำสูงมาก)
P.4
สิ่งเหล่านี้คือ "สวรรค์" สำหรับผู้ประกอบการเลยทีเดียวครับหากท่านทราบว่าลูกค้าของ สินค้า/บริการที่ท่านมี นั้นมีผู้บริโภคกลุ่มใดอย่างเฉพาะเจาะจง
ทุกการกระทำของเราที่อยู่บน Platform ใดๆก็ตามนั้นมีความหมายเสมอ และมันจะกลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่เจ้าของ Platform
สามารถนำไปทำเป็นฐานข้อมูล "ที่เป็นรูปแบบเฉพาะของตัวเราได้"
เรานั่งอ่านโพสต์นี้นานเท่าไหร่ ดู video นี้นานมั๊ย
เนื้อหาที่ใกล้เคียงกันล่ะถ้าโผล่ขึ้นมาเราจะมีส่วนร่วมรึเปล่า
เรา Blocks/Reports ใครหรือเพจไหนไปบ้าง
ทุกอย่างจะกลายเป็นตัวแปรที่สามารถสร้าง โมเดลซึ่งสามารถทำนายการกระทำหรือเรื่องที่หมูน้อยสนใจได้แม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ
ตามปริมาณข้อมูลที่ Facebook ได้ไป
จนในที่สุด ... แม้แต่หมูน้อย ก็อาจจะไม่รู้จักตัวเองดีเท่า Facebook ด้วยซ้ำไป
สิ่งที่หมูน้อยกล่าวมาในข้างต้นนั้น เกิดขึ้นเฉพาะ Platform Facebook เพียงตัวเดียวเท่านั้นครับ
หนึ่งในความน่ากลัวของเรื่องนี้คือ Platforms หลายๆตัวนั้นสามารถทำงานร่วมกันได้
ทุกเจ้ายังสามารถร้องขอหรือใช้บริการ ข้อมูล/services อย่าง search engine Google เพิ่มเติมได้อีกด้วย
เราได้เห็นกรณีการนำข้อมูลของผู้ใช้งานไปใช้ในทางที่ผิดของ Facebook จนขึ้น"ศาลสหรัฐ" และแพ้คดีไปหลายต่อหลายครั้ง
สิ่งที่น่ากังวลคือ ในหลายๆประเทศกฏหมายยังพัฒนาไม่ถึงจุดที่จะสามารถคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลจากนักล่าระดับโลกได้
นี่คือ "เหรียญอีกด้าน" ของเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ครับ
พออ่านมาถึงจุดนี้แล้ว...ทุกท่านรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ โลก Social Media ที่เรารู้จัก ยังคงน่ารักเหมือนเดิมรึเปล่า
ทุกวันนี้เรา คือ "ผู้ใช้งาน" หรือ "สินค้า" กันแน่
*ผมแนะนำให้ทุกท่านดูภาพยนต์เรื่อง Social Dilemma หลังจากที่อ่านบทความนี้จบครับเพราะบทความของหมูน้อยจะเป็นตัวขยายในประเด็นที่หนังเรื่องนี้พูดถึง หนังเรื่องนี้เป็นแนว documentary ครับ
จริงๆยังมีประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกมาก เอาไว้เรามาพูดคุยกันในเรื่องนี้อีกในบทความถัดๆไปนะครับ
reference
Movie : Social Dilemma
Facebook Policy & Boost

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา