Chapter2.3(Unseen Part)
[Unseen]
“อึก! เจ็บนะ เอาออกไปก่อน” จริงๆ ผมสบถคำหยาบออกมาด้วยครับ แต่ขอเซ็นเซอร์ตัวเองไว้หน่อย จะไม่ให้เจ็บได้ยังไงเมื่อนิ้วหนาของคารอสสอดเข้ารูหลังเต็มความยาว
“อย่าเกรงซิ! ของผมใหญ่กว่านี้ตั้งเยอะนะ” โอ๊ย! ยังมีหน้ามาพูด ผมรู้ครับผมรู้! ก็แอบมองอยู่ทุกวันจะไม่รู้ได้ไง
“ก็มันเจ็บนี่น่า” กระเส่าเสียงแง่งอน กดหน้าลงเนินไหล่คารอสกัดฟันไว้แน่น พยายามผ่อนลมหายใจระบายความเกร็งออกมา
“ไม่เกร็งนะ ถ้าเจ็บนายจะกัดฉันก็ได้” เสียงกระซิบพร่าทำผมตวัดสายตาจ้อง เขาพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า
ร่างผมถูกพลิกขึ้นทับ โดยมีร่างสูงใหญ่กึ่งนั่งกึ่งนอนรองรับอยู่ข้างล่าง จากที่เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองไม่ได้เตี้ย ไม่ได้บอบบางแบบผู้หญิง พอมาอยู่บนอกเขาผมกลายเป็นผู้ชายตัวเล็กตัวน้อยขึ้นมาทันที
“ขยับซิ!”
นิ้วหนาในตัวผมไม่ขยับเขยื้อนฝืนช่องทางคับแน่น มีแต่เขาจะเย้าแหย่กวนอารมณ์ให้ยิ่งรู้สึกอยาก ‘เอาวะ! เป็นผีแล้วไง ผีอยากไม่เป็นหรอ’ ผมขยับตัวอย่างว่าง่าย เด้งตัวแผ่วให้ปากทางเกินหน้าที่ครูดนิ้วหนาขึ้นลงจนเป็นจังหวะ
“ดีมาก จำความรู้สึกนี้ไว้นะ” ผมขย่มเร็วขึ้นๆ แท่งเอ็นพองตัวเด้งส่ายหัวไปมาตามจังหวะกระแทก คารอสช่วยกอบกำมันไว้ไม่ให้ทิ่มลงเกินไป มืออีกข้างช่วยชักคลึงจนแท่งแข็งกระตุกตัวปล่อยของเหลวออกมา
ความต้องการอัดแน่นทะลักออกมาอย่างง่ายดาย ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงต่อดี ทั้งที่เขาแค่สอนทำไมเราต้องรู้สึกมากขนาดนี้นะ
...หรือเราจะหลงรักมนุษย์เข้าแล้ว
หลังจากทำคารอสเปื้อนน้ำกาม ผมก็รีบหาผ้ามาเช็ด กระวนกระวายเดินเขินไปเดินมาเตะโน้นชนนี่จนเขาต้องบอกให้หยุด “พอ! อาบน้ำกันดีกว่า” เขาไม่รอช้า ช้อนร่างเปล่าเปลือยของผมเข้าวงแขนพาอุ้มเดินมาห้องน้ำทันที
ร่างกอดก่ายถ่ายทอดสัญชาตญาณดิบจนหนำใจ ผมไม่รู้ว่าที่เราทำอยู่เรียกว่าอะไร รู้แค่มันดีมาก ดีมากจนแทบจำเรื่องไอ้โชคไม่ได้แล้ว
อ่างน้ำจากุกซี่มีน้ำอุ่นรอพร้อม ผมกวาดสายตามองรอบด้าน ‘ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย’ ความทรงจำเลวร้ายทำผมเกร็งอีกแล้ว คารอสผิดสังเกตจึงรั้งตัวไปกอด
“อย่ากลัว นายต้องยอมรับความจริงให้ได้” ริมฝีปากจรดอยู่ข้างแก้ม กระซิบคำสั่งแสนหวานในขณะที่ผมขอบตาร้อนผ่าว ความโหดร้ายแล่นลิ่วในใจจนน้ำใสเอ่อล้น
“ไม่! ผมกลัว” ผมสะอื้นตอบ
“ตรงนี้มีฉันอยู่ นายไม่ต้องกลัวไปหรอก” คารอสกอดผมไว้แน่น ทั้งที่คิดว่าลืมได้แล้วแต่พอเห็นเข้าจริงๆ กลับเจ็บปวดมาก
วันนั้น ไอ้โชคเพื่อนสนิทที่คณะขอมาค้างด้วย ผมก็ยินดีเพราะเห็นว่าเป็นผู้ชายด้วยกันไม่น่าจะมีอะไร ที่ไหนได้! มันใช้กำลังกับผม ซ้อมผม แล้วก็ยัดเยียดสิ่งที่ผู้ชายคนหนึ่งไม่อาจทนได้ให้ผม เพียงเพราะมันคิดว่าผมน่ารักแบบผู้หญิง
ผมรองรับอารมณ์มันทุกท่า ไม่ว่าจะบนเตียง โซฟาหรือแม้แต่ในอ่างน้ำนี่ แรงกระแทกรัวถี่ทำร่างผมกระเด้งกระดอนพร้อมหยดน้ำตา ความอัปยศถูกถาโถมใส่ผม ทั้งที่โกรธเกลียดสะอิดสะเอียนเหลือเกิน ผมกลับไม่มีแรงหนี ต้องทนรับชะตากรรมแสนโหดร้ายเจ็ดวันเจ็ดคืนจนตัดสินใจฆ่าตัวตาย
“ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย ผมยังไม่อยากตาย”
ภาพเก่าๆ ประมวลมาเรื่อย ต่างไปที่วันนี้มีใบหน้าคารอสด้วย เหมือนในห้องนี้มีกันสามคน ผมเห็นคารอสต่อยไอ้โชคจนสลบแล้วก็ปรี่มาคว้าตัวผมไว้
“ไม่มีใครทำอะไรนายแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ”
“คารอส! ผมเจ็บ ทำไมไม่หายสักที! มีแต่จะเจ็บมากขึ้น”
“ใกล้ถึงเวลาของนายแล้วซิ ทนหน่อยนะอีกไม่กี่วัน นายก็จะหลุดพ้น”
“หลุดพ้นหรอ”
ผมจำข้อความในหนังสือได้ ก็พอเข้าใจสิ่งที่คารอสพูด ใกล้ครบรอบวันตายแล้ว ถ้าปีนี้ปลงได้ผมจะหลุดพ้นจากโลกมนุษย์ ถ้าถึงตอนนั้น ...ผมยังจะจำคารอสได้ไหม
“แล้วคุณล่ะ ผมจะได้อยู่กับคุณไหม” ผมถามในสิ่งที่สงสัย คารอสไม่ตอบ ก็แน่ล่ะซิ! เขาเองก็คงไม่รู้หรอก
“ถึงเวลาก็รู้เองแหล่ะ”
คำตอบที่ผมพอเดาได้หลุดออกมาจากปากคารอส ผมเพียงทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่สบอารมณ์นัก ซุกหน้าลงแผงอกกว้าง ถูสันจมูกไปมาแสดงออกว่าไม่พอใจ ได้ยินเสียงขำน้อยๆ เหนือหัว ไออุ่นจากฝ่ามือหนาลูบหัวปลอบ ก่อนวางค้างอยู่ท้ายทอยแล้วออกแรงบังคับให้ผมเชิดหน้าขึ้น
กลีบปากสีส้มฝาดทาบทับลงมาแผ่วเบา ดวงตาเราสองยังจ้องมองกันหวานฉ่ำ ประกายวิบวับที่ไม่อาจเสแสร้งได้ทำผมคลี่ยิ้ม รู้สึกคุ้นมากๆ ทำไมคิดไม่ออกนะว่าเคยเจอที่ไหน