18 ก.พ. 2021 เวลา 07:53 • นิยาย เรื่องสั้น
(51) Day 6 : Narita Airport
เขาไม่รู้ว่าเอพริลหายไปไหน
มองไปที่ร้านขายของที่ระลึก ก็ไม่เห็น
ละจากกลุ่มเพื่อนแล้ว เดินสวนกับมีนา ใบหน้าเขานิ่งเฉย ขณะอีกฝ่ายนัยน์ตาตัดพ้อ
“ธันว์คะ ติดต่อคุณไม่ได้เลย มีนตามมาเพราะคิดว่าคุณจะอยู่ต่ออีกหลายวัน”
สีหน้าธันว์ยังคงนิ่งก่อนถอนหายใจ
“อย่างที่ผมเคยบอก ผมเปลี่ยนความเป็นเพื่อนไปสู่แบบอื่นไม่ได้” สายตาเขาหยุดที่แขนขวาภายใต้ผ้าพันแผลและเฝือก “โดยเฉพาะเมื่อผมมีเอพริลแล้ว”
https://www.redbubble.com/es/i/funda-ipad/Ukiyo-e-Japanese-Art-Classic-Geisha-Lady-Japan-Art-de-RBEnt/45826213.MNKGF
น้ำตาหยดหนึ่งตกลงบนแก้มคนตรงหน้า ธันว์ถามต่ออย่างเคยชินกับภาพนั้น
“เห็นเอพริลบ้างไหม”
1
“เอพริล..” นัยน์ตาคนถูกถาม จุดประกายยิ้มหยันยามได้ยินเสียงเรียกขานนุ่มนวล
”แม่เมษายนที่นิสัยใจร้อนสมเดือนเกิด ป่านนี้คงเช็คอินเรียบร้อยแล้วมังคะ”
1
เท่านั้นเอง
ธันว์เดินตามหาเอพริลอย่างกระวนกระวาย หาทุกที่ที่คิดว่าเอพริลจะไป รวมถึงร้านขายเป้ร้านนั้นด้วย
เวลากระชั้นเข้ามา เขาจำเป็นต้องไปเช็คอินก่อนจะตกเครื่อง
ผ่านขั้นตอน ตม. ไปถึงหน้าเกทแล้ว เขาจึงเห็นเอพริล
ใบหน้าครึ่งหนึ่งหลบอยู่ใต้ผ้าพันคอสีแดงส้มผืนเดิมขณะที่ร่างเล็กยืนต่อแถวขึ้นเครื่อง
ใบหน้านั้นก้มต่ำ ไม่แม้แต่จะเงยยามที่เขาไปหยุดยืนใกล้
เขาไม่สนใจคนอื่นในแถวนั้น “มีนเล่าอะไรให้คุณฟัง”
ใบหน้าเล็กเงยขึ้นก็จริง แต่หันไปอีกทาง เขาเห็นเพียงเสี้ยวหน้าและจมูกแดง
เอื้อมมือจะไปแตะ อีกฝ่ายหนึ่งถอย
”มีนเล่าอะไรคุณอย่าไปเชื่อนะ ผมไม่เคยมีใครนอกจากแจน และถัดจากแจน ผมไม่เคยมองใครอีก”
เอพริลหันมาสบแววตาเขาจริงจัง อย่างที่เธอเคยเห็นเสมอ แววตาที่บอกว่าเชื่อเขาได้
จริงอยู่ เธอไม่ได้เชื่อมีนาทุกคำพูด
เธอพอจะมองออกว่า หากธันว์เห็นมีนาสำคัญสำหรับเขาจริง คงไม่ทิ้งให้ตามหลังมาเช่นนั้นหรอก
 
แต่มีอีกเรื่องที่มีนาพูด เรื่องนั้นไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
นัยน์ตาที่มีรอยแดงช้ำยังมีอะไรบางอย่างที่ธันว์ไม่เข้าใจ เขาขยับจะแตะมือ ขณะเอพริลขยับไปหน้าตามแถวที่เลื่อน
มือเขาตกลงข้างตัวอย่างอ่อนแรง
ทำอย่างไรดี
เขาเหลือบมองตั๋วโดยสารของเอพริลไว้แล้ว หากเป็นไปได้ ขึ้นไปแล้วเขาจะไปขอแลกที่นั่งเพื่อให้นั่งติดกัน
จะอย่างไร เขาต้องให้เอพริลถามสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจให้หมด ขอแค่มีเวลาเท่านั้น เขาเชื่อว่าเขาตอบได้ทุกสิ่งอย่าง
จากที่เขาเห็น เอพริลได้ที่นั่งแถว A
เขารู้สิเล่า
บนรถไฟตอนเช้า เขากับเอพริลวางแผนกันไว้ว่าจะนั่งตรงนั้น ที่นั่ง A ที่จะมองเห็นฟูจิในยามที่กัปตันหมุนตีวงเลี้ยว คนที่นั่งแถวนั้นจะสั่งลาฟูจิจากมุมสูง
เอพริลบอกเขาว่า เธอวางแผนจะสั่งลาแบบส่งจูบ
เจ้าตัวแสดงท่าให้ดู เอาหน้าไปแนบริมหน้าต่างรถไฟอย่างสมมุติเป็นหน้าต่างเครื่องบิน
แนบกับหน้าต่างแล้ว คนที่นั่งตรงข้ามเขาก็เอามือแตะริมฝีปาก ไปแปะลงบนกระจก
เขาฉกฉวยจังหวะนั้น เอามือแตะริมฝีปากตัวเอง ไปแปะซ้ำรอย
เอพริลร้อง”อี๊อ!” เสียงลากยาวอย่างทำทีเป็นขัดใจ แต่ใบหน้าเรื่อ “เค้าจองที่แปะรอยจูบไว้แล้วนะ ห้ามใครมาแปะอีก”
“อ้าว! ไม่รู้ว่าหวงที่” นัยน์ตาระยิบขณะจับจ้องริมฝีปากนั้น ขณะพูด “จะได้ฝากจูบไปก่อนคุณแปะ”
เอพริลตามไม่ทัน
หน้าเรื่อนั้นนิ่งคิด คงทวนคำก่อนคิดตามอย่างเป็นขั้นตอน
‘ฝากจูบก่อนไปแปะ ฝากจูบก่อนไปแปะ’
การได้เห็นหน้านวลค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด คงเป็นความสุขของเขาไปเสียแล้ว
และเมื่อเช้านี้เองที่เขาตัดสินใจมั่น
ยามได้นั่งสั่งลาฟูจิด้วยกันบนเครื่อง
เมื่อเอพริลเลื่อนหน้าไปแนบกระจก เขาจะเลื่อนตัวเข้าไปชิด แขนซ้ายของเขาจะโอบรอบไหล่มน
คงไม่มีเวลาให้เอพริลมักท้วง ยามที่เขาเลื่อนหน้าไปแนบแก้มนวล ชี้ชวนกันมองฟูจิ
และเวลานั้น
เขาจะขอให้ฟูจิซังเป็นพยาน
ขณะเอื้อนเอ่ยคำๆหนึ่ง
✨✨✨

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา