5 ม.ค. 2021 เวลา 17:05 • นิยาย เรื่องสั้น
Chapter2.1
[Part’ Carlos]
 
ตำราเรียน Soul1001
เมื่อสิ้นอายุขัย มนุษย์ผู้ประเสริฐย่อมถูกเชิญไปร่วมงานสังสรรค์บนชั้นสรวงสวรรค์ หากเป็นผู้เดรัจฉานก่อกรรมทำเข็ญย่อมถูกลงทัณฑ์ตามแต่บาปที่ทำไว้ แต่หากมนุษย์ผู้ใดตายแล้วยังไม่ไปในภพภูมิหลังความตาย หมายความว่ามนุษย์ผู้นั้นยังละกิเลศทางจิตมิได้
ครบรอบวัน รอบเดือน รอบปี ความเจ็บปวดยิ่งทวีคูณขึ้น เมื่อใดปลงได้รับรู้ได้ เมื่อนั้นแลพ้นทุกข์
จงช่วยให้เขาพ้นทุกข์ เพราะจิตที่บริสุทธิ์เท่านั้นควรคู่แก่การให้อภัย (บางช่วงบางตอนในหนังสือเล่มดำ)
หลายวันต่อมา
ความจริงผมเห็นคิริวตั้งแต่แรก ผมเห็นความทรมานของเขาทุกวัน เห็นเขาสิ้นใจตายและตื่นขึ้นมาร้องไห้ต่อหน้า ผมพยายามหาอะไรทำ พาตัวเองไปข้างนอก เลือกไม่อยู่ตรงนั้น รอให้คิริวผ่านวิบากกรรมไปได้แล้วค่อยกลับมา แต่นานวันเข้าทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม
'ตึกๆ ตึกๆๆ'
แรงเต้นถี่นี่อะไร ความอึดอัดนี่ก็ด้วย ผมไม่เคยรุ้สึกถึงความอบอุ่น จนคิริวมาอยู่ด้วย บางอย่างในตัวผมก็เริ่มเปลี่ยนไป
'อืมม...'
เสียงครางหงุดหงิดของคิริวดังอยู่ใกล้ ไม่ได้ดูสภาพตัวเองเลยว่านอนกอดผมแน่นจนแทบกระดิกตัวไม่ได้แล้ว พอผมจะลุกก็ไม่ยอม บ่นงำงึมทั้งยังกายมาทั้งตัวจนผมยอมแพ้
"คิริวปล่อย..." ผมกระซิบบอกเบาๆ ไม่ได้อยากกวนเวลาผีจะนอน แต่ถ้ายอมให้ทับแบบนี้ต้องไม่ดีแน่
"หืม.. จะไปทำงานอีกแล้วหรอ" คิริวถามทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท
"เปล่า นายทับฉันยังงี้ จะให้ลุกยังไง" ผมเถียง
"ไม่จริงอะ ผมเป็นผีไม่ใช่คนนะ ผมไม่มีร่างกายซะหน่อย" คิริวไม่พูดเปล่ายังซุกหน้าลงซอกคอผมราวเป็นเด็กกอดหมอนข้าง ทันไม่ไหวแล้วครับ เช้าๆ ร่างกายคนเราควบคุมได้ที่ไหน ขึ้นยอมให้หมอนี่กอดเขาต้องผิดสังเกตแน่
'โอ๊ย!' ผมฟาดมือลงก้นคิริวเต็มแรง ร่างบางบนตัวสะดุ้งตื่น เขาลืมตาและจ้องดุดันก่อนจะเปลี่ยนไปมองร่างกายตัวเองบนตัวผม
"เป็นไปไม่ได้อะ ผมเป็นผีนะสัมผัสอะไรยังไม่ได้เลย ผมจะกอดคุณได้ยังไง" คิริวเลิ่กลั่กรีบปฏิเสธ ทั้งที่หลักฐานก็ชัดเจนอยู่แล้วเพราะเขายังอยู่นอนบนตัวผม
"ให้ฟาดอีกทีไหม เผื่อยังไม่ตื่น" ผมแกล้งถาม
"ไม่ต้อง" เขายังไม่ลุกออกไปง่ายๆ เพียงแค่เปลี่ยนท่าเป็นนั่งคร่อมร่างผมไว้
"ทำไม.. ทำไมผมเป็นแบบนี้ล่ะ" เสียงพร่าแบบคนเพิ่งตื่นพูดพร่าสำรวจร่างกายตัวเอง ฝ่ามือจับหากัน ลุบไล้ผ่านช่วงแขนลากขึ้นจนสัมผัสแผงอกตัวเอง แล้วลากลงต่ำมาวางค้างลงเนินท้องน้อยผม
"เอ่อ... ลุกไปก่อนดีไหม ฉันจะได้ลุกบ้าง"
ไม่ดีเลยตอนนี้ตัวผมร้อนยังกลับถูกไฟเผา แถมแรงประหลาดในอกก็เต้นถี่ยังกลับพร้อมใจลุกฮือมาประท้วง ผมบอกแบบนั้นเพราะบางส่วนของผมก็กำลังลุกเหมือนกัน ผมไม่ชอบตัวเองตอนนี้เลย มันแปลกไปหมด
"ไม่! ผมว่าจะถามคุณหลายครั้งแล้ว คารอสนอกจากคุณจะเห็นผมแล้ว ทำไมคุณถึงสัมผัสผมได้" เสียงคิริวสั่นเทา ดวงตาของเขาวับวาวบ่งบอกว่าดีใจอยู่ไม่น้อยที่เราสัมผัสกันได้ ในขณะที่ผมรู้อยู่แล้ว ...ก็ไม่เห็นจะแปลก!
"คิดอะไรน่ะ เห็นได้ก็ต้องจับได้ซิ นายเป็นผีแล้วยังไง ไม่เคยได้ยินหรอว่าผีก็คือพลังงาน ไม่เห็นจะแปลก"
"แปลกซิ ก็ผมจับอะไรไม่ได้เลยนอกจากคุณ"
"ไม่มั้ง"
"จริง"
"ไหนลองจับนี่ซิ"
ผมยืนนาฬิกาคู่ใจให้คิริวจับ ซึ่งแน่นอนว่าเขาสัมผัสมันได้ ผมเลยย้อนกลับไปว่า "นายคิดไปเองหรือเปล่า หนังสือ เตียง ที่นอน หมอน หรือแม้แต่เพลงที่นายเปิดอยู่ทุกวัน นายก้จับมันไม่ใช่หรือไง"
คิริวคิดตาม เขาไม่สังเกตตัวเองเลยว่าเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ตอนนี้ร่างเขาไม่โปร่งแสงอีกแล้ว ไม่เย็นจัดแต่กลับอุ่นคล้ายคนปกติ
"หมายความว่าไง นี่ผมจะได้เป็นคนหรอ" ผมรู้ว่าคิริวพูดเล่น แต่น้ำเสียงกับแววตานั้นปลาบปลื้นดีใจจนผมนึกอยากให้เป็นความจริง
ผมว่าคนเราควรมีโอกาสครั้งที่สอง ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่มันผิดพลาดกันได้ทั้งนั่น ผมไม่เห็นด้วยที่ความผิดจะติดตัวไปตลอดชีวิต เพราะมนุษย์มีอารมณ์ชั่ววูบเหมือนๆ กัน
ผมเพียงยิ้มและนอนนิ่งให้คิริวกลิ้งเกลือกตัวบนร่างผม ไม่ว่าเขาจะซุกซนจับโน้นจับนี่บ้างผมก็ไม่บ่น พอจับจนพอใจเขาก้ทำท่าจะลุก ในขณะที่ผมเอื้อมมือไปคว้าเขาไว้โดยอัตโนมัติ
'เดี๋ยว!'

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา