หลังจากได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ได้ ผมก็ไม่ไปไหนเลย นั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือจนครบเกือบทุกเล่มแล้ว บุคลิกคารอสต่างจากของสะสมมาก(เดาเอาว่าสะสมหนังสืออะนะ) เขาดูสมัยใหม่ไม่น่าเชื่อว่าจะอ่านเรื่องหลังความตายเป็นจริงเป็นจัง
ถึงผมจะใกล้เคียงมนุษย์แล้วแต่ก็ยังไม่มีตัวตนอยู่ดี เห็นจะมีแค่เรื่องเดียวที่พอทำได้
‘อืมม....’
กลีบเนื้ออุ่นถูกทาบทับ เม้มคลึงนิดๆ ราวขออนุญาตแทรกลิ้นสากเข้าทักทาย เผยอปากแต่น้อยยอมให้เรียวลิ้นกวาดต้อนส่งไออุ่นให้ ผมรู้ว่าจูบปลิดวิญญาณนี้อาจทำให้ผมตายรอบสองได้ แต่ก็ยอมทั้งที่ผมจูบไม่เก่งเลย
คารอสมักออกคำสั่งแต่แปลกที่ผมกลับยอมทำตาม “เงยหน้าหน่อย” ทั้งที่เขาตักตวงรสจูบจนหอมหวานแต่ก็ยังตะบี้ตะบันลิ้นสาก
“พอแล้ว คุณจูบผมนานไปแล้วนะ” ร่างอ่อนระทวยในแผงอกกว้างกำมือทุบประท้วง ผมเง้าเสียงร้องขอ สาบานได้ว่าตอนเป็นคนผมไม่ทำอะไรแบบนี้แน่ แต่เพราะสาเหตุการตายของผมมาจากเซ็กซ์วิตถารนั่น คารอสจึงออกความเห็นว่าผมควรเรียนรู้มันจะได้ไม่ตื่นสนาม
“ทำไมล่ะ นายก็ดูชอบนิ” คาร์ลอสถาม
“แต่คุณจูบมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ ผมใกล้จะตายอีกรอบแล้ว”
“หรืออยากข้ามขั้นไปทำอย่างอื่น” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์มาพร้อมสายตาอ่านกินร่างกายผม
“บ้าน่า! ไม่ต้องก็ได้”
“ไม่ได้! ใกล้ครบรอบวันตายของนายแล้ว ถ้านายไม่ฝึกให้ชินนายก็ไม่หลุดพ้นน่ะซิ”
“มันไม่เหมือนกัน เรื่องแบบนี้ใครจะชิน”
“ทำบ่อยๆ ก็ชินเอง หรือว่าคุณไม่อยากทำกับผม”
คารอสพูดจบก็นิ่งไป ผมก็เพิ่งรู้เนี่ยว่าตัวเองแพ้โหมดนี้ของเขามาก ทั้งที่ตัวเองทำเสียงงอแงคีย์สิบแปด แต่พอเจอโหมดงอนแบบนิ่งๆ ของเขาผมกับยอมทุกอย่าง
เคยคิดว่าเขากลืนกินวิญญาณผมผ่านรอยจูบนั้น เพิ่งเข้าใจตอนนี้เองว่าไม่ใช่! เขาต่างหากที่เติมเต็มความเป็นมนุษย์มาทีละนิด ร่างผมเห่อร้อน ไออุ่นออกมาตามลมหายใจ กลายเป็นว่าผมเริ่มขาดเขาไม่ได้