5 ก.พ. 2021 เวลา 23:00 • ท่องเที่ยว
ไปเที่ยว...เมืองบรูจส์ (Bruges) กันดีกว่า✈️✈️
รถม้า วิ่งผ่านความสวย ขลัง ของเมือง บรูจส์ (Bruges)
ห่างหายจากการชวนเที่ยวไปพักใหญ่ๆแล้ว วันนี้เลยกลับมาชวนเที่ยวอีกครั้ง เพื่อผ่อนคลายๆ รับเช้าวันหยุดน่าจะดี จึงกลับมานั่งค้นรูปในกรุ เอามาปัดฝุ่น แล้วเริ่มเดินทางไปด้วยกันอีกครั้ง✈️✈️
เมืองนี้ มีโอกาสไปเหยียบเป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกกับครั้งหลังห่างกันถึง 13 ปี และที่ต้องไปอีกหน เนื่องจากผองเพื่อน อยากเที่ยวเมืองนี้ ซึ่งอยู่ในแผนการเดินทาง ทริปยาว ทริปใหม่ของเรา ดังนั้นคนอื่นๆจะตื่นเต้นกันมาก แต่เรากลับรู้สึกว่าครั้งนี้ไม่ประทับใจเท่าครั้งแรก
อาจเป็นเพราะคุ้นกับสถานที่แล้ว และมาครั้งหลังนี้ ดูเหมือนอาคารสถานที่ดูเก่าขึ้นและความสะอาดตาก็ลดน้อยลง
เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลก ดังนั้นอาคารบ้านเรื่อนจึงมีความสวยงาม สถาปัตยกรรม บ้านเรือนที่นี่เป็นสไตล์โกธิคแบบดั้งเดิม ที่นี่นอกจากอาคารบ้านเรือนจะสวยแล้ว ยังมีลำคลองมากมาย จนทำให้ เมืองบรูจส์ ได้รับการขนานนามว่า “The Venice of the north” ซึ่งเดิมในอดีตใช้เป็นช่องทางสำหรับเดินทางค้าขาย
ท่าเรือ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการล่องเรือชมเมืองสวยๆ
แต่ในปัจจุบัน ลำคลองเหล่านี้ จะมีเรือเล็ก สำหรับพานักท่องเที่ยว นั่งชมบรรยากาศ และดูอาคารบ้านเรือนเสียมากกว่า เพราะการล่องเรือลัดเลาะไปตามคลองได้ชมอาคารเก่าแบบใกล้ชิด มีเสน่ห์ไปอีกแบบ จึงแนะนำว่า หากมาถึงที่นี่แล้ว ควรจะต้องล่องเรือสักครั้ง จะพบอีกบรรยากาศแตกต่างจากการเดินชม
Lake of Love ทะเลสาบแห่งความรัก
หากเดินสำรวจ ให้รอบๆเมืองนี้ ทำได้ไม่ยากนัก ใช้เวลาประมาณ 1 วันก็น่าจะพอได้ แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามขึ้นไปบนประสาท หรือเดินเข้าพิพิธภัณฑ์ เพราะจะใช้เวลาค่อนข้างมาก ทำให้เดินไม่ทั่วได้
พวกเรา เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน เนื่องจากพักที่นี่ เดินชิวๆจนมาถึงส่วนที่เรียกว่า ทะเลสาบแห่งความรัก ที่นั่งเรือผ่านเมื่อสักครู่❤️
มองเผินๆ จะเหมือนสวนสาธารณะทั่วๆไป แต่ตรงนี้มีกลุ่มหงส์ สีขาวฝูงใหญ่ยื่นไซร้ขน บ้างก็ว่ายน้ำไปมา โดยมีฉากหลังเป็นสะพานสวยๆกับตึกงามๆ พร้อมเสียง Accordion บรรเลงเพลง La Vie en rose ลอยลมมา ทำเอาหัวใจคนช่างฝันอย่างเรา กองอยู่แถวๆนั้นเลย
เราแอบเพื่อนมานั่งฟัง Accordion แว๊บนึง เพราะไม่มีใครชอบเพลงบรรเลงแบบนี้ เลยสักคน มีเราที่ชอบอยู่คนเดียว ก็แอบมานั่งหน้าแฉล้ม ฟังเพลงสมใจ และแล้วเพลงโปรดปรานก็บรรเลงขึ้น เหมือนเป็นของขวัญให้เรา เพลง O Sole Mio บรรเลงเบาๆ ฟินมาก อากาศเย็นๆ มีฉากหลัง เป็นสะพานโรแมนติค เลยต้องทิป หนุ่ม Accordionไปเสีย 5 Euro สบายใจไป🥳🥳
ว่ากันว่า สะพาน ในรูปด้านบนมีตำนานเรื่องความรัก ตอนนั่งเรือไกค์เล่าให้ฟัง แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด รู้แต่เพียงว่า ถ้าคุณเดินข้ามสะพานที่แสนสวยนั้นและ Kiss กับคนที่คุณรัก มันจะทำให้รักคุณกลายเป็นความรักชั่วนิรันดร์ (เสียใจ นั่งอยู่คนเดียว เลยอดมีความรักชั่วนิรันดรเลย)😔😩
ช๊อคโกเล็ตร้อน กับ วาฟเฟิล อร่อยจนลืมไม่ลง
ขนมอันขึ้นชื่อของเบลเยี่ยม แน่นอนที่สุด ต้องเป็นวาฟเฟิลและช๊อคโกเล็ต ดังนั้นหากมาแล้วไม่ได้ทาน เหมือนมาไม่ถึง เลยต้องจัดไป ตามรูป วาฟเฟิลอุ่นๆโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ทานกับไอศครีม และช๊อคโกแลตร้อนๆ ที่หวานกำลังดี อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ
ดอกไม้ น่ารักๆ😍😍
คนเมืองนี้ ก็เหมือนคนในหลายๆเมืองของยุโรป ที่มีความโรแมนติคสูงส่ง จึงไม่แปลก ที่จะชินตากับดอกไม้หลากสี หลากชนิด ที่เขาปลูกไว้แบบกระจุ๋มกระจิ๋ม เต็มไปทั้งเมือง คนบ้าดอกไม้อย่างเรา ก็เลยเดินหน้าระรื่น😊
เมืองนี้มีหน้าต่างสวยๆเยอะมาก
อย่างที่บอกไปในตอนก่อนๆ ผู้เขียน มีความคลั่งไคล้ เป็นพิเศษ กับบานหน้าต่าง การตั้งวางดอกไม้ และผ้าม่าน เลยทำให้ถูกเพื่อนๆทิ้ง เพราะมัวแต่จดๆจ้องๆส่อง อยู่ตามหน้าต่างชาวบ้าน เป็นนานสองนาน
ไม่อยากจะบอก มีเก็บภาพหน้าต่าง จากประเทศต่างๆที่ไปมา น่าจะเป็นร้อยภาพ มันเป็นความชอบส่วนตัว และเมืองนี้ก็เป็นศูนย์รวมหน้าต่างสวยๆเต็มไปหมด
เมืองบรูจส ยามเย็น
เมืองนี้ จะมีคนขวักไขว่ ในช่วง 10.00 - 16.00 หลังจากนั้นแล้วคนเริ่มบางตาลง เราพักอยู่กลางเมืองเก่านี้ จึงเดินเล่นได้ตั้งแต่เช้าตรู่ ยันเย็น ทำให้รู้ว่าเมืองสวยเมืองนี้ เงียบสนิท หลัง 6 โมงเย็น เงียบจนเสียงหัวใจดังชัดเจนเลยเชียว ประกอบกับอากาศเย็นลงๆ มันเลยเหงาอย่างบอกไม่ถูก
ของฝากน่ารักๆ ที่วางขายในตลาดวันเสาร์
ได้เดินผ่านไปเจอตลาด เหมือนตลาดนัดบ้านเรา ที่เขาเอาของมาตั้ง วางขายของสารพัดชนิด ส่วนใหญ่เป็นของที่ระลึก น่ารักๆเต็มไปหมด ราคาไม่ถูก เราเองได้แต่เอามือจับเบาๆแล้ววางไว้ที่เดิม เพราะตังค์ดันไปทิป หนุ่มAccordion หมดแล้ว😁
รูปบนสุดคือรูปประแจ ซึ่งเรามองผ่านตู่กระจกนานสองนาน สรุปมันคือ ช๊อคโกเล็ต
อย่างที่รู้ๆกัน เบลเยี่ยม มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านช๊อคโกเล็ต ดังนั้นไม่แปลกที่จะมีร้านช๊อคโกเล็ตเกลื่อนไปหมด มีการทำเป็นรูปแบบต่างๆมากมาย สำหรับเป็นของฝากให้แก่นักท่องเที่ยว เลือกซื้อ ปกติเราเป็น
คนไม่ชอบช๊อคโกแลต แต่มาที่เบลเยี่ยม ชีวิตก็เปลี่ยนไป กลับใจมาชอบกินเสียแล้ว สาเหตุจากเดินชิมร้านโน้น ร้านนี้ จนน้ำตาลขึ้น เลยเริ่มซึมซับความอร่อย
ภาพบน จ้องดูดีๆ ประแจจากช๊อคโกแลต. เหมือนมากๆ😮😮
ตลาด Grote Markt
ตรงนี้เหมือนตลาดใจกลางเมือง จะมีร้านกาแฟ ให้นั่งจิบยามเช้าและมีร้านอาหารในยามเย็น บริเวณนี้เป็นจตุรัส ที่ถูกล้อมรอบด้วยอาคารที่เป็นศาลาว่าการและศาลประจำจังหวัด และมีหอระฆัง Belfort ตั้งตระหง่านอยู่เหนือจัตุรัสแห่งนี้ด้วย ซึ่งอย่างเคย ก็จะมีเสียงระฆังดังเหง่งหง่าง ไพเราะ เข้ากันกับอาคารบ้านช่องสุดจะโรแมนติคแห่งนี้
จำได้ว่า แถวๆจตุรัส Grote Markt เป็นศุนย์รวมอาคารเก่าๆสวยๆ และหนึ่งในนั้นคือไปรษณีย์ ซึ่งอยู่แถวนี้เหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่าเป็นตึกไหนแล้ว และนิสัยส่วนตัว หากไปต่างประเทศ และถ้ามีเวลา เราจะแวะไปไปรษณีย์ เพื่อส่ง Postcard หาตัวเอง ตอนกลับมาถึงบ้านแล้ว postcard จะส่งกลับมาถึงตามหลังไม่กี่วันเอง มันทำให้รู้สึกตื่นเต้น ที่ได้รับpostcard ฝีมือการส่งของตัวเอง😂😂
ดนตรีเปิดหมวก ที่มีให้ฟังเยอเลยที่นี่
เมืองนี้ มีนักดนตรี เปิดหมวก ที่มีฝีมือ มานั่งบรรเลงเพลง ให้ฟังหลายๆจุด
ส่วนใหญ่จะเป็นเพลง classical เบาๆและรูปบน เป็นนักดนตรีที่มาเป็นครอบครัว สองหนุ่มเล่นกีตาร์เก่งมากๆ ด้วยความที่เขาเก่ง ก็นั่งฟังหลายเพลงแล้ว เลยอยากลองของเสียหน่อย เลยเขียนชื่อเพลงที่อยากฟัง ใส่กระดาษทิชชู ไปหย่อนพร้อมกับเหรียญ 2 ยูโร “ black magic women” ซักครู่หนุ่มมือกีตาร์คนขวามือ เปิดอ่านดู นางตอบยิ้มๆ เสียงดังว่า Sorry ไอขอไปฝึกก่อน ปีหน้ากลับมาฟังใหม่น๊ะ😢😢แหมก็เห็นเล่นเพลง “Hotel California “ ได้ดี
ปิดท้าย ฝากเพลงโปรด ที่บรรเลงด้วย Accordion ชื่อเพลง O Sole Mio มากล่อมให้เย็นใจ ประกอบการเที่ยวเมืองบรูจส์ (Bruges) ลองฟังดูค่ะ
📌 การเดินทาง มักมีความสวยงามให้จดจำเสมอ❤️✈️
📌 สถานที่ ทุกแห่ง มีเสน่ห์ แตกต่างกันไป
📌 ดนตรี และดอกไม้ ของคนยุโรป เป็นอะไรที่เกิดมาคู่กันจริงๆ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา