Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกลับปักษาสวรรค์ (จินตนิยายสามก๊ก)
•
ติดตาม
25 ม.ค. 2021 เวลา 03:26 • นิยาย เรื่องสั้น
1.9. เสริมส่งหรือวาสนา
ลิโป้ ทวนไร้น้ำใจ - สองมฤตยูสายองครักษ์ ลิฉุย กุยกี
อันที่จริง จอมมารร้ายตั๋งโต๊ะร่ำเรียนวิชาการมาจากเซียนผู้วิเศษ และผ่านประสบการณ์ทางทหารมาไม่น้อย ย่อมมิใช่คนโง่เง่าเบาปัญญาเหมือนอดีตสมุหกลาโหมโฮจิ๋นที่เป็นใหญ่ได้เพราะเส้นสาย ในสายตาของมันย่อมประเมินได้ว่า ขุมกำลังใดน่ายำเกรงที่สุด และสมควรถูกทำลายล้างโดยเร็ว
เป้าหมายสำคัญของมันในยามนี้ ย่อมต้องเป็นกลุ่มเชื้อพระวงศ์อาวุโส เล่าเปียว เล่าเอี๋ยน ผู้เคยโด่งดังนั่นเอง หากมันสามารถสยบสองคนนี้ได้แล้ว ขุมกำลังอื่นๆก็ยังห่างชั้นที่จะทำอะไรกับมันได้ เพียงแต่สองเจ้าเมืองใหญ่กลับสงบนิ่งจนเกินไป ไม่ยอมเปิดเผยท่าทีให้ชัดเจนสักที
ครั้งหนึ่ง สามพี่น้อง เล่าเปียว เล่าเอี๋ยน เล่าฉวน คือกลุ่มเชื้อพระวงศ์ที่มีความสามารถโดดเด่น เล่าเปียว หนักแน่น มากน้ำใจ เล่าเอี๋ยน รอบคอบ เจ้าปัญญา เล่าฉวน เก่งกาจ ห้าวหาญ ไม่ว่าผู้ใดก็สามารถขึ้นมาเป็นราชาที่ดีได้ เพียงแต่กษัตริย์ฮวนเต้หลงเชื่อคำเพ็ดทูล ชิงชังรังเกียจสามพี่น้อง จนถึงกับขับไล่ให้ไปรักษาหัวเมืองห่างไกล เพื่อเปิดทางให้เล่าหงได้เข้ามาเป็นรัชทายาท
เล่าหัว ซึ่งเป็นราชนิกูลอาวุโส และขุนนางสำคัญอีกหลายคนร่วมกันคัดค้าน กลับถูกลงทัณฑ์สาหัส จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ในราชสำนักวังหลวง และบาดแผลลึกระหว่างกลุ่มคนแซ่เล่าด้วยกัน ต่อมาภายหลัง เล่าฉวนยังตกเหวสิ้นชีพอย่างมีเงื่อนงำ ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเชื้อพระวงศ์สำคัญอยู่ในขั้นวิกฤตเลวร้าย
แม้ว่าราชนิกูลจะมีเรื่องราวบาดหมางต่อกัน แต่หากคนแซ่เล่ารวมตัวกันเพื่อจัดการต่อศัตรูภายนอก ยังอาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ทำให้ตั๋งโต๊ะยังคงต้องหวาดระแวงในท่าทีของบุคคลสำคัญของแผ่นดินเหล่านี้อยู่บ้าง
วิธีการเดินหมากของตั๋งโต๊ะที่ผ่านการพูดคุยตกผลึกกับลิยู ลิซก สองกุนซือหลัก ก็คือการทำลายความเชื่อมั่นของราษฎรที่มีต่อราชวงศ์ฮั่นอันเปราะบางให้ถึงที่สุด ดังนั้น ยิ่งประชาชนเดือดร้อน ยิ่งทำให้สถานการณ์คุกรุ่น และยิ่งจ้าวนครทั้งหลายเริ่มแตกแยกความสามัคคี ยิ่งเข้าทางกับแผนการของมัน เพราะจะกระตุ้นให้พวกเชื้อพระวงศ์แซ่เล่าต้องออกหน้านำผู้คนออกมาต่อต้าน เปิดทางให้มันใช้กำลังทหารเข่นฆ่าลดทอนฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเต็มที่ มิต้องมากังวลอยู่เนืองๆเช่นนี้
หลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าเมืองบางส่วนเริ่มแสดงท่าทีอ่อนน้อมยอมรับ บางส่วนแข็งขืนต่อต้าน เพียงแต่เป้าหมายหลักทั้งสองยังคงเงียบเชียบ คล้ายดั่งไม่มีตัวตน กลับตอกย้ำให้เห็นความลึกล้ำยากจะหยั่งถึงของขุมกำลังกลุ่มนี้
…
วันนี้ มหาอุปราชตั๋งโต๊ะรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะลิยูที่เป็นทั้งกุนซือ และลูกเขย เข้ามาแจ้งว่า เจ้าสัวเกียวชวน พ่อค้าคนดังประจำเมืองหลวง ที่สงวนท่าทีการติดต่อมานานหลายเดือน ในที่สุด ก็ยอมอ่อนข้อติดต่อขอมาสยบในอำนาจของตนแล้ว ถึงกับนำเอาทรัพย์สินเงินทอง และอัญมณีสิ่งของมีค่ามากมายมาส่งมอบให้ด้วยตนเอง เพื่อขอเข้าพบเป็นการส่วนตัว
การพบกันของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองหลวงเป็นภาพที่ค่อนข้างขัดตาอยู่บ้าง มหาอุปราชตั๋งโต๊ะเป็นคนร่างอ้วนใหญ่ มีตาเขียวผมแดงในรูปแบบคนเลือดผสมทั่วไป เสียงดังโผงผางตามประสานักรบกรำศึก นั่งตามสบายอยู่เก้าอี้ประธานในจวนที่พักของตนเอง ในขณะที่เจ้าพ่อการค้า เกียวชวน ที่ยืนคารวะอย่างนอบน้อมอยู่ตรงหน้า เป็นคนผอมสูง สายตาแน่วนิ่ง หนวดเรียวยาว ดูคล้ายบัณฑิตที่ละเอียดรอบคอบ จนเหมือนระมัดระวังตนอยู่ตลอดเวลา
“ข้าเชื่อว่า ท่านต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ จึงต้องยอมมาพบกับข้าด้วยตนเอง มีอะไรก็จงว่ากล่าวมาเถิด” ตั๋งโต๊ะเริ่มต้นเจรจาอย่างเปิดเผย
“ข้าน้อยมีเรื่องมาขอร้องต่อท่านสองเรื่อง เรื่องแรก คือ ขอให้ท่านสั่งการต่อพรรคพวกทั้งหลาย ละเว้นการหาเรื่องระรานต่อผู้คนในเครือข่ายกิจการร้านค้าของข้าน้อย เรื่องที่สอง คือ ละเว้นชีวิตของจิวยี่ ลูกชายของจิวจง อดีตเจ้าเมืองลกเอี๋ยงที่เพิ่งโดนจับกุมตัวไปเมื่อวันก่อนขอรับ” เจ้าสัวเกียวเข้าประเด็นทันที
ตั๋งโต๊ะหัวร่อฮาฮา พร้่อมกล่าว “ไม่ยาก ข้อแรก จงทำเครื่องหมายสัญลักษณ์รูปหมาป่าไว้ตามกิจการในสังกัดของเจ้าให้ชัดเจน ลูกสมุนของข้าจะไม่เข้าไปกล้ำกรายยุ่งเกี่ยวอีก ข้อสอง จิวยี่จะได้รับการปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้ แต่ต้องให้มันอพยพไปที่อื่นทันที ห้ามเข้าเมืองลกเอี๋ยงอีกตลอดชีิวิต แค่นี้เจ้าพอใจหรือไม่”
สมัยนั้น คนนอกกำแพงใหญ่ที่เติบโตในทุ่งหญ้ากับทะเลทราย สืบทอดความเคารพผูกพันต่อเผ่าพันธุ์สุนัขป่าตามนิทานเรื่องเล่าจากทะเลสาบจันทร์เสี้ยวและเนินทรายเสียงกระซิบบนเส้นทางทะเลทรายใหญ่ ยกย่องให้หมาป่าเป็นสัตว์เทพ ตั๋งโต๊ะเป็นลูกผสมชาวฮั่นกับชนเผ่าอูหวน คลุกคลีอยู่กับตำนานโบราณเช่นนี้ จึงยกสัตว์เทพมาใช้เป็นสัญลักษณ์การค้า
หมายเหตุ ตำนานหมาป่าทะเลทรายเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ของขุนพลนักรบสมัยโบราณกาล โดยมีฝูงหมาป่าเป็นผู้ช่วยสำคัญ เพื่อป้องกันการรุกรานแย่งชิงปลาวิเศษที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบจันทร์เสี้ยว
ส่วนเนินทรายเสียงกระซิบเป็นพื้นที่สมรภูมิรบซึ่งเมื่อยามลมพัดผ่าน ถึงกับส่งเสียงคล้ายเสียงกระซิบของผู้คน หรือเสียงดนตรีจากบทสวดมนต์
…
เจ้าสัวเกียวช่ำชองในการเจรจาต่อรองตามประสาพ่อค้า กลับประทับใจในความชัดเจนของฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาบ้างแล้ว รีบพยักหน้ารับคำ
“แต่ว่า ข้อตกลงสองเรื่องต้องแลกกับเงื่อนไขสองเรื่องเช่นกัน หนึ่งคือ จงจัดหาอาชาสายพันธุ์เหงื่อโลหิตพันลี้จากดินแดนซีอวี้ (ดินแดนนอกด่านทางภาคตะวันตก) มาให้ข้าภายในเจ็ดวัน สองคือ ข้าต้องการส่วนแบ่งผลตอบแทนจากการค้าทั้งหมดของเจ้าสามส่วน ส่งมอบมาที่นี่ทุกสามเดือน ทำได้หรือไม่” ตั๋งโต๊ะยิ้มหยันด้วยเงื่อนไขที่ยากจะจัดการได้
“ตกลงตามนั้น เจ็ดวัน น้อมส่งอาชาเหงื่อโลหิตและผลตอบแทนรอบแรก หลังจากนั้น ทุกสามเดือนต่อเนื่อง น้อมส่งส่วนแบ่งการค้าสามส่วน ไม่ล่าช้าเด็ดขาด” เจ้าพ่อกลับฉายแววความเข้มแข็งให้เห็น
“ประเสริฐ ยินดีที่ได้เจ้าเป็นหุ้นส่วนกัน” ตั๋งโต๊ะยิ้มอำมหิต ประเมินคนตรงหน้าใหม่ ในขณะที่เจ้าสัวเกียวประสานมืออำลาเป็นอันว่าจบการเจรจา
…
แม้ว่าการเจรจาจะจบลงอย่างง่ายดาย แต่เจ้าสัวเกียวชวนกลับต้องลำบากใจในเงื่อนไขการต่อรองทั้งสองประการ โดยเฉพาะการจัดหาม้าเหงื่อโลหิตจากดินแดนซีอวี้ นอกด่านฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ จนจำเป็นต้องส่งข่าวขอความช่วยเหลือไปยังสหายรักสกุลซุนที่มีเครือข่ายกว้างขวางด้วยนกพิราบสื่อสาร
ดินแดนซีอวี้ครอบคลุมอาณาจักรน้อยใหญ่นอกด่านบนเส้นทางทะเลทรายใหญ่ (เส้นทางสายไหมยุคโบราณ) ต่อสู้รบพุ่งผลัดเปลี่ยนกันสร้างอิทธิพลบารมี ยามนี้ ต้องนับว่า ชนเผ่าอันซิกับอิวจื่อเข้มแข็งที่สุด ผลักดันพวกซงหนู เซียนเปย และเกี๋ยง ตี ให้หยุดยั้งเพียงทุ่งหญ้าทะเลทรายทางตะวันออกเหนือเขตแดนต้าฺฮั่น สร้างเป็นชายแดนกันชนยืดยาวกว้างไกลไปตามเส้นทางการค้า
ส่วนม้าเหงื่อโลหิตกลับเป็นสายพันธุ์อาชาที่ขึ้นชื่อเรื่องความรวดเร็วและแข็งแกร่งเป็นที่สุด ภูมิอากาศที่ปรวนแปรโหดร้าย ภูมิประเทศที่สมบูรณ์ขัดแย้ง กลับก่อกำเนิดอาชาชั้นดี และแน่นอนว่า การจัดหาสัตว์วิเศษเช่นนี้ ย่อมซื้อหาไม่ง่ายดายนัก หากอิทธิพลบารมีไม่สูงส่งเพียงพอ
คาดไม่ถึง เพียงสองวันให้หลัง นกพิราบนำสารลับกลับคืนมา ใจความสั้นๆว่า จะวานสหายอีกคนจากแดนไกลให้นำม้าพิเศษมาส่งถึงบ้าน เกียวก๊กโลเชื่อมั่นในคำพูดของเพื่อนรัก จึงมุ่งจัดการในเงื่อนไขที่สองต่อไปก่อน
…
มันเองมีวิสัยพ่อค้า ย่อมไม่ทำการค้าให้ขาดทุนเปล่า ในเมื่อตั๋งโต๊ะต้องการค่าคุ้มครองสามส่วน แต่เปิดช่องโหว่ในการจัดการเพิ่มเติม มันจึงปรับสภาพให้เกิดผลตอบแทนที่คุ้มค่ากลับมาบ้าง
ณ ช่วงเวลานั้น กิจการร้านค้าในเมืองลกเอี๋ยงอยู่ในกำมือของเจ้าสัวเกียวเพียงสองส่วน แต่ก็นับว่า เป็นสัดส่วนเศรษฐกิจที่มากที่สุด ผู้คนจึงตระหนักดีว่า เกียวก๊กโลคือเจ้่าสัวผู้ร่ำรวย แต่หากกวาดตาดูทั่วเมืองแล้ว ยังคงมีกิจการรูปแบบต่างๆที่มีเจ้าของรายใหญ่รายเล็กอีกมากมาย รวมมูลค่าตลาดแล้ว กลับมีรายได้มากกว่าเจ้าสัวใหญ่ตามลำพังอีกหลายเท่าด้วยซ้ำ
แต่เพราะทุกคนล้วนแต่มีปัญหากับลูกสมุนของมหาอุปราชคนใหม่ เจ้าสัวเกียวจึงเรียกประชุมกลุ่มเจ้าของกิจการทั้งหลาย เสนอหนทางแก้ไขปัญหาด้วยการให้จัดตั้งสหพันธ์การค้าขึ้นภายใต้การปกครองของตนเอง เพื่อให้ทุกกิจการสามารถอ้างได้ว่า เป็นกิจการเครือข่ายการค้าของตนเอง และสามารถใช้สัญลักษณ์หมาป่าตามที่ตั๋งโต๊ะเสนอได้โดยชอบธรรม เพียงแต่จ่ายค่าตอบแทนให้มันห้าส่วนเท่านั้น
ดังนั้น เพียงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เจ้าสัวการค้าเกียวชวนจึงกลายเป็นหัวหน้าผู้ก่อตั้งสหพันธ์การค้าหมาป่า มีกิจการหุ้นส่วนเพิ่มขึ้นมากมาย และได้รับผลตอบแทนมากขึ้นกว่าในอดีตอย่างมหาศาล สมกับเป็นอัจฉริยะในแวดวงธุรกิจ
ยามนี้ เจ้าสัวเกียวเพียงรอคอยอาชาที่หายากยิ่ง และแล้ว เสียงม้าร้องก็ดังขึ้นอย่างกึกก้องที่หน้าบ้าน เกียวก๊กโลกังวลใจอยู่นานแล้ว จึงรีบออกมาจัดการด้วยตนเอง
เจ้าสัวมองเห็นม้าพันธุ์ดีมีสีน้ำตาลแดง หยดเหงื่อเป็นสีแดงโลหิตตามที่เล่าขาน ถูกบังคับให้อยู่นิ่งกับที่ โดยหนุ่มน้อยท่าทางเหี้ยมหาญ สะพายทวนยาวไว้ด้านหลัง พอเห็นเจ้าสัวออกมาเอง หนุ่มน้อยก็พลิกตัวลงมาคารวะตามธรรมเนียม “ข้าน้อย ม้าเฉียว บุตรชายของเจ้าเมืองเสเหลียงนามม้าเท้ง ได้รับคำสั่งจากท่านซุนเกี๋ยนให้จัดส่งม้าเหงื่อโลหิตจากดินแดนซีอวี้ ยามกระทันหันจึงได้แต่นำพาหนะส่วนตัวมามอบให้ก่อน มันชื่อเซ็กเทา (กระต่ายแดง)”
…
เครื่องบรรณาการสูงค่าทั้งส่วนแบ่งการค้าสามส่วน และอาชาเหงื่อโลหิต ถูกส่งเข้าไปยังจวนอุปราชอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง เจ้าสัวเกียวอาศัยวิธีการดังกล่าว ทางหนึ่ง แสดงให้ผู้คนรับรู้ถึงความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างตัวมันกับผู้บริหารแผ่นดิน อีกทางหนึ่ง ทำให้ตั๋งโต๊ะไม่อาจบิดพลิ้วต่อข้อเสนอที่เรียกร้องมาในวันก่อน
วันรุ่งขึ้น คุณชายจิวยี่จึงได้รับการปล่อยตัวออกมาจริงๆ เจ้าสัวเกียวจัดสรรรถม้าคันใหญ่มารับคนด้วยตนเอง และส่งตัวออกนอกเมืองไปในทันที ที่เนินสูงนอกเมือง มีรถม้าอีกสองสามคันรอคอยอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกลุ่มนักสู้อารักขาจำนวนหนึ่ง พอทั้งหมดพบกันแล้ว เจ้าสัวเกียวจึงลงจากรถม้า กล่าวคำอำลากับคนในรถม้าในกลุ่มที่รอคอยอยู่ แล้วแยกขึ้นม้ากลับเข้าเมืองไปก่อน ขบวนรถม้าสามสี่คัน และกลุ่มผู้อารักขาจึงเริ่มออกเดินทางลงไปทางใต้
โจโฉแอบมองดูเงียบๆจากมุมหนึ่งใกล้แนวป่า พึมพำขึ้นกับตนเอง “ลาก่อนอาซ้อและหลานๆ มิรู้ว่า ต่อไปจะมีโอกาสพบกันอีกหรือไม่”
ที่แท้ สายการข่าวล่วงรู้อยู่แล้วว่า เจ้าสัวเกียวคิดอาศัยสถานการณ์ครั้งนี้ จัดส่งลูกเมียของซุนเกี๋ยนให้ได้ออกเดินทางลงใต้ไปด้วยกัน นับตั้งแต่ซุนเกี๋ยนเปิดตัวเป็นอิสระ คนกลุ่มนี้ก็ซ่อนตัวอยู่ในเรือนของเจ้าสัวแล้ว แต่อ้วนเสี้ยว โจโฉ เห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีในเก่าก่อน จึงปกปิดข่าวลับเรื่องนี้เอาไว้ ยิ่งพอรับรู้่ว่า เกิดการเนรเทศจิวยี่ด้วย ก็สามารถคาดเดาได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในลำดับต่อไป
…
วันหนึ่ง กุนซือลิซกชักนำมหาอุปราชตั๋งโต๊ะให้ปลอมตัวเป็นเศรษฐีใหญ่ พร้อมองครักษ์ติดตามจำนวนหนึ่ง ไปเยี่ยมเยือนบ้านดอกไม้แดง เพื่อแสวงหาความแปลกใหม่ของการเสพสำราญ และพบกับสมุหกลาโหมอ้วนเสี้ยวที่รอคอยอยู่ในห้องรับรองพิเศษตามที่นัดหมาย ทั้งหมดจึงร่วมดื่มกินกันอย่างสุขสำราญ
และแล้ว พลันปรากฏนักฆ่าในชุดดำปกปิดใบหน้าบุกเข้ามา และสังหารเหล่าองครักษ์ที่ติดตามมาไปจนหมดสิ้น แม้แต่อ้วนเสี้ยวที่มีฝีมือสูงไม่น้อยก็ยังถูกฟาดจนสลบไปในสิบกระบวนท่า เหลือแต่เพียงตั๋งโต๊ะและลิซกเท่านั้นที่ยังมีสติอยู่ ตั๋งโต๊ะนึกเสียดายที่ขาดองครักษ์เล่าปี่สามพี่น้องที่หายสาบสูญไปในทันที ส่วนลิซกเหลือเพียงทางเลือกสุดท้าย คือ ตะโกนร้องให้คนช่วยเหลือ
ทันใดนั้น บุรุษหนุ่มร่างสูงใหญ่ วัยประมาณสามสิบปี ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูอย่างเงียบงัน พร้อมกับทวนยาวสีดำสนิท นักฆ่าในชุดดำรู้สึกถึงรังสีฆ่าฟัน จึงหยุดชะงักพร้อมประกาศเสียงดังว่า "เจ้าคือ ทวนไร้น้ำใจ ลิโป้ หรือ"
"ใช่" บุรุษนั้นกล่าวตอบสั้นๆ พลางเริ่มกระบวนท่าแรกเข้าใส่ และเพียงสามกระบวนท่า ก็สามารถเรียกเลือดจากนักฆ่าได้แล้ว ทำให้นักฆ่าหมุนตัวหลบหนีไปทางหน้าต่างในทันที ลิโป้ขยับตัวเหมือนจะติดตามไป แต่ตั๋งโต๊ะร้องห้ามไว้ และเรียกตัวเข้ามาใกล้ "ฝีมือไม่เลว จงมาเป็นองครักษ์ของเราเถิด"
ลิโป้นิ่งเฉยเหมือนไร้ความรู้สึก แล้วขยับกายเหมือนจะจากไปอีก ลิซกจึงขวางทางไว้เและรีบกล่าว "ท่านลิโป้คงจำเราลิซกที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันได้กระมัง เราขอแนะนำท่านให้พบกับท่านอุปราชตั๋งโต๊ะ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินคนใหม่"
"รับทราบ" ลิโป้ตอบสั้นๆ แต่ยังไม่สนใจแยแสอีก
ลิซกจึงลอบส่งสัญญาณถึงตั๋งโต๊ะพลางกล่าว "ท่านตั๋งโต๊ะรักคนมากฝีมือ ยอดคนคู่ยอดอาชา หวังว่าท่านจะรับม้าเซ็กเทาไว้เป็นของตอบแทนการช่วยชีวิต”
ม้าเซ็กเทาสายพันธุ์เหงื่อโลหิต นับเป็นอาชาวิเศษ โครงสร้างสูงใหญ่ แข็งแรง ซึ่งช่วยให้ทำการรบบนหลังม้าได้เปรียบขึ้นมาก และสามารถเดินทางไกลได้เร็วขึ้นหลายเท่า ถือเป็นหนึ่งในของวิเศษแห่งยุคเลยทีเดียว จึงเป็นประเด็นพูดคุยในตลาดกันอยู่ว่า ขุนพลใต้ร่มธงคนใดจะได้รับของขวัญล้ำค่านี้ไปครอบครอง
ลิโป้จึงเปลี่ยนสีหน้าจากเฉยเมยเป็นยิ้มแย้มขึ้นมาวูบหนึ่ง "ยินดี เป็นม้าดี"
ลิซกจึงรีบกระซิบกับตั๋งโต๊ะทันที "ลิโป้น่าจะยินดีกับลาภยศ ท่านพอจะรับลูกเลี้ยงเก่งๆไว้สักคนได้หรือไม่"
ตั๋งโต๊ะยังมึนงงกับความกดดันรอบด้าน จึงลืมคำทำนายของอาจารย์จนสิ้น ทั้งๆที่ผ่านมาก็ระมัดระวังตัว ไม่เคยรับภรรยาหรือบุตรหลานเพิ่มเติมโดยง่าย เพราะเชื่อถือในคำทำนาย แต่ครานี้ คนมีฝีมือปรากฏตรงหน้า กอปรกับฐานะตนเองที่เปลี่ยนไปแล้ว มันจึงรีบพยักหน้า และส่งเสียงดัง "เอาสิ ลิโป้ ในเมื่อเจ้าไม่อยากเป็นเพียง องครักษ์ ก็จงมาเป็นลูกเลี้ยงของเราเถิด"
ลิโป้ยิ้มแล้ว ตั๋งโต๊ะจึงยิ้มรับ ลิซกที่ยืนหลังตั๋งโต๊ะก็ยิ้ม อ้วนเสี้ยวที่สลบอยู่ลอบยิ้ม และ"นักฆ่าในชุดดำ“ ที่ซ่อนตัวอยู่นอกหน้าต่าง ซึ่งก็คือ "เหยี่ยวดำ ลำดับสิบสาม" ก็ยิ้มเช่นกัน "แผนการสำเร็จแล้ว ลิโป้ได้กลับมาอยู่ข้างกายตัวตั๋งโต๊ะแล้ว"
…
จู่ๆปรากฎขุนพลหน้าใหม่ ลิโป้ ขึ้นมาเป็นลูกเลี้ยงของผู้สำเร็จราชการ ตั๋งโต๊ะ ย่อมก่อให้เกิดกระแสต่อต้านจากเหล่าคนสนิท เช่น ลิฉุย กุยกี ฮัวหยง เป็นต้น ตั๋งโต๊ะต้องการทดสอบฝีมือเด็กใหม่อยู่แล้ว จึงสั่งให้จัดการประลองยุทธ์ขึ้น
ลิโป้ก้าวขึ้นไปยืนกลางสนาม พร้อมกับทวนไร้น้ำใจสีดำสนิท ฮัวหยง นักรบสมุนเอก ใจร้อน จึงเปิดฉากก่อน แต่เพียงสัมผัสอาวุธกัน ก็ตัวปลิวหงายท้องไปกับพื้นดิน ลิฉุย กุยกี เห็นว่า ผู้มาใหม่มีเรี่ยวแรงมหาศาล จึงชักชวนให้ออกไปต่อสู้พร้อมกัน ใช้กระบวนท่าฉกฉวย เลี่ยงการปะทะ ฮัวหยงก็เข้าร่วมวงต่อสู้ด้วยกลายเป็นสามรุมหนึ่ง แต่ก็ได้แค่พัวพันอยู่ระยะหนึ่ง กลับมีเค้าลางการพ่ายแพ้ขึ้นแล้ว
อ้วนเสี้ยว มองเห็นว่า หากไม่แสดงฝีมือบ้าง อาจจะมีข้อครหาสงสัย จึงหยิบเกาทัณฑ์เล็งใส่ลิโป้ เมื่อได้เป้าหมายแล้ว จึงตวาดเตือนให้ทั้งหมดรู้ตัว พร้อมปล่อยลูกเกาทัณฑ์ทันที
พอ ลิฉุย กุยกี ฮัวหยงได้ยินเสียงตวาด ก็รู้ทัน จึงหลบฉาก เบี่ยงไปคุมพื้นที่ด้านข้าง และด้านหลัง กระหนาบไว้ไม่ให้หลบหนีได้สะดวก ปล่อยให้ลิโป้ยืนประจันหน้าเป็นเป้าในการโจมตี
แต่แล้ว ลิโป้ กลับยืนนิ่งเป็นสง่า ปักทวนลงกับพื้นดิน แสดงฝีมือการรับเกาทัณฑ์ด้วยมือเปล่าอย่างง่ายดาย แสดงให้เห็นถึงความชำนาญในอาวุธระยะไกล และจิตใจที่กล้าหาญด้วยเช่นกัน เรียกเสียงปรบมือได้จากเหล่านายทหาร และขุนนางทั้งหลาย รวมทั้งตั๋งโต๊ะเองด้วย ยิ่งเมื่อลิโป้ชูเกาทัณฑ์ที่รับได้นั้นขึ้น เห็นว่า โดนหักปลายแหลมทิ้งไว้ก่อนล่วงหน้า แสดงว่า อ้วนเสี้ยวก็มิได้มีเจตนาทำร้ายแต่อย่างใด สร้างความชื่นชมให้กับทุกคนในสนามประลองนั้น
อ้วนเสี้ยว ในฐานะที่เป็นสมุหกลาโหม ผู้นำฝ่ายทหาร เห็นเป็นจังหวะอันดี จึงเดินออกมา ยกมือประกาศ ยกย่องลิโป้ให้เป็นยอดขุนพลแห่งยุคสมัย ทวนไร้น้ำใจ นักสู้อันดับหนึ่งของแผ่นดิน
ไม่ทันคาดคิด ชายสูงวัยร่างเล็กในชุดพ่อบ้านในสังกัดของสมุหนายก อ้องอุ้น กลับก้าวเดินออกมา ชี้หน้าด่าลิโป้ “อ้ายลิโป้ชั่วช้า เจ้าเนรคุณต่อตัวข้า เต๊งหงวน ผู้เป็นพ่อเลี้ยง หลายปีก่อน อาศัยจังหวะที่ข้าออกไปตรวจราชการต่างแดน ขโมยเงินทองไปมากมาย ซ้ำยังย่ำยีลูกสาวของข้าจนนางฆ่าตัวตายด้วยความอับอาย สร้างรอยด่างในประวัติของข้า จนต้องลาออกจากวงการขุนนาง เฮอะ คิดไม่ถึงเลย วันนี้ เจ้ากลับมาได้ดี แสดงฝีมือการต่อสู้จนเลื่องลือ แต่เรื่องคุณธรรมเล่า เจ้าคู่ควรต่อลาภยศสรรเสริญเหล่านี้หรือ พวกท่านทั้งหลายล้วนเป็นขุนนางนายทหารอันทรงเกียรติ จงเป็นสักขีพยาน และคืนความยุติธรรมแก่ข้าด้วยเถิด”
ลิโป้ ตาลุกวาว มองดูเต๊งหงวนกล่าวคำจนจบ แต่ยังอ้ำอึ้งคล้ายจะกล่าวอันใดเพิ่มเติม มันจึงตรงเข้าไปใกล้ พร้อมรวบจับมือทั้งสองของฝ่ายตรงข้ามไว้ “ท่านพ่อบุญธรรม ให้ข้าตอบแทนแก่ท่านเถิด” ว่าแล้ว มันก็บิดหักข้อมือทั้งสองดังกร๊วบ กระตุกไหล่จนหลุด และตบเข้าที่หัวจนสมองเต๊งหงวนปริแตกตายในทันที เรื่องราวที่เคยเป็นลูกเลี้ยงบำเรอกามยังไม่ทันจะถูกเปิดเผย จึงจบสิ้นลงเพียงแค่นี้
ลิโป้มองผ่านไปทางอ้องอุ้น สมุหนายก ผู้ที่อาจจะล่วงรู้เบื้องหลังของมัน และนำเต๊งหงวนเข้ามาสร้างสถานการณ์อัปยศให้กับมันในครั้งนี้ พลางประสานมือเชิงขอโทษ พร้อมประกาศขึ้นดังๆ ให้ทราบโดยทั่วกัน “เต๊งหงวน พ่อเลี้ยงเก่าของข้า สติเลอะเลือน พูดจาวกวน ต้องขออภัยที่ขัดความสำราญของทุกท่านด้วย”
ตั๋งโต๊ะเห็นพฤติกรรมอันโหดเหี้ยมของลิโป้ จึงหัวร่อร่าด้วยความชอบใจ เนิ่นนานแล้วที่มันไม่ได้เจอบุคคลเช่นนี้ ทำเอาผู้คนรอบข้าง รวมทั้งอ้องอุ้นเอง หวั่นไหวในวิธีการตอบโต้ที่อำมหิตของลิโป้เป็นอย่างยิ่ง จนไม่อาจตอแยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งยิ่งทำให้มันพอใจลูกเลี้ยงคนใหม่มากยิ่งขึ้น พ่อเลี้ยงเป็นจอมทรราชย์ ลูกเลี้ยงเป็นจอมอำมหิต อย่างนี้สิ ถึงจะลงตัว
…
ด้านหลังกุนซือลิซก เป็นชายสูงวัยผมขาวในชุดคนรับใช้ อายุเกือบหกสิบปี มองเห็นเหตุการณ์สังหารโหดตรงหน้ามาโดยตลอด แล้วรู้สึกสะดุดใจในชื่อ เต๊งหงวน ร่ำร้องย่ำแย่อยู่ในใจ
มันนึกย้อนไปถึงสมัยที่มันปะปนกับพวกชนเผ่าเย่ทางแดนใต้ในฐานะราชครูนั้น เคยมีอยู่คราหนึ่งที่นายทหารตรวจการณ์จากเมืองหลวงนามเต๊งหงวนลงไปเยี่ยมเยียนพวกชนเผ่าตามปกติวิสัย แต่เต๊งหงวนกลับก่อเรื่องวุ่นวาย ใช้อำนาจกล่าวเป็นนัย เรียกร้องขอหลับนอนกับสาวงามประจำเผ่า ซึ่งบังเอิญว่านางเป็นคู่หมั้นหมายของบุตรชายหัวหน้าเผ่า
หัวหน้าเผ่าเย่กับบุตรชายรู้สึกลำบากใจยิ่งนัก จึงนำความมาปรึกษากับมันเพื่อหาทางออก มันทบทวนเรื่องราวแล้ว จึงเสนอให้มอมเหล้านายทหารจนเมามาย แล้วจัดส่งชายหนุ่มวัยกระทงเชื้อสายฮั่นเข้าไปในกระโจมแทน หากผิดพลาดอันใด ก็อ้างว่า เข้าใจผิด เพราะเคยได้ยินเรื่องราวของทาสชายบำเรอกามกำลังเป็นที่นิยมของชนชั้นผู้นำในเมืองหลวงชาวฮั่น จึงจัดแจงให้ตามกระแสนิยมแทน
เช้าวันรุ่งขึ้น เต๊งหงวนร่ำร้องเสียงอันดังจากกระโจมที่พัก เมื่อทุกคนเข้าไปดู พบเห็นชายหนุ่มเปลือยกายถูกสังหารตายด้วยมีดสั้น นายทหารอ้างว่า คนร้ายปลอมตัวเป็นหญิงสาว หวังเข้ามาทำร้าย แต่เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึั้นในยามเช้า อีกทั้งผู้ตายตัวเปล่าเปลือย แสดงว่า ค่ำคืนคงเกิดเรื่องราวเสร็จสิ้นไปแล้ว
นายทหารนามเต๊งหงวนจากไปอย่างร้อนรน ไม่ติดใจเอาความเรื่องการลอบสังหาร หากแต่รสนิยมทางเพศอาจเบี่ยงเบนไปแล้วหรือไม่ มันไม่เคยขบคิด จนมาถึงวันนี้ สายตาที่ลิโป้จ้องมองเต๊งหงวน เปี่ยมด้วยความเคียดแค้น และละอายใจ ย่อมมิใช่เกิดจากการกระทำที่ธรรมดาสามัญของเต๊งหงวนเป็นแน่ เกรงว่า การกระทำในอดีตของมันอาจจะสร้างผลกระทบต่อเรื่องราวให้ผิดเพี้ยนไปโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วกระมัง เกรงว่าเต๊งหงวนชื่นชอบคนเพศเดียวกันก็เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้น
...
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ภาค 1 - มัจฉากลางวารี
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย