3 ก.พ. 2021 เวลา 12:00 • ธุรกิจ
มีเท่านี้ ต้องทำให้ดีที่สุด - เรื่องราวของ Fanta น้ำหวานแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง
วันก่อนระหว่างที่เดินอยู่ในร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน อากาศในเชียงใหม่เริ่มกลับมาร้อนอีกครั้งเลยคิดในหัวว่าอยากดื่มอะไรเย็นๆสดชื่นๆสักหน่อยเลยไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบ ‘Fanta’ น้ำส้มออกมาขวดหนึ่งแล้วไปจ่ายเงิน ระหว่างที่เปิดขวดเพื่อยกขึ้นดื่มก็นึกขึ้นได้ว่าที่จริงแล้วเรื่องราวของเครื่องดื่ม ‘Fanta’ นั้นก็สนุกไม่น้อย วันนี้เลยว่าจะหยิบมาเล่าให้ฟังกันดีกว่า
ทุกคนตอนนี้คงพอทราบดีว่า ‘Fanta’ นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มของตระกูล Coca-Cola ที่เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกในเวลานี้ แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองพวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ในช่วงปลายของยุค 1930’s ประเทศที่นอกเหนือจากอเมริกาที่ Coca-Cola ประสบความสำเร็จก็คือประเทศเยอรมัน ช่วง 1939 ที่นั้นมีโรงงานบรรจุขวดอยู่ 43 แห่งและมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 600 แห่งเลยทีเดียว แต่แล้ว...สงครามโลกครั้งที่สองก็เกิดขึ้น
ตอนนี้เองที่เกิดปัญหา เพราะว่ากฎหมายห้ามการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทำให้ Coca-Cola ที่อเมริกาไม่สามารถส่งวัตถุดิบและส่วนประกอบเพื่อไปสร้างน้ำเชื่อมของ Coca-Cola ที่เยอรมันได้ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด Ray Powers คนที่ดูแลการผลิตที่นั้นประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตในช่วงปี 1938
Max Keith ซึ่งเป็นชาวเยอรมันรับหน้าที่ต่อ เขามุ่งมั่นที่จะดูแลการผลิตต่อไปเพื่อจะให้พนักงานของบริษัทนั้นยังมีงานทำในช่วงที่ยากลำบาก ในเมื่อไม่สามารถทำน้ำเชื่อมสูตรลับของบริษัทได้ เขาเลยตัดสินใจลองสร้างสินค้าตัวใหม่ที่ทำจาก ‘ของเหลือของของเหลือ’ (leftovers of leftovers) เป็นหางนม (whey) และกากของแอปเปิ้ล (เปลือก แกน เนื้อ เมล็ด) ที่ถูกคั้นน้ำออกไปแล้ว มารวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ออกมาสีคล้ายๆกับจิงเจอร์เอล
ถึงตอนนี้เครื่องดื่มชนิดนี้ยังไม่มีชื่อ Max เลยนัดประชุมพนักงานเพื่อระดมสมองกันว่าจะเอาชื่ออะไรดี ตอนนั้นเขาพูดว่าให้ปล่อยความคิดสร้างสรรค์ออกมาอย่างบ้าๆเลย “let fantasie (หรือ แฟนตาซี) run wild” ซึ่งเซลล์ขายคนหนึ่งชื่อ Joe Knipp เมื่อได้ยินแบบนั้นเลยเสนอว่างั้น ‘Fanta’ เป็นไงหล่ะ? ทุกคนเห็นด้วยกับชื่อนี้แล้วมันก็ถูกใช้มาเรื่อยๆ
'Fanta’ กลายเป็นเครื่องดื่มที่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าช่วงแรกๆที่ผลิตนั้นรสชาติของมันจะขึ้นอยู่กับว่าได้ผลไม้ชนิดไหนมาทำ ช่วงแรกนั้นได้รับความหวานจากขัณฑสกร (saccharin - สารรสหวานกว่าน้ำตาลถึงหลายร้อยเท่าใช้แทนน้ำตาลสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน) ต่อมาในช่วง 1941 พวกเขาก็เริ่มใช้น้ำตาลจากหัวบีทแทน ภายในปี 1943 มีการประมาณการว่า ‘Fanta’ ขายไปกว่า 3 ล้านลัง ซึ่งเพียงพอที่ทำให้โรงงานบรรจุขวดในเยอรมันและพนักงานของบริษัทนั้นยังมีงานทำตลอดช่วงสงครามที่ผ่านมา
ตลอดช่วงเวลานี้เหล่าผู้บริหาร Coca-Cola ที่อเมริกานั้นไม่สามารถติดต่อกับฝั่งเยอรมันได้เลย ไม่รู้เลยว่าตลอดหลายปีนั้น Max ยังทำงานให้กับบริษัทอยู่หรือเปล่าหรือเปลี่ยนเป็นนาซีไปเรียบร้อยแล้ว การติดต่อกันในช่วงเวลานั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นหลังจากสงครามจบลง บริษัทก็ส่งคนไปสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง สิ่งที่พวกเขาพบก็คือนอกจาก Max จะยังทำงานให้บริษัทอย่างมุ่งมั่น เขายังโดนกดดันทางการเมืองตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา แถมไม่พอ Max ยังไม่เคยคิดเลยว่าจะขาย ‘Fanta’ ภายใต้บริษัทของตัวเอง กลายเป็นเครดิตของเขาไปเต็มๆเมื่อจบสงครามทำให้ Coca-Cola สามารถเริ่มทำงานต่อได้เลยอย่างไม่มีการสะดุด
ถึงแม้ว่าภายหลัง ‘Fanta’ จะถูกหยุดการผลิตไปชั่วคราวหลังจากปี 1950, ในปี 1955 ก็ถูกนำกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง โดยที่รสชาติหลักของมันก็ยังเป็นน้ำส้มที่ผมซื้อมาดื่มในวันนี้นั้นแหละ ส่วนทั่วโลกตลอดเวลาที่ผ่านมามีการผลิตไปแล้วกว่า 100 รสชาติเลยทีเดียว
บทเรียนจากเรื่องราวของ Max ก็คือเรื่องของจินตนาการในสถาการณ์ที่บีบคั้น บางทีใยามคับขันมนุษย์จะคิดอะไรใหม่ๆที่อาจจะดูแหวกแนวจากที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ก็ได้ สำหรับ Max มีเท่านั้น เพียงกากของผลไม้ ก็ต้องทำให้ดีที่สุด
"รู้ทันการตลาด เพิ่มโอกาสธุรกิจ" อย่าลืมกดติดตาม กด Like กด Share "#ใดใดในโลกล้วนคือการตลาด" ไว้ด้วยนะครับ
.
ต่ายและทีมงานจะมาแนะนำสาระ ความรู้ เกี่ยวกับการตลาดมาแบ่งปันให้อีกเร็วๆนี้ครับผม
.
กด See First ติดตามคอนเทนต์ใหม่ๆจากเราได้ที่ Facebook : ใดใดในโลกล้วนคือการตลาด
.
.
#ใดใดในโลกล้วนคือการตลาด #MarketingJinglebells

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา