17 ก.พ. 2021 เวลา 12:49 • นิยาย เรื่องสั้น
(50) Day 6 : Narita Airport
“ติดต่อไม่ได้ตั้งหลายวัน”
เสียงทักกันเอะอะ ทำให้เอพริลหันไปมอง
กลุ่มนั้นน่าจะเป็นเพื่อนๆเขา ผู้ชาย 4 ผู้หญิงอีก 2
https://www.ampersandtravel.com/blog/2019/japanese-art-the-courtesan/
ผู้หญิงในชุดเสื้อกันหนาวสีแดงสดยืนอยู่ใกล้ธันว์มากที่สุด รองเท้าบู้ทส่งให้ร่างโปร่งสูงไล่เลี่ยกับธันว์ กระเป๋าลากและผ้าพันคอมีลายดังของแบรนด์หรู มองจากไกลๆเห็นความสวยโดดเด่นและแพง เอพริลเติมคำสุดท้ายในใจ
ทั้งกลุ่มไม่มีร่องรอยอ่อนล้าของการเดินทางให้เห็น เป็นไปได้ว่าเพิ่งมาถึงด้วยเที่ยวบินเช้า
จากมุมหน้าร้านของที่ระลึกนี้ ดูเหมือนธันว์จะเล่าถึงเธอ ชี้มือมาทางนี้ก่อนจะมีเสียงหัวเราะของกลุ่มผู้ชาย ขณะที่ผู้หญิงชุดแดงหันมามองนิ่งอยู่
เอพริลหันกลับมาเลือกซื้อของฝาก เลือกแล้วใส่ลงในตะกร้าเล็กๆที่ทางร้านจัดไว้ให้ ก่อนจะรู้สึกตัวว่ามีเงาคนยืนข้าง
ร่างสูงเพรียวในชุดแดงนั่นเอง
แวบแรกที่เห็น เอพริลลงความเห็นว่า ใกล้ๆแบบนี้ ยิ่งสวยจัด คิ้วเข้ม หน้าคม และนัยน์ตาฉลาดล้ำ
“สวัสดีค่ะ” เอพริลทักไปก่อน
“สวัสดีค่ะน้อง เห็นธันว์ว่ามาด้วยกันหรือคะ” สายตานั้นอ่านยาก เอพริลยังคงยิ้ม
“รู้จักกันนานหรือยังคะนี่” คนถูกถามเริ่มยิ้มไม่ออก ถ้าไม่ตอบจะได้ไหม
“ขอโทษที่ถาม” แววตาไม่เห็นวี่แววขอโทษ เอพริลหันไปดูธันว์ ท่าจะกำลังเล่าถึงอุบัติเหตุ ชี้ลงบนแผลกับเหมือนกำลังคุยปรึกษาอะไรกันอยู่ทั้งกลุ่ม
คนถามหันไปมองตามสายตานั้น
“เราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันค่ะ รู้จักกันมานานตั้งแต่ไปทำงานใช้ทุนที่จังหวัดเดียวกัน”
อ้อ เอพริลนึกออกอย่างหนึ่ง ธันว์เล่าว่ามีแฟนแล้วตอนเรียนปีหลังๆ ตอนไปทำงานก็ไม่ใช่ตัวเปล่า ทำไม’เพื่อน’คนนี้จึงดูแปลกๆนะ
“อ้อ! น้องเก่งนี่คะ” คนตาคมคงฉลาดจริงจัง แค่เห็นแววตาเธอยังเดาได้
เอพริลเองก็ร้อง อ้อ !
จิตสัมผัสของคู่แข่งเป็นแบบนี้นี่เอง เธอคิดอะไรฉันรู้ ต่างฝ่ายต่างรู้
“เอางี้ พี่เล่าตรงๆ นะ ตั้งแต่รู้จักเขา พี่ก็ไม่เคยมองผู้ชายคนอื่น” เอพริลตาโต ออกทึ่ง หลายปีมากนะนั่น
“อยู่โรงพยาบาลเดียวกับเขา ตื่นแต่เช้าเพื่อรอกินกาแฟที่ห้องพักแพทย์พร้อมเขา กับข้าวแบบไหนที่เขาชอบ ก๋วยเตี๋ยวรสไหนที่เขาอยากกิน อะไรที่เขากินไม่กินพี่รู้หมด รอเพื่อให้ได้กินข้าวเที่ยงพร้อมเขาทุกวัน ทำแบบนั้นอยู่ 3 ปีเต็ม”
อะไรก็ไม่รู้ทำให้ถามออกไป “มื้อเย็นล่ะคะ”
ไม่คาดคิด ใบหน้าสวยมีร่องรอยเจ็บช้ำ
“เขาไปกินข้าวกับแจนน่ะซิ” ปลายเสียงเย้ยหยันตัวเองอย่างปิดไม่มิด
“เขาเรียนต่อ พี่ขอทุนเรียนด้วย ทำทุกทางให้ได้เรียนสถาบันเดียวกับเขา” คนพูดกัดริมฝีปาก ดูท่าจะยังคงตบมือข้างเดียว
1
“จนกระทั่งเมื่อเดือนก่อน” แววตาทอประกายขึ้นก่อนยิ้มเยื้อน
“ยามอกหักใครจะปลอบใจได้ดีเท่าพี่ล่ะคะ จริงไหม” เสียงนิ่มแต่ความหมายเชือดเฉือนใจคนฟังทุกคำ
“ไปกินเหล้ากัน นอนคุยกัน” หะ ! ในใจเอพริลร้องเอะอะ
“จนเขาดีขึ้นหน่อย พี่ก็ว่าดีที่เขาจะมาเคลียร์อะไรๆที่นี่ ก่อนที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน”
เสียงเอะอะในใจเอพริลหายไปไหนก็ไม่รู้ ที่เหลืออยู่คือความเงียบเย็น
“เขาอยากมาคนเดียวพี่ก็ไม่ว่า พี่ขอตามมาทีหลังพร้อมกลุ่มเพื่อน เขาก็ตามใจ” สายตาคนพูดจิกนิ่งที่เธอ เมื่อพูดต่อ “มาถึงนี่มีน้องยืนอยู่ พี่ถึงได้รู้ถึงสาเหตุที่เขาไม่อ่านไลน์”
“น้องคะ” อีกฝ่ายแตะแขน ขณะเอพริลหน้าเริ่มซีด
“พี่ใจกว้างพอสำหรับเรื่องนี้ เพราะน้องคงไม่ได้เรียนเรื่อง 5 ขั้นตอนทางจิตวิทยา”
เอพริลส่ายหน้า คนจบวิศวะอย่างเธอจะไปรู้เรื่องนั้นได้ไงเล่า
“นี่ก็เหมือนขั้นตอนทางจิตวิทยาอื่นๆหลังเจอความสูญเสีย” เสียงพูดฉาดฉานบอกเอพริลว่าเป็นสายงานที่เธอเชี่ยวชาญ
“หลังถูกหักอกหรือหักหลังก็จะต้องผ่านความรู้สึกปฏิเสธว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้นมันไม่จริง ธันว์เขาก็ดื่มเหล้าคร่ำครวญอยู่หลายวัน”
อ้อ ที่ว่ากินเหล้าและนอนคุยกันนั่นซินะ
“ถัดจากนั้นเขาก็โกรธถึงได้มาโดยไม่เลื่อนตั๋ว ถัดมาคือต่อรอง หลังจากนี้แล้วถึงจะเศร้า และยอมรับมันได้ในที่สุด”
เอพริลไม่รู้เรื่อง ก้มหน้าจับมือไม่ให้สั่น
เธอสับสน ขณะเดียวกันก็นึกระแวง ไม่รู้ว่าเพราะเธอกำลัง’ปฏิเสธ’ เรื่องนี้อยู่หรือเปล่า
“น้องเข้ามาจังหวะเหมาะ คือขั้นตอนที่สาม ขั้นตอนต่อรอง” คราวนี้เอพริลเงยหน้าขึ้นสบ แววตามีแววฉงน กึ่งอยากรู้กึ่งไม่อยากได้ยิน
“ผู้หญิงคนหนึ่งยังต้องการเขาอยู่นะ เขายังมีค่า ยังได้รับการยอมรับ”
คนพูดดูจะเน้นคำว่าผู้หญิงคนหนึ่ง
“พี่เองก็แค่รอให้เขาผ่านไปถึงขั้นตอนเศร้าและขั้นตอนยอมรับ หลังจากนั้นพี่กับเขาก็จะได้เริ่มต้นกันเสียที” เจ้าตัวยิ้มมีแววเยาะขณะพูดต่อ
“ส่วนระยะนี้ที่ผ่านน้องนั้น พี่ไม่ถือสาเพราะเป็นขั้นตอนสั้นๆ บอกได้เลยว่า ไม่นาน”
แบบนี้เองหรอกหรือ
เอพริลปวดหนึบไปทั้งใจ
เดินเอาของไปยื่นให้พนักงาน พึมพำว่าไม่เอา
หันตัวจะเดินออกจากร้าน เพื่อไปไหนก็ไม่รู้ นึกไม่ออก รู้เพียงว่าไม่อยากได้ยินอะไรอีก
“โชคดีนะคะน้อง อ้อ! น้องชื่ออะไรคะ” คนพูดอวยพรตามหลัง ก่อนนึกออก
เอพริลหันกลับไปตอบ พึมพำเสียงเบา
ฝ่ายนั้นยิ้ม นัยน์ตามีร่องรอยสบใจบางอย่าง
“น้องต้องทำใจแล้วล่ะค่ะ เขาเลิกกับแจนแล้วก็จริง แต่ยังไม่ถึงคิวเอพริลแน่ เขามีพี่อยู่ตรงนี้ทั้งคน”
ยิ้มนั้นมีรอยเย้ย
“พี่ชื่อมีนค่ะ มีนา”
✨✨✨✨

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา