Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกลับปักษาสวรรค์ (จินตนิยายสามก๊ก)
•
ติดตาม
20 ก.พ. 2021 เวลา 01:33 • นิยาย เรื่องสั้น
2.3. ดับเจ้าพ่อภาคเหนือ
กองซุนจ้าน เจ้าเมืองปักเป๋ง - กองซุนตู้ ขุนพลม้าขาวรุ่นแรก - ม้าเท้ง เจ้าเมืองเสเหลียง
หากนับซุนเกี๋ยนซุนเซ็กเป็นเจ้าพ่อดาวรุ่งแดนใต้แล้ว ม้าเท้งก็เป็นเหมือนเจ้าพ่อดาวเด่นอีกคนหนึ่งทางภาคเหนือเช่นกัน ด้วยการสร้างรากฐานในเมืองเสเหลียงแทนตั๋งโต๊ะ เพาะบ่มคอกอาชาพันธุ์ดี และการสานผลประโยชน์กับกลุ่มอิทธิพลต่างๆในเมืองเองกับชนเผ่าเกี๋ยงเผ่าตีนอกด่าน ทำให้ตระกูลม้ามีฐานะค่อนข้างมั่นคงทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือในระยะเวลาอันสั้น
นักรบคนดังแห่งตระกูลม้ารุ่นถัดมา อันมีลูกชายทั้งห้า ม้าเฉียว ม้าเลี้ยง ม้าฮิว ม้าเจ๊ก ม้าเทียด และหลานชายทั้งสอง ม้าต้าย ม้าตง เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ เก่งกาจด้านบุ๋นด้านบู๊ จนเป็นที่เคารพยกย่องในท้องถิ่นอย่างสูง และถูกตั้งชื่อให้เป็น “เจ็ดอาชาแห่งเสเหลียง” ช่วยให้การปกครองเมืองปราการหน้าด่าน ประตูเชื่อมสู่แดนตะวันตก เป็นไปได้ด้วยความราบรื่นเรื่อยมา
ม้าเท้งยังมีน้องร่วมสาบานนามหันซุย อดีตนักรบชนเผ่าเร่ร่อนนอกด่าน เป็นตัวเชื่อมประสานอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ชนเผ่าท้องถิ่นแถบนี้ให้ความร่วมมือสนับสนุนอย่างเต็มที่ จนช่วงเวลาหนึ่ง สามารถขยายอาณาเขตไปได้ถึงมณฑลเปงจิ๋วที่เต็มไปด้วยเทือกเขาป่าไม้สลับซับซ้อน แต่ภายหลัง ถูกศัตรูแย่งชิงดินแดนไปได้บางส่วนด้วยปัญหาโลกแตก เป็นการขาดแคลนเสบียงอาหารเลื้ยงกองทัพ นั่นเอง
อีกทั้งม้าเท้งคล้ายยังขาดกุนซือที่ปรึกษาที่ดี ทำให้การปรากฏตัวของมันสะเปะสะปะบ่อยครั้ง ตั้งแต่การเข้าร่วมทัพสิบแปดหัวเมืองที่มันไม่มีบทบาทใดๆอย่างมากนัก และการบุกตีเมืองหลวงเมื่อครั้งโจรโพกผ้าเหลืองรุ่นสองก็ไม่บังเกิดผลประโยชน์อันใด
เมื่อการขยายดินแดนลำบากมากขึ้น เพราะเขตแดนด้านขวาติดกันกับเขตแดนราชวงศ์ฮั่น ภายใต้การนำของโจโฉ และอ้วนเสี้ยวแห่งกิจิ๋ว อีกหนึ่งผู้ยิ่งใหญ่ทางเหนือ ด้านใต้ก็ประชิดกันกับเตียวล่อแห่งฮันต๋งแล้ว ส่วนด้านอื่นก็ติดกับชนเผ่านอกด่านที่เป็นพันธมิตรกันแล้ว ถ้าต้องเลือกทิศ มันย่อมเลือกที่จะรบกับเตียวล่อที่ดูน่าจะเปราะบางที่สุดเสียก่อน แผนการศึกจึงถูกตระเตรียมขึ้นแล้ว
ดังนั้น เส้นทางการโคจรของเจ้าพ่อภาคเหนือคนนี้จึงทับเส้นทางของขุมกำลังสัตตดาราโดยบังเอิญ เพราะเตียวล่อ ก็คือ ดาวปกครอง หนึ่งในขุมกำลังสัตตดารานั่นเอง ถึงแม้ว่า เตียวล่อไม่ใช่นักรบผู้เก่งกาจ แต่ก็มิใช่คนไร้สิ้นปัญญา จึงมีการวางเครือข่ายข่าวสารทางการทหารอยู่รอบด้านเป็นนิจอยู่แล้ว และมีวิธีติดต่อส่งข่าวได้รวดเร็ว พอได้สดับข่าวคราวผิดปกติทางด้านเสเหลียง จึงรีบติดต่อขอความช่วยเหลือจากจูล่ง ผู้นำขุมกำลังสัตตดาราในทันที
พอทราบข่าว จูล่งตัดสินใจตัดไฟตั้งแต่ต้นลม โดยการวางแผนดับเจ้าพ่อคนนี้เสียก่อนจะเกิดเป็นศึกสงครามต่อกัน จึงลอบส่งสัญญาณผ่านไปทางเตียวเสี้ยน และเตียวเลี้ยวเพื่อเดินหมากรุกฆาต เชื่อมโยงขุมกำลังอื่นให้ช่วยจัดการแทน
…
ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มขุนนางรุ่นใหม่ที่จงรักภักดีต่อราชวงศ์ฮั่น เริ่มมีการก่อตัวกันอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้การดูแลของกษัตริย์เหี้ยนเต้ โดยมีขุนพลตังสิน หัวหน้าองครักษ์วังหลวง เกียดเป๋ง หมอหลวง เป็นแกนนำ และยังมีคนสำคัญในราชสำนักคอยให้การสนับสนุนอยู่อีกจำนวนหนึ่ง เป็นโครงข่ายลับที่ต้องการชิงอำนาจคืนจากมหาอุปราชโจโฉอีกครั้ง
เพียงแต่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนดังกล่าว กลับโดนสืบทราบโดยเตียวเสี้ยนที่ได้สิทธิ์พิเศษในการเข้าออกวังหลวงได้อย่างอิสระ ข่าวกลุ่มจารชนแฝงจึงไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ของขุมกำลังสัตตดาราเลย และรอวันให้ถูกหยิบยก นำมาใช้เป็นหมากเบี้ยบนกระดานเท่านั้นเอง
เตียวเสี้ยน เตียวเลี้ยว จึงร่วมมือกันสร้างเรื่องพระราชโองการโลหิตของพระเจ้าเหี้ยนเต้ขึ้น ทำเป็นจริงเจ็ดส่วน เท็จสามส่วน โดยใส่ชื่อของขุนนางสำคัญที่จงรักภักดีต่อเหี้ยนเต้ทั้งในเมืองหลวง และด้านนอกที่พวกตนต้องการกำจัด โดยเฉพาะเล่าปี่ และม้าเท้ง ลงไปในพระราชโองการปลอมฉบับนั้น แล้วให้เตียวเสี้ยนแอบนำไปใส่ลงในกระเป๋ายาของหมอหลวง เกียดเป๋ง
จากนั้น เตียวเลี้ยวที่คุมกำลังทหารอยู่ในวังหลวงก็เพียงแสดงความสงสัย และสั่งการค้นตัวหมอหลวงเท่านั้น เรื่องนี้ก็ถึงมือของโจโฉอย่างรวดเร็ว กลุ่มผู้ก่อการใกล้ตัวตั้งแต่หมอหลวงเกียดเป๋งลงไป โดนสอบสวน และถูกประหารไปอย่างเงียบสงบ เว้นแต่ขุนพลตังสินที่โจโฉยังยอมอ่อนข้อ เพียงแค่ถอดถอนจากตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์ไปก่อน และเล่าปี่ ที่ยังปักหลักอยู่ห่างไกลไปทางฝั่งตะวันออก
และแล้วคำสั่งเรียกตัวม้าเท้งเข้าวังเป็นการด่วน จึงเกิดขึ้นในเวลาต่อมา
...
การเรียกม้าเท้งเข้าเมืองหลวง เหมือนดั่งเป็นการล่อเสือออกจากถ้ำโดยแท้ เพราะโจโฉเตรียมการลอบสังหารไว้ที่เมืองหลวงอยู่อย่างเต็มที่ โดยหวังจะได้สร้างความปั่นป่วนให้กับขุมกำลังเมืองเสเหลียงสักพักใหญ่
เวลานั้น ภายในตระกูลม้ากำลังยุ่งเหยิงวุ่นวายด้วยงานมงคล เนื่องจากม้าเท้งและเจ็ดอาชา กำลังตระเตรียมออกเดินทางไปนอกด่าน เพื่อทำพิธีสมรสยิ่งใหญ่ รับตัวนางเอียสี ลูกสาวหัวหน้าชนเผ่าแดนไกลมาเป็นภรรยาของม้าเฉียว ซึ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสกุลม้ากับเผ่าท้องถิ่นให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ แผนการจึงต้องปรับเปลี่ยนไปอย่างเร่งรีบ ม้าเท้งจึงได้แต่สั่งความให้คุณชายใหญ่ ม้าเฉียว คุณชายรอง ม้าเลี้ยง เดินทางไปนอกด่านตามกำหนดพิธีดังเดิม เหลือเพียงแต่ม้าเท้ง นำคุณชายสาม ม้าฮิว คุณชายห้า ม้าเทียด ลูกชายที่มีฝีมือทั้งสอง ติดตามมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงอย่างเปิดเผย ส่วนคุณชายที่เหลือ ให้อยู่โยงเฝ้าเมืองเสเหลียงไปแทน
หรือว่า มันมีจุดหมายสำคัญแฝงเร้นอยู่ในการเดินทางครั้งนี้
...
แต่ศัตรูของม้าเท้ง นอกจากโจโฉแล้ว ยังมีอ้วนเสี้ยวอีกคนหนึ่ง เขาย่อมไม่ปล่อยให้พลาดโอกาสอันงามเช่นนี้ไปเป็นแน่ และก็เป็นจริงดั่งคาด เพราะระหว่างการเดินทางเข้าเมืองหลวงของม้าเท้ง อ้วนเสี้ยวที่ทราบข่าวจากซุนฮกที่เป็นไส้ศึก ก็เร่งรีบนำมือสังหารมาดักรออยู่ที่ร้านน้ำชาข้างทางด้วยตนเอง ร่วมกับขุนพลงันเหลียง บุนทิว และสิมโพย กุนซือคนสำคัญที่ปลอมเป็นเจ้าของร้านน้ำชาแห่งนั้น
เมื่อน้ำชายาพิษถูกพวกม้าเท้งดื่มลงไปแล้ว อ้วนเสี้ยวพร้อมกับพวกก็เปิดฉากลงมือทันที หากม้าเท้งตายอย่างกะทันหัน มันย่อมวางใจไปดำเนินการด้านอื่นๆก่อนได้แล้ว
หากแต่ม้าเท้งเหมือนรู้ตัวล่วงหน้า จึงมิได้หลงกลดื่มยาพิษไปจริงๆ แต่กลับตลบหลังพวกอ้วนเสี้ยว ด้วยกำลังเสริมชั้นดีอย่าง หันซุย น้องร่วมสาบาน ม้าต้าย หลานชาย กับพวกที่ปลอมตัวลอบติดตามมาด้วยอีกกลุ่มหนึ่ง
ทั้งหมดจึงรุมล้อมพวกอ้วนเสี้ยวไว้ด้วยจำนวนคนที่มากกว่า ทำให้พวกอ้วนเสี้ยวถูกซ้อนแผน เพราะนำกำลังคนมาน้อยเกินไป หากมีเพียงสามคนตามแผน ก็คงรับมือได้สบาย แต่พอนับรวมพวกหันซุยเข้ามา อ้วนเสี้ยวก็เสียเปรียบมากแล้ว
ที่จริงแล้ว ม้าเท้งเพียงต้องการขุดบ่อล่อปลา โดยใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้อ้วนเสี้ยวเดินเข้ามาติดกับดักที่วางไว้ เป็นการซ้อนกลอย่างแยบยลที่สุด ด้วยความร่วมมือของเส้นสายที่วางไว้ในเมืองหลวงนั่นเอง
...
แต่แล้ว กลับมียอดฝีมือคลุมหน้าปรากฏขึ้นสองคน ตรงเข้ารับมือกับหันซุย ม้าต้าย จึงเปิดโอกาสให้อ้วนเสี้ยว งันเหลียง บุนทิว สามารถสังหารม้าเท้ง ม้าฮิว ได้ในที่สุด หันซุย ม้าเทียด กับม้าต้ายจึงต้องหลบหนีรักษาชีวิตไว้ก่อน
“ผู้ที่ฆ่าข้าคืออ้วนเสี้ยว” เสียงม้าเท้ง ร้องตะโกนสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย
หากแต่ม้าต้ายยังสังเกตเห็นป้ายหยกสีขาวที่ซ่อนอยู่ในอกเสื้อของยอดฝีมือผู้ที่ขัดขวางมันด้วย เป็นป้ายหยกขาวรูปเมฆ!
…
"ทั้งหมดนี้ คงเป็นแผนการของโจโฉ หลอกล่อให้มาติดกับดักของอ้วนเสี้ยวแล้ว ขนาดพวกเรามีกำลังเสริมไปตั้งมากมาย ยังต้านทานคนลึกลับทั้งสองไว้ไม่ได้ ช่างร้ายกาจนัก" หันซุยสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่ทราบให้กับม้าเฉียว ทายาทคนโตของม้าเท้งที่เมืองเสเหลียงในภายหลัง และม้าต้ายไม่ลืมที่จะเพิ่มเติมเบาะแสเรื่องป้ายหยกขาวให้ม้าเฉียวรับรู้ไว้ด้วยอีกประการหนึ่ง
งานนี้ พวกม้าเฉียวจึงตั้งเป้าหนี้แค้นไปที่สองขุนศึก โจโฉ และ อ้วนเสี้ยว เพียงแต่ยังต้องรอจังหวะโอกาสสุกงอมเท่านั้น แผนการบุกเมืองฮันต๋งจึงล้มเลิกไปโดยปริยาย เปลี่ยนเป้าหมายเป็นสองคู่อริฝั่งตะวันออกแทน
การทำศึกตอบโต้อาจจะยากลำบาก หากแต่การลอบสังหารกลางเมืองอาจจะเป็นเรื่องที่ยังพอจะกระทำได้อยู่ ม้าเลี้ยงคิดคำนวน ม้าเฉียวลงมือ งานนี้ ต้องไม่ผิดพลาด
...
ฝ่ายอ้วนเสี้ยว หรือกระสาแห่งหน่วยปักษาสวรรค์หันมากล่าวขอบคุณสองยอดฝีมือลึกลับที่ให้ความช่วยเหลือ และต้องตกตะลึงที่หนึ่งในสองยอดฝีมือนี้คือ เตียวคับ ยอดขุนพลฝ่ายอ้วนเสี้ยวตัวจริง และฝ่ายโจโฉในอนาคต ดังนั้น หากมันต้องการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ซุนฮกที่มันได้มาแล้วกับเตียวคับผู้นี้น่าจะช่วยมันได้มากทีเดียว
แต่แล้ว มันยิ่งต้องตะลึงซ้ำสอง เมื่อยอดฝีมือคนหลังกลับกลายเป็น จูล่ง ขุนพลวัยฉกรรจ์ของกองซุนจ้าน ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในขุนพลห้าเสือของเล่าปี่
จูล่งเสนอตัวร่วมงานกับอ้วนเสี้ยว แต่ขออาสากลับไปเป็นไส้ศึกอยู่กับกองซุนจ้านก่อน เพื่อขจัดเสี้ยนหนามอีกฟากหนึ่งให้อ้วนเสี้ยว เช่นเดียวกันกับกลยุทธ์ที่ไทสูจู้ร่วมมือกันกับซุนเซ็กเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งจะเป็นการแผ่ขยายอำนาจ สร้างความเป็นปึกแผ่นทางแดนเหนือ โดยฝากฝังเตียวคับไว้ให้อยู่กับอ้วนเสี้ยว ดังนั้น อ้วนเสี้ยวจึงเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ
ความใฝ่ฝันที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์น่าจะเป็นจริงได้แล้ว คราก่อน มันจงใจปล่อยให้กุยแกหลุดรอดจากเงื้อมมือไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ ขุมกำลังอ้วนเสี้ยวที่มีซุนฮก จูล่ง เตียวคับเพิ่มเสริมขึ้นมา มีหรือจะปราชัยต่อผู้ใด
...
ที่จริงแล้ว เตียวคับผู้นี้ ก็คือ เตียวคี ดาวอำพรางที่สังหารโจโก๋ บิดาโจโฉไปทั้งครอบครัวเมื่อคราวก่อน จูล่งเห็นว่าชื่อเสียงของเตียวคีเลวร้ายเกินไป ยากต่อการดำเนินแผนการต่อไป จึงให้จัดการเปลี่ยนชื่อเป็นเตียวคับแทน และส่งเข้าไปอยู่ร่วมกับอ้วนเสี้ยว ซึ่งมีอำนาจแข็งแกร่ง และมั่นคงมากขึ้นในภาคเหนือแล้ว
การเคลื่อนไหวของขุมกำลังสัตตดาราคราวนี้ จูล่งทุ่มทุนเปิดหน้ากากตัวเอง และยอมเสียสละฐานกำลังในเมืองปักเป๋งพร้อมกับกองซุนจ้านไปด้วย เพื่อส่งเสริมให้อ้วนเสี้ยวขึ้นเป็นคู่แข่งคนสำคัญกับโจโฉ ต่อไป ศึกใหญ่ของสองขุนศึกย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อย่างแน่นอน
แผนการของเตียวจูล่งครั้งนี้ คือ การเสี้ยมให้สองขั้วอำนาจใหญ่ปะทะกันอย่างดุเดือด จนแตกหักไปทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งล้มตาย ฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บ แล้วตัวมันที่มีไส้ศึกสำคัญอยู่ข้างกายทั้งสองฝ่าย ย่อมจะฉกฉวยโอกาสพลิกฟื้นโอกาสให้กลับเข้ามาหาตนเองได้โดยง่าย เหมือนนั่งบนภูดูเสือกัดกัน
…
หากนับย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน รากฐานสกุลกองซุนนั้นถือกำเนิดจากกองซุนตู้ ขุนพลชายแดนที่สร้างชื่อเสียงบนคาบสมุทรเหลียวตง ช่วงนั้น หากนับขุนพลหมีทมิฬ ตั๋งโต๊ะเป็นมือขวาของโฮจิ๋น ก็ย่อมต้องมีขุนพลม้าขาว กองซุนตู้ เป็นมือซ้ายด้วยอีกคนหนึ่ง เกียรติประวัติการสู้รบของสองขุนพลขาวดำ นับว่าใกล้เคียงทดแทนกับสามขุนพลห่วงสัมพันธ์ได้เลย เพียงแต่ทั้งสองเป็นคนเลือดผสม ตั๋งโต๊ะเป็นลูกครึ่งเผ่าอูหวน กองซุนตู้กลับเป็นลูกครึ่งเผ่าเกี๋ยง
โฮจิ๋นวางขุนพลสลับกันโดยจงใจ ในขณะที่ตั๋งโต๊ะได้รับหน้าที่ปราบปรามพรรคฟ้าเหลือง ต้านทานพวกเกี๋ยง พวกตี อยู่ทางฝั่งตะวันตก เสเหลียง กองซุนตู้ก็รับหน้าที่ป้องกันชายแดนด้านเหนืออยู่ที่เมืองปักเป๋งเช่นกัน สู้รบกับชนเผ่านอกด่าน ซึ่งมีตั้งแต่สามชนเผ่าฝั่งทุ่งหญ้า ซงหนู เซียนเปย อูหวน และอีกหนึ่งชนเผ่าฝั่งคาบสมุทรนาม “โกกุเรียว” (โคกูรยอ) เพื่อไม่ให้ลำบากใจในการรบกับคนเผ่าพันธุ์เดียวกัน
ครั้งนั้น ชนเผ่าโกกุเรียวภายใต้การปกครองของอ๋องโคกุกซอน กำลังเข้มแข็งฮึกเหิม พวกซงหนู เซียนเปย และอูหวน ล้วนหลีกเลี่ยง ไม่กล้าต้านทาน ทำให้พวกโกกุเรียวปลอมตัวเป็นโจรป่า รุกรานเข้ามาปล้นชิงสมบัติตามชายแดนฮั่นอยู่เนืองๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎร จนต้องนำเรื่องเสนอต่อฮ่องเต้ให้ตัดสินพระทัย
กษัตริย์เซ่าเต้ยังทรงพระเยาว์ ลังเลต่อการทำศึกสงครามต่างถิ่น โฮจิ๋นกำลังต้องการแสดงอำนาจ จึงลอบสั่งการให้กองซุนตู้ยกพลออกรบได้ตามสมควร ซึ่งโฮจิ๋นได้รับฟังคำแนะนำจากหัวหน้าสายข่าวอ้วนเสี้ยวว่า หากได้ชัยชนะ ก็ดียิ่ง แต่พ่ายแพ้ ก็เพียงแค่โยนความผิดให้กองซุนตู้ที่บังอาจกระทำโดยพลการ
สุดท้าย กองทัพม้าขาวของกองซุนตู้และกองซุนจ้าน สองอาหลานไม่ได้ทำให้ผิดหวัง มันวางกับดัก พร้อมทั้งชักชวนสามชนเผ่าทุ่งหญ้ามารุมทำลายกองทัพอันเกรียงไกรของอ๋องโคกุกซอนจนยับเยิน สิ้นสุดความรุ่งโรจน์ของเผ่าโกกุเรียวไปช่วงหนึ่ง
กองซุนตู้จึงกลายเป็นขุนพลผู้ทรงอิทธิพล สามารถประสานไมตรีกับพวกชนเผ่าทุ่งหญ้าได้ ทำให้ดินแดนเหลียวตงแถบเหนือสงบสุข เสียดายที่ความชอบครั้งนี้ไม่ได้รับการตอบสนองจากเมืองหลวงตามสมควร เพราะทางฝั่งฟากเมืองหลวงเกิดเหตุวุ่นวาย เซ่าเต้และโฮจิ๋นล้วนหลุดจากอำนาจ กลับกลายเป็นตั๋งโต๊ะก้าวทะยานขึ้นเป็นใหญ่แทน จนเหล่าเจ้านครต่างพากันกระด้างกระเดื่องต่อรัฐบาลใหม่
ณ รอยต่อสำคัญนั้นเอง กองซุนตู้ที่มีชื่อเสียงทัดเทียมกันมาตลอด สมควรก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักในการต่อต้านกับทรราชย์คนใหม่ กลับถูกสังหารตายอย่างลึกลับ อีกทั้งพันธมิตรเก่าสามชนเผ่าทุ่งหญ้ายังแปรเปลี่ยนผลัดกันมารุกรานปล้นชิงสมบัติซ้ำสอง ทำให้กองซุนจ้านผู้หลาน ต้องขึ้นมารับตำแหน่งเจ้าเมืองปักเป๋ง และครอบครองกองทัพม้าขาว เพื่อปกป้องอาณาจักรชายแดนเหลียวตงสืบต่อแทน
คดีการลอบสังหารขุนพลม้าขาวคนแรกเริ่มนั้น สับสนยิ่งนัก บ้างว่า เป็นฝีมือจอมทรราชย์ตั๋งโต๊ะกำจัดคู่แข่ง บ้างว่า คนโกกุเรียวแอบมาล้างแค้น บ้างว่า ตระกูลใหญ่โบราณเพาะบ่มอิทธิพลช่วงชิงพื้นที่ แต่การลงมือรวบรัดไร้ร่องรอย ทำให้กองซุนจ้านมิอาจพบพานหลักฐานอื่นให้สืบสาวได้อีก ฆาตกรกลับลอยนวลสาบสูญไป
…
จากการที่ประมุขสัตตดาราต้องการเปลี่ยนฝ่ายถือข้างเสียใหม่ ดังนั้น สมดุลย์สามเส้าระหว่างอ้วนเสี้ยวแห่งกิจิ๋ว กับกองซุนจ้านแห่งปักเป๋ง - เตียวเอี๋ยนแห่งเปงจิ๋ว จึงเปลี่ยนแปลงไป พันธมิตรเตียวเอี๋ยนเริ่มหายหน้าไปจากสมรภูมิรบ เก็บตัวเงียบหายอยู่ในพื้นที่เทือกเขา ผิดวิสัยอดีตโจรป่าที่เคยกระหายสงครามในเก่าก่อน
กองซุนจ้านย่อมรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็มิได้ประหลาดใจ ด้วยความที่เคยไม่ไว้วางใจกลุ่มขุนโจรเตียวเอี๋ยนมาเนิ่นนานอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากยกประเด็นมาว่ากล่าวให้ขุนพลจูล่งขุ่นเคืองใจขึ้นมาอีกเท่านั้น
แต่ช่วงนี้ จูล่งคล้ายยอมคลายความมั่นใจลง พลอยไม่แยแสต่อท่าทีของเตียวเอี๋ยนเช่นกัน กองทัพม้าขาวอันเกรียงไกรจึงถูกสั่งการมาตั้งรับกันอยู่ภายในเมืองปักเป๋ง ลดพื้นที่ควบคุมตามชายแดนลงจนครอบคลุมแค่ส่วนที่ประชิดกันกับกองทัพหน้าของอ้วนเสี้ยวที่เป็นแม่ทัพคนใหม่ เตียวคับ กำลังรุกคืบเข้ามาอีกครั้ง
นับจาก เตียวคับได้เข้าร่วมกับกองกำลังกิจิ๋ว ก็ได้รับความไว้วางใจจากขุนศึกอ้วนเสี้ยว มอบหมายให้ฝึกกองทัพรุ่นใหม่ชื่อ กองทัพง้าวใหญ่ ซึ่งเป็นทัพม้าประจัญบาน เพื่อไม่ให้กระทบกระทั่งกับกลุ่มทหารเดิมของขุนพลงันเหลียง บุนทิว และเป็นคู่ต่อสู้กับกองทัพม้าขาวที่ใช้ทวนเป็นอาวุธโดยตรง
ดังนั้น กองทัพม้าขาวแห่งปักเป๋ง จึงปะทะเข้ากับกองทัพง้าวใหญ่แห่งกิจิ๋วอย่างหนักหน่วง จนอ่อนแรงเหนื่อยล้าลง เกิดความสูญเสียกันไปทั้งสองฝ่าย เมื่อทัพหลวงอ้วนเสี้ยวพร้อมกับขุนพลคู่ใจงันเหลียง บุนทิว ตามมาสมทบ ฝ่ายตั้งรับคือจูล่ง ก็แสร้งทำเป็นต้านทานสามขุนพลไว้ไม่ไหว ต้องยอมล่าทัพกลับเข้าเมือง กองทัพอ้วนเสี้ยวจึงรีบแยกย้ายตั้งทัพล้อมเมืองไว้ทั้งสี่ด้าน
ยามนั้น ขุนศึกกองซุนจ้านรู้สึกตึงเครียดกดดันต่อสถานการณ์รบ จนอารมณ์ปั่นป่วนสับสน ในใจคิดถึงเล่าปี่ที่แยกตัวออกไปปักหลักที่เมืองชีจิ๋ว จึงคิดจะส่งกองซุนของ ลูกพี่ลูกน้อง ทายาทของกองซุนตู้ ให้ไปขอความช่วยเหลือ แต่กองซุนของถููกดักจับตัวไว้เป็นเชลย จับมัดประจานไว้ด้านนอกค่ายหน้าเมืองอย่างน่าสงสารเสียแล้ว
หากแต่รากฐานตระกูลกองซุนไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าตระกูลอ้วน กองซุนอวด น้องชายของกองซุนจ้านที่อยู่ต่างเมือง พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากกลุ่มชนเผ่า และกองกำลังอิสระแถบเหลียวตง ไม่ว่าจะเป็นขุนโจรเตียวเอี๋ยน เผ่าซงหนู เผ่าเซียนเปย และเผ่าอูหวน พร้อมระดมทุนครั้งใหญ่เป็นค่าตอบแทน
แม้ว่าขุมกำลังชายแดนจะไม่กล้าออกหน้าโดยตรง แต่ก็มุ่งหวังทรัพย์สมบัติ จึงลักลอบส่งคนจนรวบรวมกำลังพลปะปนกัน กลายเป็นกองทัพรับจ้างได้จำนวนหนึ่ง รีบยกเข้ามาหวังเปิดทางแก้ไขให้พวกกองซุนจ้านหนีรอดจากวงล้อมมาเสียก่อน
เสียดายนักที่ความพยายามของกองซุนอวดล่าช้าเกินไป อ้วนเสี้ยวกลับมีกลยุทธ์พิสดาร อาศัยกำลังคนจำนวนมาก ขุดอุโมงค์ลักลอบเข้าไปจู่โจม สร้างความวุ่นวายภายในเมืองในยามค่ำคืน และเปิดประตูเมืองรอบด้าน ทำให้กองทัพอ้วนเสี้ยวกรูเข้าโจมตีได้โดยพร้อมเพรียงกัน กองซุนจ้านได้รับข่าวร้ายกระทันหันด้วยความเสียใจ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายไปพร้อมกันทั้งครอบครัว
อ้วนเสี้ยวจึงสามารถบุกเข้ายึดครองเมืองปักเป๋ง และกำจัดกองซุนจ้าน หนามยอกอกไปได้โดยง่ายดาย โดยที่จูล่งกับทหารจำนวนมาก “หลบหนี” ฝ่าวงล้อมไปเข้าร่วมกับเล่าปี่ที่เมืองชีจิ๋วตามแผนการที่คนทั้งสองตกลงกันไว้ก่อนหน้า เพื่อสร้างพันธมิตรในการสู้รบกับโจโฉต่อไป และเป็นไปตามกลยุทธ์ “แมวไล่จับหนู” ที่เลื่องลือ
แต่สำหรับจูล่งแล้ว การเข้าร่วมกับเล่าปี่กลับเป็นการเข้าถึงขุมกำลังใหม่ที่อาจจะเป็นคู่ปรับกับโจโฉได้อีกกลุ่มหนึ่งในภายภาคหน้าด้วย ขุมกำลังฟ้าเหลืองในยามนี้ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงยืดหยุ่นไปตามกระแสการเมืองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ต่อมา กองกำลังช่วยเหลือของกองซุนอวดได้รับทราบข่าวการสูญเสียผู้นำ และเมืองหลักแล้ว เหล่าทหารก็หมดกำลังใจ พากันหลบหนี จนกองซุนอวดอับจนปัญญา ได้แต่นำกองซุนของและคนที่เหลือ หลบซ่อนตามบ้านเรือนของเพื่อนสนิทต่อไป
หลังจากที่อ้วนเสี้ยวยึดครองปักเป๋ง ล้มล้างสกุลกองซุน ทำให้สมดุลย์แห่งอำนาจทางเหลียวตงเปลี่ยนไป พวกชนนอกด่านแถบเหนือ ซึ่งมี เผ่าซงหนู กับเผ่าเซียนเปย เป็นสำคัญ ต่างพากันมาขอเป็นพันธมิตรกับอ้วนเสี้ยว และส่งกองทัพม้าเข้าร่วมทัพเป็นจำนวนมาก ยิ่งทำให้กองทัพกิจิ๋วเข้มแข็งเกรียงไกรมากขึ้นยิ่งกว่าแต่เดิม
...
ฝ่ายสุมาเต๊กโชเอง ก็ทบทวนความคิดอยู่ตามลำพัง ชั่งใจเลือกระหว่างโจโฉกับอ้วนเสี้ยว สองขุนศึกที่มันลอบเฝ้าดูมาเนิ่นนาน ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเลือกข้าง
ด้านโจโฉมีศักยภาพที่จะรวมแผ่นดินได้เร็ว เพราะอยู่ในตำแหน่งการเมืองที่ดี อิงอำนาจรัฐไว้แล้ว แต่แรงต่อต้านก็ยังสูงอยู่ ส่วนอ้วนเสี้ยวอาจจะยุ่งยาก แต่ก็แทรกซึมได้ง่ายกว่าเช่นกัน แผ่นดินอาจจะยุ่งเหยิงอีกสักระยะหนึ่ง เพราะการผลัดเปลี่ยนอำนาจอีกรอบ ซึ่งสำหรับเครือข่ายสุมาแล้ว ระยะเวลาที่นานออกไป อาจจะส่งผลที่ดีต่อแผนการทายาทมังกรที่ใกล้จะสุกงอมแล้วของมัน
“คราก่อน ข้าเลือกกองซุนจ้านให้ครองเมืองปักเป๋ง ครั้งนี้ ข้าทุ่มพนันไปที่อ้วนเสี้ยวให้ยึดแผ่นดินฮั่นละกัน” สุมาเต๊กโช ผู้นำสกุลสุมา ได้ตัดสินใจแล้ว
เครือข่ายสุมาลงมือรวบรัดไร้ร่องรอย กองซุนตู้คือหนึ่งในเหยื่อสังหารปริศนา การเลือกข้างสกุลอ้วน จึงทำให้อ้วนเสี้ยวกลายเป็นเสือติดปีกด้วยการสนับสนุนของขุมกำลังลับสองกลุ่มใหญ่ คือ ขุมกำลังสัตตดาราและเครือข่ายสุมา
…
โจโฉเฝ้าติดตามผลการรบระหว่างอ้วนเสี้ยวกับกองซุนจ้าน หวังให้เกิดความเสียหายทั้งสองฝ่ายจนถึงที่สุด ค่อยเคลื่อนพลตลบหลังเมืองกิจิ๋ว ซึ่งมีเพียงอ้วนถำ สองกุนซือสำคัญ เตียนห้อง ฮองกี๋ และขุนพลมือรอง อยู่รักษาการณ์
หากแต่กาเซี่ยงกลับเสนอแผนพิสดารให้พิจารณา กลับทำให้โจโฉตาลุกวาว พึงพอใจที่จะสามารถขยับขยายอาณาเขตได้เพิ่มเติม โดยสูญเสียกำลังพลไม่มากนัก จึงส่งแผนลับให้แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน สองพี่น้อง รับไปดำเนินการกับกุนซือเงาปีศาจ แต่กาเซี่ยงขอเตียวเลี้ยวไปเสริมทัพด้วยอีกคน เพื่อหวังผลต่อภารกิจซ้อนอีกประการ
...
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ภาค 2 - ปักษีครองอุดร
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย