Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เป็ดกัดเต่า
•
ติดตาม
5 ธ.ค. 2020 เวลา 02:00 • ท่องเที่ยว
ประสบการณ์ 101 : นี่หรือ!?! เชียงใหม่ การเดินทางแบบที่พระเจ้าสั่งไว้ไม่ให้ขึ้นเขา
ตอนที่ 2 เชียงใหม่หักมุม
เสียงนาฬิกาปลุกดังก้องกังวาลอยู่ที่ปลายเตียง ร่างของเพื่อนสามคนยังคงเกาะกุมอยู่บนผืนผ้าห่มสีขาวหนานุ่มยามเช้า ใครคนหนึ่งลุกไปจัดการตัวเองก่อนเพื่อน ทิ้งให้ผมและเพื่อนอีกคนหนึ่งนอนหลับอยู่อย่างนั้นเรื่อยไป ไม่หยุดหย่อน เป็นเวลาเจ็ดโมงแล้ว และเราควรจะต้องเตรียมการสำหรับแม่โถที่สถานีช้างเผือกกันแล้วหล่ะ
อากาศด้านนอกนั้นไม่ได้หนาวเหน็บอย่างที่คาดกันไว้ว่าจะเป็น เผลอๆ อากาศในห้องแอร์นี่ต่างหากที่บาดเนื้อหนังจนต้องร้องขอผ้าห่มเพิ่มอีกสักสามผืน ดูท่าพวกเราจะชะล่าใจกันเกินเหตุไปหน่อยแล้ว กว่าเราจะได้ออกเดินทางด้วยรถแดงไปยังสถานีก็ปาเข้าไปแปดโมงแล้ว
1
เราพากันเรียกรถแดงพาเราไปยังสถานีช้างเผือก ตามแผนการแรกเริ่มของพวกเราก็คือ เราจะต้องไปขึ้นรถที่สถานีช้างเผือกเวลาก่อนเที่ยง เพื่อออกเดินทางไปอีก 3 ชั่วโมงสู่อำเภอฮอดและนั่งรถตรงดิ่งเข้าหมู๋บ้าน ขึ้นไปยังดอยแม่โถให้ทันก่อนพระอาทิตย์ตกดิน พอรถแดงเดินทางไปถึงที่หมาย เพื่อนผู้สงสัยใคร่รู้ก็เริ่มถามไถ่หารถไปยังอำเภอฮอดกับลุงคนขับเป็นอันดับแรก ได้ความว่า “ถ้าจะไปฮอดก็ควรจะไปขึ้นที่สถานีกลางโน่น เดี๋ยวลุงพาไปคนละ 30 บาท” อ้าว ไหนว่าจะต้องมาขึ้นรถที่นี่กันยังไง พระเจ้าเล่นอะไรกับเรากันอยู่
เราขึ้นรถคันเดิมออกเดินทางไปยังสถานีอีกแห่งหนึ่ง พอมาถึงก็รีบจัดแจงแบกเป้เดินไปหาซื้อตั๋วรถกัน
“รถไปฮอดออกรอบบ่ายสองนะครับ”
เหมือนฟ้าผ่าดังปังกลางหัวสมองร้อนไปถึงหัวแม่เท้า อ้าวเฮ้ย อันนี้ไม่ได้อยู่ในแพลนนี่หว่า เราเดินออกมาจากซุ้มขายตั๋วนั่งพักใจกันอยู่ก่อนว่าจะเอายังไงกันต่อดี ใช่แล้วละครับ การเดินทางไปอำเภอฮอดนั้น จริงๆ สามารถทำได้สองทางคือ โดยสารรถตู้จากทางนี้ ซึ่งผมมองว่ายังไงก็ไม่เวิร์ค เพราะคุณต้องนั่งไปถึง 3 ชั่วโมงถ้วน นั่นเท่ากับว่า กว่าคุณจะไปถึงที่หมายก็มืดค่ำกันพอดี ยังไม่ทันได้ขึ้นไปด้านบนเลยละครับ อีกทางหนึ่งซึ่งยังคงเป็นเส้นทางปริศนาที่เราเกือบจะเอื้อมถึงอยู่แล้วก็คือ สถานีช้างเผือก นั่นเอง พวกเราลองแก้ปัญหาด้วยการเดินไปถามราคารถเหมา เริ่มจากรถแดงที่ 2500 บาท แพงเอาเรื่องเลยหล่ะ ข้างๆ กันเป็นรถแท็กซี่ ตกอยู่ที่ 2000 บาท หากถึงที่หมายเลย และ 1200 บาทสำหรับเดินทางไปอำเภอฮอดและค่อยต่อรถแถวนั้นไปอีกทีหนึ่ง แล้วเพื่อนคนหนึ่งก็เหมือนจะชี้ทางสว่างให้เราว่า “ค่ารถไปกลับ 2000 ค่าไกด์กับรถพาขึ้น 1500 ค่าเต้นท์อีก 600 ค่าหมูกระทะอีกไม่รู้เท่าไหร่ รวมๆ แล้ว 4000 กว่าบาท ไม่ไปมะ” ในใจคิดเอาไว้ว่า เอา 4000 บาทไปถลุงในเมืองอาจจะเวิร์คกว่าซะอย่างนั้น
1
ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นง่ายๆ ในร้านส้มตำไก่ย่างมื้อเช้าของพวกเราด้วยประการฉะนี้แล และนี่นี่เองคือที่มาของ ทริปที่พระเจ้าสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้พวกเราได้ไปขึ้นเขาอย่างเด็ดขาด หลังมื้ออาหารเรียบง่าย เราตัดสินใจเดินผ่านคิวรถตู้ไปฮอด หลบรถแดงที่จอดอยู่ แล้วกระโดดข้ามแท็กซี่ที่มีพี่คนขับรอคำตอบจากเราอยู่เช่นกัน เป็นอีกครั้งแล้วที่แผนของพวกเราเปลี่ยนจากหน้าเอเป็นหลังดี ออกจะตื่นเต้นกว่าการไปแม่โถอยู่มากโขเชียวละครับ
เราออกเดินทางกลับไปยัง ศรีดอนไชย แฮริเทจเพื่อไปเก็บกระเป๋าที่เราขอฝากเอาไว้เพราะตอนแรกจะไปดอยแม่โถกัน ตอนลงจากรถแดง คุณลุงดูเหมือนจะเล็งเห็นถึงช่องทางการท่องเที่ยวของพวกเรา จึงเสนอตัวในการเป็นผู้นำเที่ยวด้วยการเช่าเหมารถแดงหนึ่งวันถ้วนให้กับพวกเราในราคา 2000 บาท พวกเรามานั่งกันอยู่หน้าเคาร์เตอร์โรงแรมโดยมีพี่ชายใจดีของโรงแรมนั่งดูอยู่ด้วย ดูเหมือนว่าสีหน้าของพี่เค้าจะบอกกับเราว่าให้ต่อลงอีกสิ เราต่อลงไปได้ที่ 1800 บาท ก่อนที่ไม่รู้ทำอีท่าไหนดันได้ราคาที่ 1600 บาท ซึ่งถือว่าดีลกันเรียบร้อยสำหรับหนึ่งวันในวันพรุ่งนี้ครับ
เนื่องจากเราต้องหาที่ซุกหัวนอนสำหรับวันนี้เสียก่อน ที่ศรีดอนไชยก็ดันเต็ม เราเลยตกลงหมายมั่นกันไว้ว่าจะไปพักโรงแรมแห่งที่สองกันในที่เดียวกับคืนที่สามครับ โรงแรมแห่งนี้มีชื่อว่า We Briza Hotel ออกจะเป็นโรงแรมพื้นๆ ทั่วไป แต่บอกเลยว่า ราคาที่นี่กำลังดีเลยหล่ะ แถมอยู๋ใกล้ๆ กับกาดหลวง อีกด้วย ห้องพักที่เราเลือกพักเป็นห้องสำหรับ 4 ท่านในราคา 900 นิดๆ เราไปตั้งหลักกันที่นี่แล้วเริ่มดูแผนที่ว่าวันนี้เราจะออกเดินทางไปไหนกันบ้าง
บรรยากาศสไตล์ไม้เลื้อย
“ลองเดินๆ ไปก่อนไหม ไหนๆ พระเจ้าก็แพลนให้เราอยู่แล้ว” นั่นคือสิ่งที่เราจะเริ่มทำกัน พวกเราตัดสินใจเดินออกจากโรงแรม เลียบแม่น้ำปิงไปหาร้านกาแฟดีดีสักแห่งกันครับ เราไปโป๊ะเช๊ะเข้ากับร้านกาแฟสุดร่มรื่นใจแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Chapter 2wo เพื่อนพูดติดตลกเอาไว้ว่า “เริ่มต้นวันนี้ก็เข้าบทที่สองกันเลยนะ” เพราะบทที่หนึ่งดันหักมุมซะไปไม่ถูกเลยนะสิ
หน้าร้านดูงงๆ นิดนึง
นมสด Americano Lychee และ Latte ครับ
ส่วนตัวถ้าเป็นกาแฟ ผมจะชอบให้มันเป็น Americano ไม่เข้มมาก ผสมกับน้ำผลไม้ต่างๆ ครับ ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้กาแฟมะพร้าว แต่น่าเสียดายที่ที่นี่ไม่ได้มีกาแฟมะพร้าวให้ผมได้ชื่นใจ แต่กลายเป็น กาแฟลิ้นจี่กันแทน ต้องบอกว่าเราเดินจากโรงแรมออกมาไกลพอตัว การได้มานั่งพักในร่มไม้เย็นๆ มีลมพัดผ่านจากฮิตาชิข้างๆ ผสมกับกาแฟรสไม่แรงมาก แต่เปรี้ยวหวานจี๊ดจ๊าดหอมหวนจากลิ้นจี่แก้วนี้ ก็พอจะทำให้ผมกระปรี่กระเปร่าได้สุดตัวอยู่เหมือนกันนะ
โครงสร้าง งง ๆ แต่ร้านก็ร่มรื่นมาก
อะ แปะ Facebook ร้านกันสักหน่อย
facebook.com
Chapter 2WO
Chapter 2WO, Chiang Mai, Thailand. 1K likes. speakeasy coffee bar
อ่านเพิ่มเติม
กาแฟขึ้นชื่อว่ามีส่วนในการเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานได้ดี พอมันผนวกเข้ากับอากาศร้อนตับแตกและการเดินกันเป็นวรรคเป็นเวรของพวกเราเข้าไป ท้องเลยร้องโครกครากจนอดรนทนกันไม่ไหว เราเลยตัดสินใจที่จะไปหาอะไรกินกันเดี๋ยวนั้นแหละ
สถานที่ต่อมาที่พวกเราเดินกันไปก็คือ ชุมชนอิสลาม กับร้านข้าวซอยอิสลาม ครับ เมนูที่นี่เหมาะสำหรับเพื่อนมุสลิมเป็นอย่างมาก อย่างที่ทราบกันว่า อาหารเหนือส่วนใหญ่มี Base เป็นหมู จึงแทบจะหาร้านโลคอลแบบนี้ได้ยากเหลือเกินครับ ที่นี่มีสะเต๊ะเนื้อ ที่พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า อร่อยเหลือล้น ในราคา 110 บาทกับเนื้อสิบกว่าไม้เห็นจะได้ และเมนูชื่อแปลกอย่าง ปาปาแซ ที่มี Base เป็นน้ำข้าวซอยเนื้อ แต่เปลี่ยนเส้นจากเดิมที่เป็นเส้นกรอบให้กลายมาเป็น เส้นหนึบๆ ที่ทำมาจากข้าวกล้องแทน ถือเป็นอาหารแปลกที่อยากให้คุณผู้อ่านได้มาลิ้มชิมรสกันครับ ที่นี่ยังมีอะไรมากกว่า ข้าวซอย อย่างเกี๊ยวซอย และก๊วยเตี๋ยวอีกหลากหลายให้ได้มาลิ้มชิมรสกันนะ
ปาปาแซ อาหารชื่อแปลกกับรสชาติที่คุ้นเคย
สะเต๊ะเนื้อ อร่อยมากกกกก
แปะลิงก์ช่วยร้านครับผม
facebook.com
ร้านข้าวซอยอิสลาม เชียงใหม่ Khaosoi Islam Chaingmai
ร้านข้าวซอยอิสลาม เชียงใหม่ Khaosoi Islam Chaingmai, CNX. 308 likes. ร้านข้าวซอยอิสลาม เชียงใหม่ค่ะเปิด 08.00-17.00 น.ข้าววอยเส้นบะหมี่ไข่ทำเองแสนอร่อย เปิดทุกวั
อ่านเพิ่มเติม
ออกเดินเท้ากันต่อได้หลังมื้อนี้ผ่านไป เราวางแผนกันว่าจะเที่ยวในคูเมือง จึงเดินมุ่งตรงไปอย่างรวดเร็วเลยหล่ะ ผมเข้าใจว่าวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์นั้น นักท่องเที่ยวคงน้อยเป็นปกติ แต่ที่คาดไม่ถึงคือ ที่คูเมืองที่ควรจะคึกคักแห่งนี้กลับไม่มีคนเดินเลยด้วยซ้ำ ร้านรวงเปิดกันแบบเงียบเชียบ บ้างก็ปิดตัวลงเพราะคงไม่มีกำไร โควิดได้พรากอะไรหลายๆ อย่างไปจากพวกเราอย่างแท้จริงครับ
วัดลอยเคราะห์
พวกเราเดินกันจนไปเจอเข้ากับวัดลอยเคราะห์ ตัววัดก็เหมือนวัดทั่วไปที่มีนับไม่ถ้วนในตัวเมืองเชียงใหม่นั่นแหละ แต่สิ่งหนึ่งที่มาสะดุดใจพวกเราคือคุณลุงท่านหนึ่งที่ตรงดิ่งมาและเสนอเหมารถเที่ยวในราคา 800 ต่างหากหล่ะ เอาละสิ ลุง 1600 เมื่อเช้าอาจเป็นเคราะห์ที่เราคงต้องลอยทิ้งไปก็ได้
ข้างในงามงดตามแบบชาวเหนือเลยครับ
ใช่แล้วละครับ เราโทรไปยกเลิกลุงคนแรก เพื่อ 800 บาทจากลุงคนที่สองจริงๆ ด้วยหล่ะ พระเจ้าดูเหมือนจะมีวิธีเล่นตลกหักมุมซ้ำซ้อนกับพวกเราในแบบที่คาดไม่ถึงจริงๆ
บันทึก
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
นี่หรือ!?! เชียงใหม่ การเดินทางแบบที่พระเจ้าสั่งไว้ไม่ให้ขึ้นเขา
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย