Blockdit Logo (Mobile)
Werawut Wongwasan
•
28 พ.ย. 2020 เวลา 14:12 • สุขภาพ
เราเติมเอนไซม์ให้ร่างกายได้อย่างไร
2
การเติมเอนไซม์ให้ร่างกาย หมายถึง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับเอนไซม์อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากร่างกายของคนเราสามารถผลิตเอนไซม์ได้ในปริมาณที่จำกัด และถูกใช้เพื่อการย่อยอาหารอยู่ทุกมื้อทุกวัน หากเรากินอาหารที่มีเอนไซม์น้อย จะยิ่งทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักและสูญเสียเอนไซม์ที่สะสมไว้ ตัวอย่างเช่น การบวมของตับอ่อนเพราะพยายามผลิตเอนไซม์เพื่อให้เพียงพอต่อการย่อยอาหาร เป็นต้น การย่อยอาหารที่ขาดประสิทธิภาพจะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงได้อย่างมีเหตุผล
1
อีกประการสำคัญ คือ ส่วนใหญ่เราจะรับประทานอาหารที่ปรุงสุกกันเสียมากกว่า โดยลืมไปว่าเอนไซม์ในอาหารจะเสื่อมสภาพหากได้รับอุณหภูมิสูงกว่า 47 องศาเซลเซียส
3
ชนิดของเอนไซม์ เอนไซม์สามารถจำแนกออกได้เป็น 3 ชนิด คือ
1. เอนไซม์จากอาหาร (Food enzyme – ฟูดเอนไซม์) คือ เอนไซม์ที่พบได้ในอาหารสด อาหารดิบทุกชนิด ถ้ามาจากพืชเราจะเรียกว่า เอนไซม์จากพืช (Plant Enzyme) แต่ถ้ามาจากสัตว์ เราจะเรียกว่า เอนไซม์จากสัตว์ (Animal Enzyme) อาหารที่ผ่านความร้อนจะทำลายเอนไซม์ในอาหารได้โดยง่าย ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้จะช่วยในการย่อยอาหารที่เรารับประทานเข้าไป
ภาพผักสดและผลไม้....จาก Internet
ในผัก ผลไม้สดจะมีเอ็นไซม์ที่ย่อยตัวเอง และยังคงได้สารอาหารที่มีประโยชน์ได้อีกระยะหนึ่ง(ช้าหรือเร็ว ขึ้นกับชนิดของผัก ผลไม้นั้น) ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ผัก ผลไม้ ไม่เน่าเสียทันที่ที่หลุดจากต้น โดยผลไม้จะแก่/สุกขึ้น บางชนิดหวานขึ้น เพราะมีการย่อยสลายแป้งเป็นน้ำตาล และจะเน่า/เสียช้ากว่าเนื้อสัตว์ เอ็นไซม์จากผัก ผลไม้สดจึงมีประโยชน์กว่าจากเนื้อสัตว์ และจะช่วยการย่อยอาหารในทางเดินอาหารของคนได้ดีกว่า นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้การกินอาหารเนื้อสัตว์มากๆ จะอึดและแน่นท้องมากกว่าการกินอาหารผัก ผลไม้สด
2. เอนไซม์ย่อยอาหาร (Digestive enzyme – ไดเจสทีฟเอนไซม์) คือ เอนไซม์ที่ผลิตขึ้นโดยร่างกาย ส่วนใหญ่จะผลิตมาจากตับอ่อน เพื่อใช้ในการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารที่เรารับประทานเข้าไป ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีคุณค่า
3. เอนไซม์ในการเผาผลาญพลังงาน (Metabolic enzyme – เมทาโบลิกเอนไซม์) คือ เอนไซม์ที่ผลิตในเลือด ในเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะภายในต่าง ๆ ของร่างกาย มีหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อช่วยในการเผาผลาญสารอาหารและสร้างพลังงาน สร้างภูมิต้านทาน ความเจริญเติบโตให้กับร่างกาย รวมไปถึงการช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของอวัยวะภายใน และช่วยบำบัดและรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ของร่างกาย
4
จากข้อ 1. เอนไซม์จากอาหาร (Food enzyme – ฟูดเอนไซม์) ข้างต้น ทำให้มองเห็นช่องทางในการเติมเอนไซม์ให้ร่างกายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ
1. เอนไซม์จากพืช (Plant Enzyme) วิธีเติมเอนไซม์จากพืชให้ร่างกายที่ดีที่สุด คือ
ตัวอย่าง ส้มตำกุ้ง.....จาก Internet
ตัวอย่าง น้ำพริกแหนม+ผักสด....จาก Internet
1.1 อาหารเคียงผักสด เป็นอาหารที่หาได้ง่าย เช่น ส้มตำ น้ำพริกผักสด สลัดผัก เมี่ยงคำ น้ำยาผักเคียง ส่วนผลไม้ก็หาง่าย ควรเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด เนื่องจากน้ำตาลทำให้เซลล์ร่างกายอ่อนแอ นอกจากนี้การกินผัก ผลไม้สดจะได้รับเส้นใยไฟเบอร์ ซึ่งจะเป็นกากอาหารที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย ทำให้มีสุขภาวะที่ดีและลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสกับสารก่อมะเร็ง(ถ้ามีในอาหารตกค้าง)ในทางเดินอาหารเป็นเวลานานๆ
ตัวอย่าง น้ำเบอร์รีปั่น....https://www.thaipost.net
ตัวอย่าง น้ำคั้นใบบัวบก....https://www.thaipost.net
1.2 ผักและผลไม้ปั่นหรือคั้น ในผักแต่ละชนิด ล้วนมีวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการ ที่สำคัญผักบางชนิดหรือผลไม้บางอย่างก็มีฤทธิ์สร้างความสมดุลให้กับร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อนำมามิกซ์หรือปั่นรวมกัน ก็จะได้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
ตัวอย่าง การหมักเอนไซม์จากมะนาว
2. เอนไซม์จากการหมักผลไม้ เกิดจากภูมิปัญญาของคนในด้านการหมัก จึงทำให้เกิดองค์ความรู้ในการหมักผลไม้หลายๆชนิดมารวมกัน และหมักเพื่อให้ได้เอนไซม์ที่หลากหลายที่สุดสำหรับการบริโภค เพราะองค์ความรู้ที่ว่าการหมักนั้นสามารถเพิ่มคุณค่าทางอาหาร ทำให้ย่อยและดูดซึมง่าย และเพิ่มปริมาณเอนไซม์ แต่ต้องหมักด้วยกรรมวิธีและการควบคุมที่ดี เราก็จะได้แบคทีเรียและเอนไซม์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเพียงพอ
ปิดท้ายด้วย 2 ข้อความที่น่าสนใจ
"...เราสามารถเพิ่มปริมาณของเอนไซม์ให้กับร่างกายของเราได้ 2 วิธีด้วยกัน โดยในวันหนึ่ง ๆ ให้เรารับประทานผักและผลไม้สดให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งหมดที่เรารับประทานเข้าไป เพื่อให้ร่างกายจะได้ไม่ขาดเอนไซม์ที่จำเป็น..."
"...นักชีวเคมียังมีความเชื่อด้วยว่าเอนไซม์ที่ถูกผลิตขึ้นในร่างกายของแต่ละคนจะมีอยู่อย่างจำกัด เปรียบเสมือนเงินฝากในธนาคาร ถ้าใช้อย่างฟุ่มเฟือย เงินในธนาคารก็หมดเร็ว เพราะคนทั่วไปเบิกเอนไซม์ของตนมาใช้แล้ว ไม่ค่อยหากลับมาฝากคืนธนาคารอีก..."

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา